6 มิ.ย. 2020 เวลา 07:21 • ประวัติศาสตร์
“ประวัติศาสตร์การเกิดโรงแรมในยุโรป”
(http://www.historichotelsthenandnow.com/grandeuropestpetersburg.html)
การเกิดโรงแรมในยุโรป แบ่งออกเป็นยุคต่าง ๆ ดังนี้
• ยุคอารยธรรมโบราณ: ในยุคนั้นมีประเพณีเก่าแก่ คือการแบ่งปันขนมปังกับคนแปลกหน้า ประเพณีนี้ได้พัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นอุตสาหกรรมการบริการอย่างทุกวันนี้ ในสมัยน้ำใช้คำว่า “hospitality” มาจากคำศัพท์เก่าแก่ของภาษาฝรั่งเศส “hospice” ซึ่งหมายถึง “การให้ที่พักหรืออาหารแก่นักเดินทาง” hospice ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Hospice de Beaune ในแคว้น Burgundy ประเทศฝรั่งเศส หรือรู้จักกันในนาม “Hotel Dieu” “The House of God” ซึ่งตั้งขึ้นโดยนายกเทศมนตรีของแคว้นเบอร์กันดีในสมัยนั้น ตัวอาคารดัดแปลงมาจากโรงพยาบาลเก่าเพื่อให้ที่พักพิงแก่ผู้ยากไร้ ปัจจุบันโรงพยาบาลแห่งนี้ยังคงอยู่ กลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงแห่งแคว้นเบอร์กันดี
• ยุคสมัยโบราณระหว่าง 1,700 B.C. – ค.ศ.500: ในยุคอาณาจักรกรีกโบราณ คนที่เดินทางจะนอนตามถนนหรือนอนตามบ้านเรือนของญาติหรือตามโบสถ์ มีที่พักพิงและอาหารให้ตามอัตภาพ ไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อคนเดินทางมากขึ้น เส้นทางใดที่มีคนเดินทางผ่านมากขึ้นหรือเป็นจุดหมายของการเดินทางจึงได้มีการจัดสร้างที่พักแรมขึ้น ในสมัยโบราณให้บริการได้เฉพาะที่พักแรมเท่านั้นห้ามให้บริการอื่นเพราะกฎหมายห้ามไว้หากใครฝ่าฝืนจะต้องโทษประหารชีวิต มีบันทึกอยู่ในประมวลกฎหมายฮัมมูราบี (1,700 ปีก่อนคริสตกาล) กฏหมายดังกล่าวระบุไว้ว่าเจ้าของจะต้องรายงานแขกที่สงสัยจะก่ออาชญากรรมใน taverns ที่ตนเองเป็นเจ้าของ หากไม่ทำตามจะมีโทษถึงประหารชีวิต การเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมในยุคนั้นเสี่ยงและอันตรายมากทีเดียว
• ยุคกรุงเอเธนส์ ประมาณ 600 B.C.: เริ่มมีเหล้าองุ่นทำเอง ขนมปัง เนย ถั่ว ไว้บริการลูกค้า ที่ตั้งของโรงแรมมักอยู่ใกล้วัด เพราะจะใช้โรงแรมเป็นที่ประกอบพิธีบวงสรวงเทพเจ้าและรับประทานอาหารกัน ต่อเมื่อมาถึงยุคสมัยของยุคโรมัน เริ่มมีโรงแรมเกิดขึ้นตามเมืองต่าง ๆ มีบริการห้องพักขนาดเล็กพร้อมอาหารและเครื่องดื่ม บางแห่งยังพ่วงบ่อนการพนันและสตรีบริการด้วย แต่หลังจากอาณาจักรโรมันตะวันตกล่มสลาย ผู้คนก็ขาดการติดต่อค้าขายโจรผู้ร้ายชุกชุมการเดินทางจึงหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างมากจนต้องหยุดขยายกิจการ
• สมัยกลาง ค.ศ. 501 – 1300 ธุรกิจโรงแรมอยู่ในยุคที่ซบเซา นักเดินทางส่วนใหญ่มีเพียงผู้แสวงบุญจึงใช้วัดเป็นที่พักแรม ในช่วงสงครามครูเสด ซึ่งเป็นสงครามระหว่างศาสนาคริสต์กับอิสลาม เกิดขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 11 ถึง 13 ชาวคริสต์ในยุโรปได้เดินทางไปร่วมทำสงคราม ทำให้วัดในคริสต์ศาสนาต้องสร้างที่พักไว้บริการแก่ชาวคริสต์ที่ไปร่วมรบในสงครามเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สงครามนี้ยังส่งผลให้นครรัฐต่าง ๆในอิตาลี เช่น เวนีสและฟลอเรนซ์กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการเดินทางจากยุโรปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
• ช่วง ค. ศ.1300: ประเทศอิตาลี การค้าขายเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ทำให้ธุรกิจโรงแรมขยายตัวตามไปด้วย ยุคนี้มีที่พักแรมสำหรับคนและม้า เรียกว่า Tavern แพร่หลายตามเมืองต่าง ๆ ตั้งอยู่ริมทางรถม้า นอกจากเป็นที่พักแรมของคนเดินทางแล้วยังเป็นที่พบปะของเหล่าขุนนาง นักการเมือง พระและบุคคลในท้องถิ่นด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการไปรษณีย์สำหรับนักเดินทางด้วย
• สมัยฟื้นฟู ค.ศ. 1301 – 1600: ยุคนี้มีโรงแรมขนาดเล็ก จำนวนห้องพัก 20-30 ห้อง เรียกว่า George Inn มีบริการห้องเก็บของ อาหาร เหล้าองุ่น ห้องประกอบอาหาร ห้องพักสำหรับคนเลี้ยงม้าและม้า ต่อมาพัฒนาให้เป็นโรงแรมสำหรับบริการเศรษฐีโดยการเพิ่มความสะดวกสบายและจัดให้มีคณะละครสัตว์และการแสดงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน การจัดตั้งโรงแรมในยุคนั้นต้องได้รับอนุญาตจากขุนนาง อัศวินหรือเจ้าของที่ดินเสียก่อน โรงแรมสมัยก่อนจะใช้สัญลักษณ์สีเขียวเป็นเครื่องหมายบอกให้รู้ว่าเป็นโรงแรม ก่อนพัฒนามาเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น สิงโต ห่านหรือปลาโลมา เป็นต้น
1
• สมัยใหม่ยุคแรก ค.ศ. 1601 – 1800: เป็นช่วงเริ่มต้นยุคปฏิวัติอุสาหกรรมทำให้ธุรกิจโรงแรมเฟื่องฟูขึ้น โรงแรมเริ่มปรับมาตรฐานให้สูงขึ้น โรงแรมเปลี่ยนมาใช้ชื่อวิสามานยนามหรือชื่อเรียกเฉพาะเจาะจงและมักใช้คำว่า arms กำกับท้ายชื่อ
• สมัยใหม่ยุคปัจจุบัน ค.ศ. 1801 – 2000 : โรงแรมมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีบริการเพียงแค่ห้องพักก็พัฒนาให้มีความหรูหรา สะดวกสบาย มีการบริการที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษโรงแรมเป็นที่สิงสถิตย์ของพวกผู้ดี ขุนนาง และเหล่านักการเมืองเท่านั้น โดยโรงแรมที่มีชื่อเสียงเรื่องความหรูหรามากในอังกฤษ คือโรงแรมซาวอย (Savoy Hotel) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1880 เป็นโรงแรมเดียวที่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โบสถ์ และโรงละคร อยู่ในนั้น
(http://www.historichotelsthenandnow.com/grandeuropestpetersburg.html)
(http://www.historichotelsthenandnow.com/grandeuropestpetersburg.html)
(https://famoushotels.org/hotels/grand-hotel-europe)
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: https://www.a-lisa.net/topic/5481
โฆษณา