Blockdit Logo (Mobile)
สะแด่วไก่ไชน่าจีน
•
4 มิ.ย. 2020 เวลา 13:20 • ครอบครัว & เด็ก
รู้หรือไม่
“คนจีนมีลูกไม่ได้ ถ้ารัฐบาลไม่อนุญาต!!!”
อย่างที่เราพอจะรู้ๆ กันมาบ้างว่า รัฐบาลจีนมีนโยบายระดับชาติเรื่อง “การควบคุมจำนวนประชากรในประเทศ”
ดังนั้นการที่คนจีนจะมีลูก จึงไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนอย่างบ้านเรา เพราะถ้าวางแผนจะมีลูกหรือพบว่าตัวเองท้องขึ้นมาเมื่อไหร่ สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องทำก็คือ “ต้องรีบไปขออนุญาตจากรัฐบาลก่อน” หาไม่เเล้วถึงเวลาลูกคลอดออกมา เตรียมโดนข้อหา “มีลูกโดยผิดกฏหมาย” ได้เลยจ้ะ
การที่คนจีนจะมีลูกได้ จำเป็นต้องมีเอกสารที่ออกโดยรัฐบาลจีนที่มีชื่อว่า “เอกสารบริการให้กำเนิดบุตร” (生育服务证) หรือที่คนจีนนิยมเรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “ใบอนุญาตคลอดบุตร” (准生证) เอกสารตัวนี้ใช่ว่าคนจีนจะขอกันมาได้ง่ายๆ เพราะว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องกลับไปยื่นเอกสารตามภูมิลำเนาที่ตนเองขึ้นทะเบียนอยู่ เอกสารต้องผ่านการรับรองตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล ไปจนถึงระดับอำเภอ ต้องวิ่งกันหลายรอบมากๆ กว่าจะได้ โหดสาหัสจนเคยได้รับสมญานามว่า “เจอเถิงเจิ้ง” (折腾证) หรือ “เอกสารแห่งความทรมานวุ่นวาย”
หน้าตาเป็นเยี่ยงนี้้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อกำหนดเรื่อง การขอ "ใบอนุญาตคลอดบุตร" ของจีนมีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย โดยรายละเอียดของแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลท้องถิ่นนั้นๆ ว่าจะกำหนดอย่างไร
เช่น หลายที่ในจีนตั้งแต่ปี 2015-2016 คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถแค่ไปขึ้นทะเบียนเฉยๆ ก็เพียงพอ แต่บางที่หากมีลูกคนแรกไม่ต้องขอ ถ้าจะมีคนที่ 2 ก็ต้องไปขอก็มีเหมือนกัน ก็ต้องถามรัฐบาลในแต่ละท้องที่นั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร
และบางที่ยังอำนวยความสะดวกด้วยการสามารถขึ้นทะเบียนผ่านเว็บไซต์ APP หรือ Wechat Official Account ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โดยตรง ทำให้คุณพ่อคุณแม่ ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปวิ่งมาให้เหนื่อย
คุณสมบัติพื้นฐานของผู้มีสิทธิ์ยื่นคำร้องเพื่อขอใบอนุญาตคลอดบุตรสำหรับลูกคนที่ 2 ได้แก่ “ต้องมีเอกสารทะเบียนสมรส” และ “ฝ่ายหญิงต้องมีอายุตั้งแต่ 24 ปีขึ้นไป” โดยต้องเว้นระยะเวลาห่างจากอายุของลูกคนแรก 4 ปี แต่หากฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 28 ปี ก็สามารถเว้นเพียงแค่ 2 ปีได้
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แล้วไปคลอดลูกโดยไม่มีใบอนุญาต รัฐบาลถือว่าเป็น “การคลอดลูกโดยผิดกฎหมาย” จำเป็นต้องไปจดทะเบียนสมรสให้เรียบร้อย พร้อมกับเสียค่าปรับ ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอ “ใบอนุญาตคลอดบุตร” ได้อีกที
แต่ไหนๆ น้องก็คลอดออกมาเเล้วนี่ ไม่เห็นต้องมี “ใบอนุญาตคลอดบุตร” ก็ได้นี่?!!!
.
หึหึ แอดบอกเลยว่าเรื่องมันไม่ง่ายแบบนั้น!!! เพราะลูกคุณจะไม่มีสิทธิ์ขึ้นทะเบียน กลายเป็นมนุษย์ไม่มีสำมะโนครัว ไม่มีบัตรประชาชน ไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้ ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่สามารถรับบริการใดๆ ของรัฐได้ ลูกคุณจะทำอะไรไม่ได้เลย...ย
หน้าตาข้างใน
นอกจากนี้ การขอ “ใบอนุญาตคลอดบุตร” มาเสียเนิ่นๆ ก่อนคลอด ว่าที่คุณแม่จะได้สิทธิ์รับสวัสดิการจากรัฐ เช่น “ประกันการมีบุตร” ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิ์พื้นฐานของประกันสังคมจีน ทำให้ไม่ต้องเสียค่าคลอด ค่าผ่าตัด แต่อาจจะต้องเสียค่ายา ค่าห้องบ้างเองบางส่วน ซึ่งก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะ
สรุป เนื้อหาทั้งมวลนี้ไม่สามารถบอกสรุปได้ว่าเมืองจีนทั้งประเทศเป็นแบบนี้ ต้องเข้าไปรายละเอียดตามกฏหมายท้องถิ่นของแต่ละที่อีกทีด้วยจ้ะ
#จีน #China #วิถีจีน #สังคมจีน #กฎหมายจีน #ใบอนุญาติกำเนิดบุตร #ใบอนุญาตคลอดบุตร #ใบอนุญาตคลอดลูก #ภาษาจีน #เขียนเพจไปเรื่อยๆจนกว่าจีนจะหมดเรื่องเล่า
ภาคเสริม :
เมื่อปี 2016 เมืองจีนได้แก้ไข "กฏหมายการวางแผนการมีบุตรและประชากรสาธารณรัฐประชาชนจีน" 《中华人民共和国人口与计划生育法》โดยข้อที่ 18 ระบุไว้ว่า “ประเทศสนับสนุนให้คู่สามีภรรยา 1 คู่ มีบุตรและธิดาได้ 1 คน” แก้ไขเป็น “ประเทศสนับสนุนให้คู่สามีภรรยา 1 คู่ มีบุตรและธิดาได้ 2 คน”
ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2016 ระบบ “ระบบอนุญาตคลอดบุตร” ในจีนจึงเริ่มผ่อนคลายลง แต่ไม่ได้ยกเลิก รัฐบาลท้องถิ่นบางท้องที่เปลี่ยนชื่อเรียก “ใบอนุญาตคลอดบุตร” (准生证） เป็น “ใบบริการคลอดบุตร” （生育服务证）หรือชื่ออื่นๆ ตามแต่จะตั้ง
ส่วนรายละเอียดในข้อกำหนดว่า “จำเป็นต้องมีใบอนุญาต” หรือ “เพียงแค่ขึ้นทะเบียน” หรือ “แบบอื่นๆ”รัฐบาลท้องถิ่นแต่ละที่จะเป็นผู้กำหนดเองว่าจะเป็นอย่างไร
เนื่องจากเมืองจีนนั้นใหญ่มาก แอดไม่สามารถอธิบายรายละเอียดของแต่ละท้องถิ่นให้ได้หมดจริงๆ
สำหรับคนที่อ่านภาษาจีนได้ สามารถลองเข้าไปศึกษารายละเอียดตามเว็บไซด์รัฐบาลด้านล่าง (Goverment Website) ที่แอดรวบรวมมาให้ได้
โฆษณา