6 มิ.ย. 2020 เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์
หญ้าอาการสัตว์ชนิดใหน ดีที่สุดกันแน่?
ในขณะที่พ่อค้าหญ้าอาหารสัตว์ ต่างก็ชูช่อว่าพันธุ์หญ้าของตัวเองดีที่สุด แต่เดี๋ยวก่อน เราจะเชื่อได้จริงหรือเปล่านะ?
เดี๋ยวเรามาหาคำตอบ ที่ได้จากประสบการณ์การทำฟาร์ม และขยายพันธุ์หญ้าของแอดมินเองครับ
บทความนี้จะมาแบ่งบันความรู้โดยจะอิงจากหญ้าที่มีในแปลงเพาะพันธุ์ของแอดมินเองเท่านั้นนะครับ
ผมเองมีแปลงหญ้าอาหารสัตว์ทั้งหมด2ไร่ครับ เเบ่งเป็นหญ้าเนเปียร์ 80% หญ้าหวานอิสราเอล10% และอื่นๆอีก10% ครับ
ต้นเดือนหน้าก็จะเริ่มขยายเพิ่ม โดนวางเเพลนจะทำแปลงหญ้ากินนี
แต่วันนี้เราไม่ได้จะมาพูดถึงแปลงหญ้าหลักกันหรอกครับ
แปลงเพาะพันธุ์ต่างหากที่ผมจะนำมาเล่าสู่เพื่อนๆฟัง เอ้ย! เขียนสู่เพื่อนๆอ่าน
ที่เห็นนั่นคือแปลงเพาะพันธุ์หญ้าของผมเอง
รวมพันธุ์หญ้าไว้ทั้งหมด4สายพันธุ์ บนพื้นที่2งาน หรือราวๆ800ตารางเมตรนั่นแหละ
เเปลงนี้เกิดขึ้นเพราะผมเองอยากรู้ข้อดีข้อเสียของหญ้าแต่ละชนิดก่อนปลูกจริงจังนั่นเองครับ เพราะการทำแปลงหญ้าต้องใช้ทุนค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ยเหมือนกัน
ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปรู้จักกับหญ้าชนิดเเรกกันเลย
หญ้ารูซี่ : เป็นหญ้าที่นิยมใช้กันมานานแล้วในแปลงหญ้าอาหารสัตว์บ้านเรา หาซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ไม่ยาก ด้วยความที่ปลูกง่าย โตไว และสามารถใช้งานได้ทั้งแบบตัดมาให้กินในคอก หรือจะปล่อยสัตว์แทะเล็มก็ดีใช้ได้เลย เเก๋ว!
แต่ข้อเสียของหญ้ารูซี่ก็คือ ปริมาณการผลิตต่อไร่ ต่อไป จะน้อยกว่าหญ้าชนิดอื่นๆครับ
หญ้ากินนี : เป็นหญ้าอาหารสัตว์เก่าแก่เลยก็ว่าได้ ใช้กันมานาน น้าน นานแล้วครับ
เป็นหญ้าที่มีต้นใหญ่ ใบหนากว่าหญ้ารูซี่ แต่ใบจะสากและแข็งกว่า เป็นหญ้าที่ขยายพันธุ์ง่ายมาก
***(ผมเองก็ไม่ได้ซื้อพันธุ์มานะ เเต่ไปหาเอาตามข้างทาง555 เขิน)
ลักษณะจะคล้ายๆกอตะใคร้ครับ เวลาปลูกนิยมใช้การแบ่งหน่อออกปลูก แล้วจะแตกกอเลอเริ่มเทิ่มเลย
แต่ข้อเสียคือเป็นหญ้าที่ไม่เหมาะสำหรับปล่อยแทะเล็มครับ เพราะต้นเขาจะสูงหน่อยนึง
หญ้าสวีทจัมโบ้ที่เตรียมรอเก็บเมล็ดครับ
หญ้าสวิทจัมโบ้ : เป็นไง จัมโบ้สมชื่อมั่ยล่ะ
เป็นหญ้าในตระกูลข้าวฟ่างครับ หญ้าชนิดนี้ดีสุดๆเลยตรงที่โตไว มาก ย้ำว่า มากกกกกกก ก.ล้านตัว
ปลูกไปแค่เดือนเดียวก็เก็บเกี่ยวมาให้สัตว์ในฟาร์มกินได้แล้วเน้อ
**ถ้ามีน้ำให้อย่างสม่ำเสมอละก็ ตัดได้ปีละเกือบ10รอบแนะ
และที่เยี่ยมขึ้นไปอีกก็คือ สมารถให้สดก็ได้ ทำหญ้าหมักก็ได หรือทำหญ้าแห้งก็ได้อีก เป็นหญ้าในดวงใจผมเลยครับ
เดี๋ยวๆ พี่เขาก็มีข้อเสียเหมือนกันนาจา
ข้อเเรกเลย ปล่อยเล็มไม่ได้เเน่นอน ต้นสูงเบอร์นี้
อีกข้อครับ หญ้าสวีทจัมโบ้มีอานุสั้นมาก แค่2ปีเท่านั้น
วิธีรับมือ คือแบ่งส่วนหนึ่งไว้ให้ออกดอก และเก็บเมล็ดไว้ปลูกต่อ **แบบในรูปเลยครับ
และแล้วก็มาถึงราชาเเห่งหญ้าอาหารสัตว์ทั้งปวง
หญ้าเนเปียร์นั่นเอง : เป็นหญ้าในตระกูลอ้อยครับ ลำต้นใหญ่ อวบน้ำ ทนแล้งดี แถม ปริมาณผลผลิตต่อไร่ ต่อปี นำโด่งชนิดที่ว่าทิ้งห่างจากหญ้าอื่นๆไปไกลเลย วิธีปลูกก็ปลูกแบบอ้อยได้เลย
ใช้ทำหญ้าหมักได้ดีมากๆ
เหมาะสำหรับหมักไว้ให้สัตว์กินหน้าเเล้ง เพราะหน้าฝนจะได้ผลผลิตดีสุดๆ ดีจนเหลือกินและต้องหมักไว้เลย555 ดีจัง
แถมยังเป็นที่นิยมมาก และกำลังฮิตในบ้านเรามากเพราะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิดกระแสไฟฟ้าได้ด้วย
(โรงงานไฟฟ้าชีวมวลเขารับซื้อเด้อ)
หลักๆที่ฟาร์มผมจะเป็นหญ้าชนิดนี้แหละครับ
ข้อเสีย ลืมเรื่องปล่อยเเทะเล็มไปได้เลย เพราะต้นสูงมากๆ และด้วยความที่ลำต้นโต จะตัดไปให้กินสด ก็จะเปลือส่วนลำต้นทิ้งแทบจะครึ่งต่อครึ่ง
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับหญ้าเนเปียร์คือ ใช่เครื่องสับหญ้าครับ สำหรับที่ฟาร์ม ถึงกรรมวิธีเยอะหน่อยกว่าน้องๆแพะจะได้กิน แต่แลกกับปริมาณแล้ว ถือว่าคุ้ม
เครื่องสับหญ้าของที่ฟาร์มครับ
ใครที่ไม่มีเครื่องสับ แต่ชอบหญ้าต้นใหญ่ๆก็หันไปใช่ สวีทจัมโบ้จะเหมาะกว่าครับ
เป็นยังไงก็นบ้างสำหรับข้อมูลเรื่องของหญ้าอาหารสัตว์ในวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆคงถูกใจไม่มากก็น้อยนะครับ
ก่อนจบบทความนี้ ขอฝากไว้เรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับคนที่อยากปลูกหญ้า
หญ้าก็เหมือนกับคนรักนั่นแหละครับ ไม่มีชนิดใหนดีที่สุดหรอก มีแต่ชนิดใหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด
สวีสดีครับ^^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา