7 มิ.ย. 2020 เวลา 04:21
"1 Day Trip Wakayama"
ใช้ชีวิตช้าๆที่วากายาม่ากัน ส่วนมากคนที่มากเที่ยวภูมิภาคคันไซ ก็จะไปเที่ยวเมืองใหญ่ยอดฮิตกัน ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา แต่วากายาม่าน้อยคนนักที่จะไปกัน แต่ไหนเราก็ซื้อคันไซทรูพาสมาแล้ว จะเที่ยวยังไงให้มันคุ้มเมืองอื่นก็ไปมาหมดแล้ว ลองมาเที่ยววากายาม่าดูสักวันเนอะ
จุดขายของเมืองนี้คือ รถไฟสายเหมียว ทามะ (Tama Train) ลายบนขบวนรถไฟจะเป็นลายน้องเหมียวแล้ว ที่สถานี Kishi ยังมีนายสถานีเป็นน้องเหมียวน้อยสามสีอีกด้วยนะ รถไฟสาย Kishigawa ของ Wakayama Electric Railway มีขบวนรถไฟทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ใครอยากนั่งแบบไหนเข้าไปเช็คเวลากันให้ดีๆก่อนเดินทาง ตามลิงค์นี้ได้เลย https://bit.ly/30WedDn
ทริปนี้เรานั่งรถไฟจากสถานี nankai ใช้เวลา1ชั่วโมงมาลงที่ wakayamashi station โดยใช้ kansai thru pass
ระหว่างนั่งรอรถไฟจาก wakayamashi station ไป wakayama station
จาก wakayamashi station ไป wakayama station มีสองวิธีคือ นั่งไฟ JR ไป 190เยน หรือนั่งรถเมล์ไปสามารถขึ้นรถเมล์สาย 0 ได้เลย ใครมีบัตร Kansai thru pass ขึ้นฟรีนะ บัตรนี้ครอบคลุมถึงรถเมล์ใน Wakayama ด้วย พอมาถึง wakayama stationชานชาลาที่9 เดินขึ้นไปซื้อตั๋วด้านบนเลยครับ ราคา800เยน ใช้ไม่อั้นนั่งกี่รอบก็ได้ แต่เอาจริงๆใครมันจะไปนั่งเกิน2รอบฟ่ะ
ขึ้นมาเราจะเจอ รถไฟสายเหมียว Tama Train ใครจะไปรถไฟขบวนไหนเช็คเวลาให้ดีๆนะ รถไฟมีทั้งหมด4แบบชอบแบบไหนเลือกเวลากันได้เลย https://bit.ly/30WedDn
น่ารักเนอะรถไฟอะไรก็ไม่รู้
Electric Railway มีขบวนรถไฟทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ใครอยากนั่งแบบไหนเข้าไปเช็คเวลากันให้ดีๆก่อนเดินทาง
รถไฟสายเหมียว Tama Train เป็นไฮไลท์ประจำรถไฟสาย Kishigawa ป็นขบวนรถไฟแสนน่ารักที่ติดทั้งหนวดและหูของน้องแมวเอาไว้ด้านหน้าขบวนอีกด้วย โดยได้รับการออกแบบมาจาก “เจ้าทามะ” นายสถานีรถไฟรุ่นแรกของเรานั่นเอง โดยใช้สีขาวส้มและสีดำมาตกแต่งขบวนรถไฟขบวนนี้ให้เหมือนกับเจ้าทามะนั่นเอง
รถไฟสายสตอเบอรี่ Ichigo EC ภายในขบวนรถไฟออกแบบเป็นรูปสตรอว์เบอร์รี่ มีสีสันสดในมากๆ
รถไฟของเล่น Omocha Train ด้านในจะมีการตั้งตู้กดกาชาปองเอาไว้ภายในขบวนรถไฟนั่นเอง แถมยังมีการตั้งตู้จัดแสดงตุ๊กตาน่ารักๆอีกมากมายในด้านใน
รถไฟบ๊วยดองอย่าง Ichigo EC เป็นขบวนที่ตกแต่งด้วยรูปบ๊วย
นั่งไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงสถานีสุดท้ายนั่นคือ สถานีน้องเหมียวนั่นเอง
ถึงแล้วที่สถานี Kishi เดินลงไปด้านล่างขวามือเราจะเจอนายสถานีนอนต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอยุ่เลย
ตัวสถานี Kishi ทำได้ออกมาน่ารักมากๆ สมแล้วที่เป็นสถานีแมวเหมียวจริงๆ ด้านซ้ายจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ส่วนด้านขวาจะเป็นร้านคาเฟ่
เจอนายสถานีNITAMA แล้วน้องเค้านิ่งมากๆไม่ตื่นคนเลย ขนาดนักท่องเที่ยวรุมถ่ายรูปกันเยอะมากๆ
ยืนแบบหล่อๆเลย ขอบตาเริ่มดำสงสัยหนีไปเที่ยวผับอดนอนมาหลายคืน
ใครอยากจะเจอนายสถานีNITAMA และYONTAMA ต้องเช็คตารางเวลากันดีๆนะ เพราะเค้ามีเวลาตอกบัตรเข้าออกงานด้วยนะครับ ถ้าอยากเจอตัวเป็นๆ สามารถเช็คได้จาก เวบนี้ได้เลย https://bit.ly/2O1U09W
จุดหน้าสถานี Kishi จะเป็นศาลเจ้าของ"ทามะ" แมวนายสถานีรถไฟชื่อก้องโลกที่เสียชีวิตไปแล้ว
แมวทามะจะได้รับการบูชาในศาลเจ้าแมวโดยพร้อมเลื่อนชั้นให้เป็นเทพแมว
ด้านในสถานีจะมีคาเฟ่แมวทามะและมีขายของที่ระลึกแมวทามะให้เลือกซื้อกันหลายแบบเลยน่ารักๆทั้งนั้นเลย
ขากลับสถานี Wakayama เรานั่งรถไฟสายสตอเบอรี่ Ichigo EC ขบวนนี้น่ารักสดใสไม่แพ้รถไฟขบวบแมวทามะเลย
ด้านนอกและด้านในขบวนรถไฟออกแบบเป็นรูปสตรอว์เบอร์รี่ มีสีสันสดในมากๆ
นั่งไปหิวไปจริงๆขบวนนี้ ตอนแรกว่าจะแวะฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่ แต่เวลาจำกัดจริงๆเลยต้องเปลี่ยนโปรแกรมไปที่อื่นต่อครับ
เห็นชุดเด็กนักเรียนมัธยมญี่ปุ่นทีไรนึกถึงการ์ตูนเรื่องจอมเกบลูส์จริง ที่มีพระเอกชื่อมาเอดะ ไทซน ไม่รู้มีคนเกิดทันกันรึเปล่านะ ฮิฮิ
เมื่อมาถึงเมืองวากายาม่า มีราเม็งที่ขึ้นชื่อว่าราเม็งที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเราก็พลาดไม่ได้จริงๆ งานนี้ต้องมาลองให้รู้ว่ามันเด็ดถึงขนาดอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นเลยเหรอ
ที่นี่มีขายแค่เพียงเมนูเดียว มีแค่พิเศษเพิ่มเส้น เพิ่มไข่ เพิ่มหมูชาชู แนะนำอย่าเพิ่มเส้นนะ เพราะให้เส้นมาโคตรเยอะกินหมดชามทีอิ่มแทบจะเดินไม่ได้ การที่ใส่เส้นเยอะเกินไปมันทำให้รสชาติน้ำซุปเปลี่ยนไปด้วย ทำให้มีกลิ่นเส้นเยอะเกินไป แต่รถชาติถือว่าอร่อยแต่ถ้าจะให้ที่สุดในประเทศอันนี้แล้วแต่รสนิยมคนกินแล้วกัน
จุดสุดท้ายก่อนกลับเราได้แวะมาที่Wakayama Castle ปราสาทวากายาม่า ที่นี่เดินทางมาง่ายมากๆ เพราะอยู่กลางเมืองวากายาม่าเลย ใครฟิตจะเดินเอาก็ได้จากสถานีวากายาม่า แต่ใครมี kansai thru pass นั่งรถเมล์ไปเถอะฟรี ผ่านเกือบทุกสาย
ไม่รู้เมืองนี้มันเป็นเมืองแห่งแมวป่าวว่ะเนี้ย ไปไหนก็เจอแต่แมว และแต่ละตัวอ้วนอย่างกับหมูไม่รู้ใครให้อะไรกิน รู้สึกว่ากินดีอยู่ดีมากๆ เดินพุงย้อยกันทุกตัวเลย
เดินเข้าไปด้านในนิดนึง แล้วขึ้นเขาไป5นาทีก็จะเจอตัวปราสาทอยู่ด้านใน ที่นี่คนจะไม่ค่อยคึกคักเหมือนพวกปราสาทโอซาก้าหรือปราสาทต่าง แต่ดูเงียบสงบใจดี
ด้านบนตัวที่ตั้งปราสาทก็จะมีจุดชมวิวของเมืองวากายาม่า
บรรยากาศที่ปราสาทแห่งนี้จะไม่ค่อยคึกคักเหมือนเช่นพวกปราสาทอื่นๆ
ใครมีเวลา1วันไม่รู้จะไปไหน วากายาม่าเป็นอีกเมืองที่ควรมาลองเที่ยวแต่ถ้าจะเที่ยวให้ครบอยากให้ใช้เวลาประมาณ3วันกำลังดี แต่ถ้าใครมีเวลา1วันก็ให้ออกมาเช้าหน่อยอาจจะได้เที่ยวเพิ่มอีก1จุด แต่เราใช้เวลาไปเที่ยวแต่ละจุดใช้เวลานานจึงได้แนะนำมาแค่3ที่เอง วันหลังไปใหม่จะมาบอกแล้วกันเน้อ
ติดตาม เที่ยวแหลก ทางเฟสบุ๊คได้ตามนี้นะครับ
โฆษณา