6 มิ.ย. 2020 เวลา 03:53 • ประวัติศาสตร์
คำคมวรรณกรรม
ผมจะเริ่มนำวดีเด็ด หรือ คำวิเศษ จากวรรณกรรมและเทพปกรณัมมาแบ่งปันกันครับ
เป็นวลีสั้นๆ แต่ได้ใจความ และควรกลับไปนั่งใครครวญคิดต่อเพื่อให้ปัญญาตกผลึก แล้วมองเห็นอะไรๆในมุมที่ต่างออกไป
ใช่หรือไม่ แค่เปลี่ยนมุมมอง โลกก็เปลี่ยน
เรามาเริ่มกันด้วย quote แรกกัน วลีนี้ มาจากเรื่อง the divine comedy หรือ divina commedia มหากาพย์ของกวีชาวอิตาลี ดันเต อลิกิเอรี (Dante Alighieri) (ค.ศ. 1265-1321)
The Divine Comedy
เดอะดีไวน์คอมเมดี เล่าถึงการท่องไตรภูมิหรือ 3 โลกของดันเต กับ เวอร์จิล (Vergil) กวีเอกชาวโรมัน โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ
Inferno (โลกันตนรก)
Purgatorio (แดนชำระ)
และสุดท้าย Paradiso (สวงสวรรค์)
Dante Alighieri
ขึ้นชื่อว่าไตรภูมิ ก็คงจะคล้ายกับเนื้อหาในไตรภูมิพระร่วง แต่ดีไวน์คอมเมดี เป็นไตรภูมิตามคติของคริสต์ครับ
ผมจะไม่ขอลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ แต่ผมจะมาเล่าเรื่องของไตรภูมิดันเตให้ฟังภายหลังครับ
วลีเด็ดที่ผมหยิบยกมานี้ ก็ถูกนำมาใช้เป็นธีมหลักของนิยายแนวไขปริศนาประวัติศาสตร์ของ แดน บราวน์ นักเขียนแห่งทศวรรษ นั่นคือ Inferno (แปลไทยในชื่อ สู่นรกภูมิ โดยแพรวสำนักพิมพ์) ไว้มีโอกาส ผมจะมารีวิวหนังสือให้ฟังอีกทีครับ
วลีนี้ อยู่ในส่วนของ Inferno หรือ part ท่องนรก นรกได้มีการจำแนกเป็นหลุมลึกหลายๆวงซ้อนกัน แต่ละหลุมมีไ้ว้สำหรับบาปแต่ละประเภทต่างกันไป แต่หลุมที่ลึกและมืดมึดที่สุด มีไว้ให้กับใครกัน เขาทำบาปอะไรไว้ จึงต้องตกนรกในขุมที่ร้ายแรงที่สุด ในทรรศนะของดันเต เขาได้ให้คำตอบไว้ว่า
“The darkest places in hell are reserved for those who maintain their neutrality in times of moral crisis.”
แปลเป็นไทยคือ “สถานที่อันมืดมิดที่สุดในขุมนรก สงวนไว้สำหรับผู้ที่ธำรงความเป็นกลางในโมงยามแห่งวิกฤตทางศีลธรรม”
Dante’s Inferno
ผู้ที่ธำรงความเป็นกลางในโมงยามแห่งวิกฤตทางศีลธรรม ก็คือผู้ที่มิได้ทำอะไรเลย ในนาทีแห่งวิกฤต ที่แต่ละคนควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาศีลธรรมของสังคมไว้
เช่น สมมติว่า ยามที่โลกเกิดวิกฤตโรคระบาด แต่องค์การอนามัยโลกกลับยังอยู่นิ่งเฉย ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยให้มนุษย์รอความตายอย่างทุกข์ทรมาน (ขอย้ำว่าแค่สมมตินะครับ)
อีกตัวอย่างครับ สมมติว่ามีฆาตกรกำลังไล่ล่าฆ่าผู้บริสุทธิ์ คุณพบเห็นเขา และเป็นพยานสำคัญในการตัดสินโทษ คุณมี2 ทางเลือกคือ 1. ให้การอย่างห้าวหาญให้ผู้กระทำผิดสมควรได้รับโทษ กับ 2. คุณปิดปากเงียบ ยังคงเป็นกลาง บอกว่าไม่เห็นอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะคุณอาจจะถูก blackmail จากฆาตกร
นี่แหละครับ วิกฤตทางศีลธรรม
หาดคุณยังคงความเป็นกลางในศาล ช่วยให้ฆาตกรลอยนวล คุณก็ถูกเข้าข่ายว่าเป็นอาชญากรด้วย (มีเครดิตติดลบเท่ากัน) เพราะหลังจากนี้ จะมีคนบริสุทธิ์ต้องถูกสังเวยชีวิตไปเพิ่มขึ้นอีก ทั้งๆที่ความเป็นจริงคุณสามารถทำในสิ่งที่ถูกต้องได้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คนที่ยังนิ่งเฉยกับปัญหาต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะส่งผลต่อตัวเองหรือผู้อื่นด้วยก็ตาม จนปัญหาบานปลาย มิอาจแก้ไขสิ่งใดได้ จนผู้อื่นต้องมาเดือดร้อนไปด้วย สมควรที่จะถูกลงทัณฑ์ในขุมนรกอันมืดมิดนั่นแล
ดันเตได้ให้เหตุผลไว้อย่างลึกล้ำสำหรับผู้ที่สมควรตกนรกขุมที่ลึกที่สุด ผมเองก็นำมาแบ่งปันกันโดยใช้มุมมองของดันเตมาอธิบายเท่านั้น มิได้จะกล่าวโทษบุคคลเหล่านี้แต่อย่างใด จึงอยากจะให้ทุกท่านลองไปนั่งคิดใคร่ครวญกับตัวเองช้าๆ กับวลีที่กวีผู้ทรงอิทธิพลชาวอิตาลีได้ถ่ายทอดเอาไว้ แล้วแปลความหมายออกมา ในรูปแบบของตัวท่านเอง และลองให้คำตอบกับตัวเองว่า ผู้ที่ธำรงความเป็นกลางในโมงยามแห่งวิกฤตแห่งศีลธรรม เป็นอย่างไรกันแน่
ขอจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ ในวันพรุ่งนี้ วลีเด็ดใดที่ผมจะมานำเสนอ โปรดรอติดตามครับ
โฆษณา