-ผมเป็นเด็กบ้านนอกคนนึง ที่พอเรียนจบใด้มาทำงานอยู่ที่ กรุงเทพ เมื่อปลายปี 2558
ผมทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า อยู่ที่ห้างชื่อดังแห่งหนึ่งแถวๆประตูน้ำ ก่อนผมจะก้าวออกจากบ้านมา สิ่งแรกที่ในใจผมคิด คือ อยากมีรถมีบ้าน ภายใน5 ปีตามที่ผมใด้คิดใด้ฝันใว้..!!! ผมเริ่มต้นด้วยเงินเดือน 15000 บาท ตามที่รัฐบาล ตั้งไว้ ไม่รวมโอที
ปีแรกของการทำงานเป็นไปแบบ เรียบง่าย กินง่ายใช้น้อย ตามประสาเด็กบ้านนอก อาจจะมีเมาบ้าง เล็กน้อย แต่ก็ไม่เคยเสียงาน โอทีของผม มีเข้ามาทุกอาทิตย์ รวมๆแล้ว ตกราวๆเดือนละ 18000. ไม่รวมหักประกันสังคม ปีแรกเป็นไปแบบสนุกสนานใด้เจอเพื่อนใหม่มากมายทั้ง เพื่อนที่ทำงานทั้งเพื่อนที่ห้องเช่า สนุกครับ เช้าตื่นมา ขึ้นรถเมล์ ไปทำงาน หิวก็หาข้าวตามหาบเร่ แผงลอยแถวๆนั้นกินไป ถือว่าปีแรก ผมผ่านไปใด้แบบสบายๆ มีเงินส่งกับบ้านเดือนละ 7000-8000 สบายๆ หักจากค่าห้องค่าใช้จ่ายทั่วไป ยังเหลือเก็บนิดๆหน่อยๆ ชิวๆ ตามประสาหนุ่มโสด พอเข้าช่วงปีที่2. จุดหักเห ของผมก็มาถึง ผมใด้เลื่อนตำแหน่ง ไปเป็น ผู้ช่วยช่าง สิ่งที่ใด้รับกับมาในตอนนั้นคือเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมาอีก3000. และค่าแรงโอที ก็ขึ้นตามด้วย ในใจตอนนั้น ผมคิดว่า5ปีที่ผมตั้งเป้าไว้ คงจะทำใด้แบบสบายๆแน่นอน จนยิ้มในใจว่า เนี่ยหรือ ชีวิต ใหนไคร
บอกว่าโตขึ้นแล้วเหนื่อยไง ทำไมผมรู้สึกว่า ผม ไม่เคยใด้สัมผัสกับคำว่าเหนื่อยเลย โด่..!! พอผมตำแหน่งสูงขึ้น ผมก็เริ่ม หย้ามใจมากขึ้น ว่าผมอยากใด้อะไร. ก็ซื้อ โทรศัพท์ เครื่องแรก ยี่ห้อผลไม้ มาใน ราคา 18000. บาท ซึ่งในตอนนั้นทั้งเงินเก็บทั้งเงินเดือนที่ผมมี ผมซื้อใด้ แบบสบายๆ มีแล้วมันเท่ห์ ดูภูมิฐาน ขึ้นมา เลย 😀😀 ยกโทรแต่ละที มันเฟี้ยว โก้จริงๆ. แล้วๆ สิ่งอื่นๆที่ไม่จำเป็นเลย ก็ตามมาเรื่อยๆ ผมเองก็เคยคิดว่าซื้อมาทำไม แต่ก็ช่างเหอะ มันเทห์ไง สั้นๆ ตอนนี้ แสงสี เริ่มเข้ามา มีบทบาทในช่วงนั้นแล้ว
ตอนเริ่มติดกับดักแห่ง บางกอก ..!! เข้าให้แล้ว..!!
#รอติดตาม EP2. วันพรุ่งนี้นร้าาาา