บิดาของการโรงแรมโลก...เขาเป็นใคร?
“Cesar Ritz” บิดาแห่งการโรงแรม
ทุกศาสตร์การเรียนรู้ทุกอย่าง ล้วนแล้วแต่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานทั้งนั้น วิชาทางด้านการโรงแรม การบริการเองก็เช่นกัน เรื่องนี้กว่าจะมาเป็นตำราแบบแผนที่ใช้กันต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ต่างถูกคิดค้นพัฒนาขึ้นมาจากแนวคิดปรัชญาของชายคนหนึ่งซึ่งถือว่าเค้าเป็นบิดาของการโรงแรมเลย เค้าเป็นใครมาทำความรู้จักกัน
“Cesar Ritz”
“Cesar Ritz” บิดาแห่งการโรงแรม
ชายคนนี้ถูกยกว่าเป็นบิดาแห่งการโรงแรมเลย เรื่องราวของเค้านับว่าน่าทึ่งมาประวัติของเค้าเริ่มจากวัยเด็กเกิดจากครอบครัวเกษตรกรรมที่ยากจนของตระกูล เซซาร์ ริทซ์ เค้าเป็นลูกคนสุดท้ายจากจำนวนสิบสามคน ตอนเด็กเค้าอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนีลเดอร์วาลด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
“แรงขับจากการดูถูก”
ช่วงชีวิตในวัยรุ่นของเค้าก็เหมือนกับหลายคนที่ต้องเรียนไปด้วย ทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพไปด้วยสำหรับ เซซาร์ ริทซ์ นั้นเค้าไปทำงานที่โรงแรมเมือง บริค ตอนนั้นเค้าต้องเจอกับลูกค้าหลายคนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ครั้งหนึ่งเค้าเจอเรื่องราวที่กลายเป็นแรงขับให้กับตัวเอง เค้าเจอลูกค้าของโรงแรมดูถูกว่า เค้าไม่มีทางสำเร็จในธุรกิจโรงแรมได้ ซึ่งมันเหมือนเป็นแรงขับให้เค้าตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อจะศึกษา พัฒนาตัวเองด้านนี้อย่างจริงจัง
“จุดสำคัญของการทำงาน”
ในช่วงชีวิตสำคัญก่อนจะออกมาทำโรงแรมของตัวเอง เซซาร์ ลิทซ์ ได้มีโอกาสครั้งสำคัญด้วยการเข้าไปทำงานเป็นผู้จัดการโรงแรมแกรนด์โฮเต็ลแห่งชาติ ณ เมืองลูเซิร์น ที่นั้นทำให้เค้าได้รู้จักโรงแรมหรู การบริการ การบริหาร การต้อนรับแขกระดับวีไอพี จนถึงซุปเปอร์วีไอพี ว่าต้องทำอย่างไร จนทำให้โรงแรมแห่งนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในยุโรป รวมถึงการปล่อยวลีอมตะที่ว่า “The customer is always right” (ลูกค้าต้องถูกเสมอ)
“Auguste Escoffier” หุ้นส่วนคนสำคัญ
การก้าวขึ้นไปทำโรงแรมชั้นสูง คนเดียวอาจจะไม่สำเร็จแต่หากทำเป็นทีมอาจจะสำเร็จได้ ริทซ์ เองก็เป็นแบบนั้น เค้าได้เจอหุ้นส่วนคนสำคัญที่กลายมาเป็นพันธมิตรในภายหลังก็คือ Auguste Escoffier (ออกุสต์ เอ สกอฟฟิเยต์) เค้าเป็นหัวหน้าพ่อครัวที่ถนัดอาหารฝรั่งเศส ฝีมือการทำอาหารของเค้าเป็นที่ยอมรับของทุกคนที่เคยได้รับประทาน ทั้งคู่เปิดร้านอาหาร่วมกันทำออกมาดีมาก จนได้รับเชิญเข้าไปทำงานด้วยกันอีกครั้งที่โรงแรมซาวอย ทั้งคู่ได้สร้างสรรค์ให้โรงแรมซาวอยกลายเป็นโรงแรมชื่อดังของยุโรปไปในที่สุด ความสมบูรณ์ทั้งด้านโรงแรมและอาหาร ไม่มีใครเทียบได้เลย
“Auguste Escoffier”
“โรงแรมริทซ์”
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์มานาน ริทซ์ และ ออกุสต์ ก็ออกจากโรงแรมเดิมมาก่อสร้างโรงแรมของตัวเองขึ้นมาพวกเค้าสร้างโรงแรมขึ้นทั่วโลก แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดต้องเป็น โรงแรมริทซ์ที่ลอนดอน โรงแรมนี้เป็นที่รองรับของมหาเศรษฐีทั้งทั่วลอนดอนและทั่วโลกในที่สุด การทำโรงแรมของเค้าเลยกลายเป็นมาตรฐานมาจนถึงทุกวันนี้
“โรงแรมริทซ์”
เป็นที่รู้กันในยุคนั้นว่าโรงแรมริทซ์คือที่สิงสถิตย์ของมหาเศรษฐีหมู่คนดังและแวดวงไฮโซ จนมีเรื่องราวตำนานของคนดังหลายคนที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของโรงแรมแห่งนี้ เช่น เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเสวยอาหารค่ำมื้อสุดท้ายที่นี่ก่อนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โคโค่ ชาแนล เจ้าแม่วงการแฟชั่นของฝรั่งเศสก็อาศัยห้องสวีทของโรงแรมริทซ์เป็นบ้านนานถึง 35 ปี ต่อมาห้องสวีทของโรงแรมจึงได้ตั้งชื่อตามคนดังที่เข้ามาพัก เช่น เอลตัน จอห์นสวีท วินด์เซอร์สวีท โคโค่ชาแนลสวีท
เซซาร์ ริทซ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1918 โรงแรมจึงถูกส่งต่อให้ทายาทคือลูกชายของเขาชื่อ ชาร์ลส์ ริทซ์และหลังจากที่ชาร์ลส์ ริทซ์เสียชีวิตลงโรงแรมริทซ์ก็เข้าสู่สภาวะถดถอย ภรรยาของเขาคือโมนิควิน ริทซ์ ได้ตัดสินใจขายโรงแรมต่อให้กับมหาเศรษฐีชาวอียิปต์ ชื่อโมฮัมเหม็ด อัล ฟาเอ็ด ในปี ค.ศ. 1979 ภายใต้เงื่อนไขว่าให้ยังคงใช้ชื่อ “ ริทซ์ ” ต่อไป แม้ปัจจุบัน เซซาร์ ริทซ์จะได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่เขาและออกุสต์ เอสกอฟฟิเยต์ก็ยังเป็นตำนาน
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
