5 มิ.ย. 2020 เวลา 09:04 • ความคิดเห็น
แอดมินกลับมาเเล้วนะครับ หลังจากที่ห่างหาย ถ้าใครติดตามเพจจะรู้ว่าแอดมินหายไปจริงๆ 55555
พอดีช่วงนี้แอดมินติดซีรี่เกาหลี อยู่เรื่องนึง เเล้วพอดูไปดูมา รู้สึกว่า ซีรี่ 2 เรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกันของ พอตเรื่อง วันนี้แอดมินเลยมาเอาใจสายซีรี่เกาหลี โดยจะมาเขียน บทความเกี่ยวกับ ความรักของซีรี่ 2 เรื่องนี้กัน
ถ้าใครเป็นแฟนซีรี่เกาหลี คงจะรู้จัก 2 เรื่องนี้เป็นอย่างดี เรื่องเเรก ด้านซ้ายมือ มีชื่อว่า "Globin" ซึ่งเป็นซีรี่ ที่ออกฉายมานาน เเต่กลับมาดังอีกครั้ง เพราะได้มีลงใน Netflix ซึ่งตอนนี้ก็อยู่อันดับ 1 ในไทย ที่คนดูเยอะ รองลงมาก็เป็นซีรี่ที่กำลังฉายอยู่ มีชื่อเรื่องว่า "the king eternal monarch"
ซึ่ง 2 เรื่องนี้เท่าที่แอดมินดูมามันมีพอตเรื่องบางอย่างที่คล้ายๆกัน งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า มันสอดแทรกอะไรไว้บ้าง
แอดมินจะขอเล่าเรื่องย่อๆ ของ 2 เรื่องนี้แบบรวมๆนะครับ
เรื่องเเรก globin พระเอกเป็น ยมทูต ที่มีชีวิตมานานนับ ร้อยปี เพราะมันคือคำสาปอย่างนึง ทางเดียวที่เขาจะหลุดพ้น คำสาปนี้คือตามหาหญิงสาว ผู้ที่เป็นคู่หมั้นของเขา เเต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยปี เขาก็ยังไม่เจอผู้หญิงคนนั้น จนเมื่อเขาไปเจอนางเอก เขาตกหลุมรัก ครั้งเเรกที่เดินผ่านเธอ เเละ ความรักของพวกเขาก็ต้องเจอเรื่องราวมากมายเพื่อที่จะต่อสู้ เเละ อยู่ด้วยกันตลอดไป เรื่องราวความรักที่เเสนยากของ ยมทูตกับ คนธรรมดา
เรื่องที่ สอง the king eternal monarch เรื่องราวความรัก ของ 2 โลก ที่ขนานกัน เเต่ยากที่จะมาบรรจบกัน จนกระทั่ง พระเอกที่เป็นราชา ของเกาหลีในอีกโลกหนึ่ง ได้พลังที่จะข้ามมาอีกโลกเพื่อตามหานางเอก ในอีกโลกที่เป็นตำรวจธรรมดาทั่วๆไป เขาทั้งสองคนต้องข้ามโลก 2 ใบนี้ไปมา เพื่อ ต่อสู้กับเรื่องราวมากมายรวมทั้ง เรื่องราวความรักที่มันเเทบเป็นไปไม่ได้ของ ราชาอีกโลก กับ คนธรรมดาอีกโลก
ถ้าเพื่อนๆ อยากดู สามารถติดตามกันดูได้ใน Netflix นะครับ
บางคนก็คงสงใสเเล้วว่า ทำไมแอดมินถึงหยิบสองเรื่องนี้ขึ้นมา
ถ้าลองอ่านเรื่องราวที่แอดมิน เขียนข้างบน ลองสังเกตดีๆแอดมินจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด เเต่แอดมินจะหยิบเเค่ประเด็นบางอย่างที่ คนทำหนังต้องการจะสื่อให้ คนดูได้ลองสังเกตกัน
2 เรื่องนี้มี story ที่คล้ายๆกันตรงที่ว่า ความรัก ของ 2 เรื่องนี้ มันมีความเป็นไปไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ระหว่าง คนธรรมดา กับ ยมทูต หรือ คนธรรมดา กับ พระราชาผู้สูงส่ง
มันก็จริงอยู่ ที่ในโลกความจริงๆ ไม่มีโลกคู่ขนาน หรือ ยมทูต
เเต่ 1 สิ่งที่คนทำหนังต้องการจะสื่อก็คือ ไม่มีความเป็นไม่ได้ ใน เรื่องความรัก มันขึ้นอยู่กับ คน สองคนว่า ถ้าเรารักกันจริง เรา 2 คนพร้อมที่จะต่อสู้ไปด้วยกันกับความเป็นไปไม่ได้ทั้งหลายให้เป็นไปได้
ละถ้าเราลองสังเกตดีๆ ในหนังจะมีฉากที่ คน สองคนต้องเเยกทาง หรือ ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน เเต่ เขาทั้ง 2 ก็พร้อมที่จะรอคอยเวลาที่จะได้มาเจอกันอีกครั้งต่อให้ มัน นานเเค่ไหน พวกเขาก็ยังคงรอคอย เพราะมันคือความรักของ คน สอง คนที่ต่างกัน เเต่ รักกันมาก
ถ้าลองมองดูในโลกความจริง ความรักอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ก็อย่างเช่น ถานะที่ต่างกันเกินไป ต่อให้เรารักกันเเค่ไหน เเต่ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ มันก็คล้ายๆกับ การที่เราอยู่คนละโลก กัน
ถ้าเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ เรามีทางเลือกได้เเค่ 2 ทาง
คือ หนึ่ง บางคนพอเจอ ความรักที่เป็นไปไม่ได้ ก็อาจจะถอย หรือ ยอมแพ้ เพราะมันต่างกันเกินไป
หรือ
จะสู้ไปพร้อมกัน ทั้ง สองคน
เเต่ส่วนมาก จะเป็นแบบที่ 1 เพราะความต่างกันมากไป ซึ่งสำหรับแอดมิน ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ คน สองคน มีความต่างกันมาก ถึงจะรักกันเเค่ไหน มันก็เป็นไปได้ยาก
เเต่นั่นเเหละครับ คือ สิ่งที่หนังอยากจะสื่อ ต่อให้มันยากเเค่ไหนหรือ ต่อให้มันเป็นไปไม่ได้เลย เเต่ถ้าเรา สองคน สู้ไปด้วยกัน ความเป็นไปไม่ได้ ที่ เป็น 0 ก็อาจจะเป็น 0.000001 ได้ ต่อให้มันเล็กน้อย เเต่ถ้ามันมีความเป็นไปได้ มันก็คุ้มค่า สำหรับเราสองคนใช่มั้ยละครับ เเต่กว่าจะถึงจุดนั้น มันต้องผ่านบทพิสูจน์ มากมาย
เเละ นี่ก็คือรสชาติอย่างนึงในความรัก
แอดมินก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังต่อสู้กับความรักที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้นะครับ
เเล้วเพื่อนๆละครับ เคยเจอ หรือ กำลังเจอ ความรักที่เป็นไปไม่ได้ กันบ้างป่าวครับ มาเเชร์ ให้แอดมินฟังได้นะครับ
ส่วนบทความหน้า แอดมินจะมีเรื่องไรมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกันก็อย่าลืมติดตามกันได้นะครับ
โฆษณา