3 มิ.ย. 2020 เวลา 16:07 • ประวัติศาสตร์
ฝีดาษไข้มรณะที่พรากแต่แม้ชีวิตของกษัตริย์กรุงสยาม
ฝีดาษหรือที่คนไทยคุ้นหูกันในชื่อไข้ทรพิษ เป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสวาลิโอลา (Variola Virus) ในกลุ่มออร์โธพ็อกซ์ไวรัส (Orthopoxvirus) จะมีลักษณะเป็นผื่นขึ้นทั่วตัว อาการโดยทั่วไปถือว่าค่อนข้างรุนแรง
โรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษเชื่อว่ามีมานานกว่า1000ปีก่อนคริสต์ศักราช เพราะจากหลักฐานการตรวจพบมัมมี่ของฟาโรห์รามเสสที่5แห่งอียิปต์โบราณ ที่สวรรคตจากโรคฝีดาษเมื่อ 1,145ปีก่อนคริสต์ศักราช ในเอเชียเชื่อว่ามีการระบาดเข้าจีนช่วงศตวรรษที่1 แต่แพร่ระบาดจากจีนเข้าญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่6 จนเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในเกาะญี่ปุ่นทำให้ประชากรกว่า1ใน3ต้องเสียชีวิต และคาดว่าจะเริ่มระบาดเข้ายุโรปช่วงศตวรรษที่2จนถึงศตวรรษที่16 และมีการระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลกช่วงกลางศตวรรษที่18
กระทั่ง ปีค.ศ.1796 เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ (Edward Jenner)(รูปล่างขวา) แพทย์ชาวอังกฤษได้คิดค้นวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษจนสำเร็จด้วยการปลูกฝี แต่ช่วงแรกของการค้นพบวัคซีนนั้นยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับมากนัก จนกระทั้ง ปี 1800 วัคซีนของเขาจึงได้เป็นที่ยอมรับ โดยได้รับการรับรองจากรัฐสภาของอังกฤษทั้งผลการทดลองและประสิทธิภาพของวัคซีน จนแพร่หลายไปทั่วโลก ถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่มียารักษาโรคฝีดาษแต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีนหรือการปลูกฝี จนโรคดังกล่าวแทบจะไม่หลงเหลือเชื้ออยู่แล้วในปัจจุบัน
ในประเทศไทยนั้นพบหลักฐานการระบาดจากบันทึกพงศาวดาร ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่4 หรือที่รู้จักกันในพระนาม สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร กษัตริย์องค์ที่11 แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยในพงศาวดารบันทึกว่าพระองค์เสด็จสวรรคตจากอาการป่วยด้วยไข้ทรพิษ(รูปบน) ไม่เพียงเท่านั้นต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศ วรมหาราช พระองค์ก็ได้ป่วยด้วยโรคไข้ทรพิษแล้วเสด็จสวรรคตที่เมืองหาง (อยู่ในรัฐฉานปัจจุบัน) ซึ่งตรงกับการระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลกในศตวรรษที่16 ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือ พระมหาธรรมราชา กษัตริย์องค์ที่31แห่งกรุงศรีอยุธยา ก็ได้มีการระบาดอีกครั้ง ต่อมาในยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เกิดการระบาดของโรคฝีดาษอย่างหนักในรัชกาลที่3 แล้วจึงเริ่มการปลูกฝีครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 2ธันวาคม พ.ศ.2379 แล้วตั้งแต่ช่วง พ.ศ.2460-2504 ยังมีระบาดอยู่เรื่อยๆทุกปี จนกระทั้งกระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการรณรงค์ปลูกฝีป้องกันโรค จนปีพ.ศ. 2523 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าโรคฝีดาษได้ถูกกวาดล้างจนหมดแล้ว และในประเทศไทยก็ไม่เคยพบการระบาดอีกเลยจนถึงปัจจุบัน
โรคระบาดไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมานั้นคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดและก็คงไม่มีใครอยากจะติดเชื้อด้วย เพราะฉะนั้นก่อนออกจากบ้านไปสถานที่ใดๆก็แล้วแต่อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้ากันนะครับ แล้วอย่าลืมพกเจลแอลกอฮอล์ติดตัว หมั่นล้างมือให้สะอาดๆ และที่สำคัญคือ Social distancing การเว้นระยะห่างทางสังคมกับคนอื่น ด้วยความเป็นห่วงลูกเพจทุกท่านจากใจทีมงานแอดมิน
หมอกเพลิง
#วิทยาการวันพุธ
ติดตามสาระดีๆมากมาย
ได้ที่เพจ #รัตนาธิเบศร์เล่าขานประวัติศาสตร์ RATTANATIBATE CULTURE, HISTORY,SOCIETY&SCIENCE @rattanaHisandSo หรือที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา