3 มิ.ย. 2020 เวลา 15:13 • ข่าว
1 min Read - #BlackOutTuesday เทรนด์สุดฮิตนี้คืออะไร ?
#BlackOutTuesday คืออะไร ?
คือกิจกรรมการประท้วงเพือรำลึกถึงการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติจากการเสียชีวิตของ George Floyd
และเจ้าอีเว้นประท้วงนี้ก็พึ่งเกิดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้เอง โดยสื่อ Online ต่างๆเกือบทุกมุมโลกจะมีการไว้อาลัย รวมถึงการประท้วงออกมาทางสื่อ (แต่กลุ่มการใช้ความรุนแรงในอเมริกา อันนั้นจริงๆเค้าไม่ถือว่าเป็นอีเว้นนี้นะ แห่ะๆ)
จริงๆแล้วไม่ได้มีแค่ Hashtag #BlackOutTuesday
แต่ยังมี #TheShowMustBePaused ซึ่งเค้าจะเป็นอีเว้นที่ ให้ประชาชนมีการหยุดงานและเคลื่อนไหวในการเรียกร้องความเท่าเทียมทางมนุษยชน
รวมถึง #blacklivesmatter ก็ติดเทรนด์ตามมาอีกเช่นกัน
#BlackOutTuesday เกิดขึ้นมาจากไหนน้ะ ?
เกิดขึ้นมาจาก Jamila Thomas and Brianna Agyemang เป็นผู้หญิงผิวสี 2 คน จากค่ายเพลง Atlantic Records และ Platoon ได้ทำการเริ่มต้น Hashtag นี้ขึ้นมาเพื่อที่จะเรียกเสียงความยุติธรรม และต้องการความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้จากรัฐบาลสหรัฐอย่างเป็นทางการในให้สัปดาห์นี้
Brianna Agyemang, Ghanian-American influencer
โดยที่เธอยังบอกอีกว่า การประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมนี้ ไม่ได้หยุดเพียงแค่วันอังคารที่เท่านั้น แต่จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเสียงของพวกเขาจะดังมากพอจนเกิด action
มีองค์กร หรือ บริษัท ไหนที่เข้าร่วมแสดง reflective action บ้าง ?
- BET และ MTV ได้ทำการหยุดฉายด้วยภาพขาวดำราวๆ 8.46 นาที (นาทีที่ Floyd โดนตำรวจกดทับจนเสียชีวิต)
- Warner Music Group, Sony Music, และ Universal Music Group จะไม่ทำการเปิดตัวเพลงใหม่ทั้งสิ้นในสัปดาห์นี้
- Spotify และ Apple Music ยังได้สร้าง Black Tile Playlist ที่จะมีการแทรกใส่เพลงของนักร้องผิวสีเข้ามาจำนวน 8.46 นาที
- Fenty Beauty ของ Rihanna ก็จะไม่ทำการขายในวันอังคารที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน
- ITV เองก็ยังมีการ pause รายการข่าวช่วงเช้าและแทรกด้วย หน้าจอสีดำพรอมข้อความ "Black Lives Matter"
- Columbia Records ค่ายเพลง Rap ชื่อดังจาก Sony เองก็ออกมาบอกว่า วันอังคารนี้จะให้เป็นวันที่บริษัทปิดทำการ แต่ทุกคนในบริษัทไม่ได้แค่หยุดพัก... แต่เราก็จะมาหารือกันว่าเราจะสามารถสะท้อนเหตุการณ์นี้และทำให้ความเป็นอยู่ความเท่าเทียมกันได้อย่างไรบ้าง
ที่เพื่อนๆเห็นว่าส่วนใหญ่บริษัทที่ออกมาแสดงการกระทำ Reflection เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นวงการบันเทิงหรือสื่อเนอะ ก็เพราะว่า เอาเข้าจริงแล้ว เกือบ 50% ของนักร้องนักแสดง หรือวงการภาพยนต์เนี่ย เป็นคนผิวสีเข้าไปแล้วละ
อีกทั้ง การที่วงการบันเทิงออกมาเคลื่อนไหว ย่อมเห็นภาพได้ชัดเจนและ กว้างขวางอย่างรวดเร็วกว่าเยอะมาก ประมาณนี้ จบแล้วววสำหรับเทรนด์สุดฮิตอันนี้น้าาา เผื่อเพื่อนๆคนไหนติดตามข่าวสารนี้อยู่ก็คงเห็นเทรนด์นี้ผ่านตาแน่นอน
โฆษณา