วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน
.
..
มิถุนายน 2563
‘กิ๊ง กิ๊ง’ เสียงระฆังใบเล็กที่แขวนเรียงรายอยู่ที่บนพระธาตุส่งเสียงกังวานไปตามลมเย็นๆที่พัดมาในช่วงหน้าฝน ผมหยุดยืนมององค์พระธาตุฯ ที่สูงใหญ่สวยงามมากในระยะใกล้ๆ พร้อมกับบันทึกภาพองค์พระธาตุฯที่อยู่ยังเบื้องหน้าของผม
พระธาตุหริภุญชัย
ช่วงเวลาที่ผมไปเป็นเวลาเกือบ 5โมงเย็นแล้ว ภายในบริเวณวัดคนไม่ค่อยพลุกพล่านนัก ทำให้สถานที่นี้ดูสงบเงียบมาก ตัวองค์พระธาตุฯถูกห่อหุ้มไปด้วยทองจังโก ช่วยส่งให้พระธาตุฯดูเหลืองอร่ามสวยงามมากๆ ก้อนเมฆฝนด้านหลังลอยคล้อยต่ำลงมาทำให้แสงน้อยลง แต่ก็ไม่อาจทำให้ความสวยงามขององค์พระธาตุดูลดน้อยลงเลย
ซุ้มกุมภัณฑ์ตั้งล้อมองค์พระธาตุฯอยู่
พระธาตุหริภุญชัย
หลังจากใช้เวลาอยู่ตรงองค์พระธาตุฯซักพัก ผมจึงเดินตรงไปยังวิหารหลวงเพื่อที่จะกราบองค์พระปฏิมาใหญ่กันครับ
ประตูทางเข้าด้านหน้าวิหารหลวง
ภายในวิหารหลวง
องค์พระปฏิมาใหญ่ในวิหารหลวง
ภายในวิหารหลวงค่อนข้างกว้างใหญ่ ภายในนอกจากจะประดิษฐานองค์พระปฏิมาใหญ่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชอบกับการมาเที่ยววัดก็คืองานศิลปะ ที่มักจะแฝงตัวอยู่ตามมุมต่างๆภายในวัด...
งานศิลปะบริเวณประตูทางเข้าวิหารหลวง
หลังจากชื่นชมความสวยงามภายในวิหารหลวงแล้ว ผมจึงได้เดินออกมายังด้านนอก แต่ยังอยู่ภายในบริเวณวัดเพื่อมาดูสิ่งที่ผมสนใจอีกหลายอย่างกันครับ
เขาพระสุเมรุจำลอง
ผมใช้ประตูด้านข้างของวิหารหลวงออกมา เพื่อที่จะไปยังสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดของวัดแห่งนี้ครับ ‘เขาพระสุเมรุ’
ด้านตรงข้ามเขาพระสุเมรุจำลองนั้นเป็นที่ตั้งของหอธรรม โดยส่วนตัวผมชอบรูปแบบการก่อสร้างของหอธรรมนะครับ ดูมีรายละเอียดที่สวยงามและอ่อนช้อยครับ และหอธรรมแห่งนี้เดิมยังถูกสร้างขึ้นโดยพระเมืองแก้วกษัตริย์ผู้ครองเมืองเชียงใหม่ในราชวงศ์เม็งรายอีกด้วยครับ
หอธรรม
ผมเดินอ้อมวิหารหลวงไปยังด้านทิศเหนือเพื่อไปยังหอกังสดาลครับ เพื่อชมการก่อสร้างแบบศิลปะหริภูญชัยครับ
หอกังสดาลตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารหลวง
มองจากหอกังสดาลจะเห็นสุวรรณเจดีย์อยู่ด้านหน้าครับ
ผมยืนอยู่ด้านหน้าของหอกังสดาล มองผ่านพื้นหญ้าสีเขียวที่ถูกตัดตกแต่งอย่างดี ผมมองไปเห็นเจดีย์เก่าที่มียอดสีทองรูปทรงดูแปลกตา ความอยากรู้ของผมชวนให้ขาของผมเดินไปยังเจดีย์แห่งนี้ทันที....
ทางเดินไปยังสุวรรณเจดีย์
..ผมเดินตัดตรงไปยังเจดีย์ที่ผมเห็น และหยุดอยู่ที่ป้ายข้อมูลครับ เจดีย์องค์นี้มีชื่อว่า’สุวรรณเจดีย์’ สร้างโดยพระนางปทุมวดีอัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ที่เจดีย์องค์นี้นั้นชื่อว่าสุวรรณเจดีย์เพราะในสมัยนั้นเจดีย์องค์นี้ถูกประดับทองคำบริเวณยอดของเจดีย์ ตามช่องด่านบนเจดีย์ยังคงมีพระพุทธรูปให้เราพอได้เห็นถึงศิลปะในยุคสมัยนั้นได้ครับ
สุวรรณเจดีย์
ผมเดินย้อนออกมาด้านหน้าและผ่านซุ้มประตูทางเข้าที่มีรูปปั้นสิงห์ยืนอยู่ ด้านข้างมีพระพุทธไสยาสน์ประดิษฐานอยู่ด้วยนะครับ
พระพุทธบาทสี่รอย
ซุ้มประตูด้านหน้าทางเข้าวัดพระธาตุฯ
หลังจากที่ผมหยุดยืนบริเวณด้านหน้าของวัดพระธาตุหริภุญชัยฯแล้วนั้น ทำให้ผมคิดว่า ด้วยอายุของวัดแห่งนี้มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์เม็งราย และยังถือเป็นวัดสำคัญในนครหริภุญชัย ผมคงไม่แปลกใจที่จะมีการเลือกสล่าที่มีความสามารถในยุคนั้นมาถ่ายทอดงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในแต่ละยุค และอีกทั้งวัดแห่งนี้ยังผ่านการก่อสร้างและบูรณะมาหลายรุ่นต่อหลายรุ่นซึ่งทำให้เกิดศิลปะที่ต่างกันในแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งสล่าแต่ละท่านได้ถ่ายทอดงานฝีมือออกมาอย่างปราณีตและสวยงาม จึงทำให้เกิดงานศิลปะชิ้นเอกที่ถูกรวบรวมไว้ยังที่แห่งนี้...วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร นครหริภุญชัย...
คำนมัสการพระธาตุหริภุญชัย
สุวัณณะเจติยัง หริภุญชะยัฎฐัง วะระโมลีธารัง อุรัฎฐิเสฎฐัง สะหะอังคุลิฎฐิง กัจจายะเนนานีตะ ปัตตะปูรัง สีเสนะ มัยหัง ปะณะมามิ ธาตุง อะหัง วันทามิ สัพพะทา
ฝากกดไลค์กดแชร์ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
