4 มิ.ย. 2020 เวลา 09:41 • ข่าว
#คืนอันหนักหน่วงที่นิวยอร์ค
#งานประท้วงสหรัฐทำยอดขายปืนพุ่งกระฉูด
เครดิตภาพ NBC New York
เข้าสู่วันที่ 10 ของการประท้วงใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ที่มีการประกาศเคอร์ฟิวในหลายๆรัฐ รวมถึงรัฐนิวยอร์ค ที่เป็นจุดที่มีการประท้วง และเกิดเหตุจราจล ปล้น เผา ห้างสรรพสินค้าในหลายคืนที่ผ่านมา
มาวันนี้ก็มีข่าวว่า เกิดเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในย่านบรู๊คลิน ของนิวยอร์ค ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวใกล้เที่ยงคืนของวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเดินลาดตระเวณเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุปล้นสะดม ปรากฏชายคนหนึ่ง แอบเขามาทำร้ายตำรวจด้วยมีดจากทางด้านหลังโดยการแทงเข้าบริเวณลำคอ แล้วแย่งปืนตำรวจมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ และเกิดการยิงปะทะกัน
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ NYPD ได้รับบาดเจ็บถึง 3 นาย ได้แก่เจ้าหน้าที่คนแรกที่ถูกแทงบริเวณลำคอ ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 2 นายถูกยิง ขณะต่อสู้กับคนร้าย
อาวุธมีด ที่ใช้โดยคนร้าย เครดิตภาพ NBC New York
ส่วนคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตอบโต้ โดนกระสุนหลายนัด อาการสาหัส ผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีใครเสียชีวิต
ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ประท้วงหรือไม่ แต่ก็สร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนในชุมชนไม่น้อย
เครดิตภาพ Fox News
ในสถานการณ์ของสหรัฐตอนนี้ ถือว่าน่าเป็นห่วง ไม่ใช่ในแง่ของการระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือ การชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนผิวดำเพียงอย่างเดียว แต่มีความเปราะบางในเหตุการณ์ ที่พลิกผันทำให้สหรัฐกลายเป็นบ้านป่า เมืองเถื่อน เพราะมีกลุ่มคนที่ไม่หวังดี พวกรู้หน้า ไม่รู้ใจ ใช้เหตุการณ์ครั้งนี้ก่อความรุนแรงสารพัดรูปแบบ
ด้วยเหตุนี้ เลยทำให้ชาวอเมริกันหลายครอบครัวเริ่มรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยแล้ว จึงรีบไปหาซื้ออาวุธปืน มาเก็บไว้ป้องกันตัวเป็นจำนวนมาก ทำให้ยอดขายปืนในสหรัฐพุ่งกระฉูดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยยอดขายกระสุน และอาวุธปืน เริ่มเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ที่สหรัฐเริ่มเข้าสู่วิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
เครดิตภาพ USA Today
มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายปืนโดยรวมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สูงขึ้นถึง 78% และยอดขายกระสุนทางออนไลน์ ของร้าน Ammo.com สูงขึ้นถึง 602% ส่วนใหญ่เป็นยอดสั่งจากรัฐเท็กซัส ฟลอริด้า และ อิลลินอยส์
ส่วนการลงคอร์สสอนยิงปืนทางออนไลน์ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 50% ในช่วงที่มีมาตรการล็อคดาวน์ หลายคนให้เหตุผลว่า ตัดสินใจซื้อปืนไว้ติดตัว เพราะไม่สบายใจในเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
เครดิตภาพ RT
ซึ่งตัวเลขนี้ ไม่สามารถบอกเราได้ว่า คนที่ซื้ออาวุธปืน และกระสุนเก็บไว้นี้ จะเป็นสุจริตชน ที่ต้องการป้องกันตัวเองจริงๆ หรือ ทรชน ที่จะเอามันไปใช้ในทางเสื่อม
แต่ด้วยความที่ตอนนี้หลายเมืองเกิดความไม่สงบ มีผู้ไม่หวังดี หรือกลุ่มคนหัวรุนแรงมาผสมโรง บวกกับความแรงของเสี่ยทรัมพ์ ออกมาท้ายทาย และข่มขู่ว่าจะใช้กำลังทหารเข้าปราบปราม ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านกลัว และกระตุ้นให้ออกไปซื้อปืนมาติดบ้านกันมากยิ่งขึ้น
ก็นับเป็นธุรกิจที่สวนกระแสในยุคเศรษฐกิจซบเซาของสหรัฐ แต่จะเป็นเรื่องดีหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ😅
เหตุการณ์ในสหรัฐอเมริกาช่วงนี้ จึงน่าจับตาจริงๆค่ะ ด้วยอารมณ์ได้แต่ดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และหวังว่าทางการสหรัฐจะควบคุมเหตุการณ์ได้โดยไว และไม่บานปลายไปกว่านี้นะคะ
แหล่งข้อมูล
โฆษณา