7 มิ.ย. 2020 เวลา 08:17 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องราวของสาวอวบ ตอน วันเคลียร์ตู้เย็น
วันอาทิตย์ วันพักผ่อน วันดูซีรี่ส์ วันแห่งการนอนอยู่บ้าน แต่บ้านสาวอวบถือเป็น
“วันล้างตู้เย็น” ค่ะ
บ้านไหนมีวัยรุ่นอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป จะทราบดีว่า วัยรุ่นเหล่านี้เป็นกลุ่มชน “ช่างเสียดาย” ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ถ้วยชามรามไห ลากยาวไปจนถึงสารพัดอาหารในตู้เย็น พูดง่ายคือเก็บได้ เก็บดี เก็บจนลืมว่ามี ที่สำคัญคือ ห้ามทิ้งของชั้นนะ!!!
แม่เราเอง
บ้านสาวอวบ จึงกำหนดกฎประนีประนอม “พบกันคนละ 2-3 ก้าว” ระหว่างแม่กับลูกขึ้นมาข้อนึง คือ ทุกวันอาทิตย์ เราจะเคลียร์ตู้เย็นกัน เพื่อป้องกันอาหารหมดอายุ ของบูด ของเสีย ของเน่า ห้ามเอาเก็บกับข้าวไว้กินเพราะเสียดายเด็ดขาด
ย้อนไป 5 ปีที่แล้ว แม่เราต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะติดเชื้อในลำไส้ คุณหมอวินิจฉัยว่า น่าจะเกิดจากการทานอาหารหมดอายุ ด้วยวัย 70 ปีต้นๆ มันน่ากลัวมาก หลังจากนั้นเราจึงจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมการสะสมของในตู้เย็นของคุณนายแม่ ถอยคนละครึ่งทาง เราทิ้ง แม่ก็ต้องทิ้ง ถ้าแม่ทิ้งของเดิม เราจึงจะยอมให้ซื้อของใหม่ และทำตามใจแม่ อีก 1 คำขอค่ะ
ฟังดูไม่ยากนะเธอ แต่ขุ่นพระ มันยากมากจ้า!!
เปลี่ยนนิสัยคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คือ ที่สุดของมหาสงครามในครอบครัว
สุดท้าย เรายอมแพ้จ้า
เรายอมให้คุณนายแม่เลือกเก็บกับข้าวที่ชอบ วัตถุดิบที่แม่บรรยายสรรพคุณว่า “กว่าจะได้มา เลือดตาแทบกระเด็น” เอาไว้ รอจนวันที่แม่จะตัดอาลัย และตัดความเสียดายได้ ค่อยทิ้ง
เรายอมให้แม่เป็นคนตัดสินใจเองว่า วันที่ข้างกล่องมันบอกว่าหมดอายุแล้วนะ จะเก็บไว้หรือไม่?
เรายอมให้แม่เลือกว่า กับข้าวที่แช่ฟรีซไว้จนลืม กับวันที่เราอดหลับอดนอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล อันไหนชัดเจนมากกว่ากัน
อย่าเอาชนะคนที่ใหญ่ที่สุดในครอบครัวด้วยอารมณ์ แต่ให้ใช้วิธีการยอมและ “พบกันคนละ 2-3 ก้าว” แทนค่ะ ใช่ มันมากกว่าถอยคนละก้าว แต่เชื่อเถอะ เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว
ทะเลาะกันทุกวัน แต่รักกันนะ
ฝากติดตามเรื่องราวของสาวอวบตอนต่อไปด้วยน้า
โฆษณา