20 มิ.ย. 2020 เวลา 00:25
‘คูคูลัน’ ยอดมนุษย์ผู้ตายเพราะหักอกเทพี
หากในเทพปกรณัมกรีกมีเฮอร์คิวลิส (Hercules) ครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพผู้เป็นสายเลือดของซูส ในตำนานเทพของไอร์แลนด์ก็มี ‘คูคูลัน’ (Cuchulainn) ยอดมนุษย์ผู้กำยำ เจ้าของผมยาวสลวยอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เขาเป็นบุตรของ ‘เทพลูก์’ (Lugh) เทพเจ้าแห่งสงคราม การเดินทาง และท้องฟ้า ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของกษัตริย์ผู้หนึ่ง
คูคูลันเติบโตขึ้นมาเป็นยอดนักรบกล้าหาญผู้รักความท้าทายและการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจเฉกเช่นลูกครึ่งเทพในตำนานอื่นๆ แต่เขายังมีพลังวิเศษเหมือนซูเปอร์ฮีโร ‘ฮัค’ (Hulk) จากค่ายมาร์เวลที่ทุกคนต่างคุ้นเคยด้วย ยามใดที่จิตใจของลูกครึ่งเทพผู้นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเกรี้ยวกราด ร่างกายของเขาจะแปรสภาพเป็นอสูรร่างยักษ์กล้ามโต พร้อมจะบดขยี้ผู้ใดที่ขวางหน้าด้วยพละกำลังราวโคร้อยตัว ด้วยเหตุนี้คูคูลันจึงปราบศัตรูได้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนกลายเป็นยอดนักรบในถิ่น
ทว่าทุกยอดมนุษย์ล้วนแต่มีจุดจบ ไม่มีใครยืนยงชั่วกัลป์ ชะตาของคูคูลันเองก็ถึงจุดสิ้นสุดจากการต่อสู้เช่นกัน
เมื่อราชินีนักรบ ‘เมฟ’ (Maeve) แห่งคอนนัคต์ (Connacht) นำกองทัพใหญ่เดินทางเข้ามาโจมตีอุลสเตอร์ (Ulster) อันเป็นแผ่นดินเกิดของคูคูลัน มนุษย์ครึ่งเทพผู้นี้จึงนำนักรบจำนวนหนึ่งออกเผชิญหน้าที่ทางข้ามแม่น้ำสายหนึ่ง แต่กษัตริย์แห่งอุลสเตอร์กลับไปทำให้ ‘มอร์ริแกน’ (Morrigan) เทพีแห่งโชคชะตาและสงคราม ไม่พอใจอย่างมาก เธอจึงสาปให้กองทัพแห่งอุลสเตอร์ต้องล้มป่วย มีเพียงคูคูลันที่ต้านคำสาปนั้นได้เพราะเป็นครึ่งเทพ
คูคูลันจึงขึ้นรถม้าไปยังสนามรบพร้อมกับยอดสารถีคนสนิท ‘เลก’ (Laeg) ผู้ได้รับฉายา ‘ราชาแห่งรถม้าศึก’ พร้อมกับม้าคู่ใจ ‘เลธ มาคา’ (Liath Macha) ซึ่งมีสมญานาม ‘ราชาแห่งอาชา’ ออกไปประจันหน้ากับกองทัพใหญ่ของราชินีเมฟ เขาท้าประลองเหล่านักรบศัตรูให้มาสู้กันตัวต่อตัวเพื่อถ่วงเวลาให้นักรบฝ่ายอุลสเตอร์ฟื้นตัวได้
เมฟคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงได้เร็ว จึงประกาศยกพระธิดาให้แก่นักรบผู้ใดก็ตามที่สามารถสังหารคูคูลันลงได้ เหล่านักรบผู้กระเหี้ยนกระหือรือจึงตอบรับคำท้าประลองของคูคูลันกัน แต่แล้วพวกเขาต่างถูกคูคูลันฟาดฟันไปทีละคนอย่างง่ายดาย การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลาหลายวัน จนศพเริ่มกองเป็นพะเนินสูง ครั้งหนึ่งเมื่อกำลังเสริมฝ่ายอุลสเตอร์มาถึง แต่ถูกสังหารเรียบคูคูลันที่เกรี้ยวกราดได้แปลงกายเป็นอสูรยักษ์เข้าทำลายกองทัพของเมฟไปมากมายเพื่อล้างแค้นให้นักรบที่ถูกสังหาร
หารู้ไม่ว่าวีรกรรมของคูคูลันครั้งนี้กำลังถูกเฝ้ามองห่างๆ โดยมอร์ริแกน เทพีผู้นี้รู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของยอดนักรบและตกหลุมรักเขาในที่สุด มอร์ริแกนจึงจำแลงกายเป็นหญิงสาวรูปงามแล้วเดินเข้าไปหาคูคูลันที่กำลังรอคอยผู้ท้าประลองคนต่อไป แล้วเริ่มหว่านเสน่ห์ใส่ยอดนักรบทันที แต่คูคูลันที่กำลังหมกมุ่นกับการต่อสู้ได้ปฏิเสธเธออย่างไม่ใยดี ความรักที่ไม่สมหวังทำให้เทพีแห่งโชคชะตาโกรธแค้นมาก แผนการทำลายชีวิตนักรบผู้ไร้เทียมทานจึงเริ่มต้นขึ้น
ครั้งแรกมอร์ริแกนแปลงกายเป็นปลาไหลเข้ามาโจมตีพันร่างคูคูลันขณะอยู่ในน้ำ เขาต่อสู้กับปลาไหลและหักกระดูกซี่โครงมันได้ เจ้าปลาไหลจึงว่ายถอยหนีออกมาอย่างเคียดแค้น
แผนต่อมา มอร์ริแกนจำแลงกายเป็นหมาป่าแล้ววิ่งต้อนฝูงวัวที่แตกตื่น หมายจะให้โฉมหน้าอันหล่อเหลาของลูกครึ่งเทพต้องแหลกละเอียดด้วยฝีเท้าของฝูงวัว แต่คูคูลันไหวตัวทัน จึงยิงสลิงใส่หมาป่าจนตาบอดไปข้างหนึ่ง มอร์ริแกนที่โกรธเกรี้ยวจึงแปลงกายเป็นวัวแดงใหญ่นำหน้าฝูงวัวและวิ่งพุ่งเข้าใส่คูคูลันเต็มฝีเท้า แต่ยอดนักรบเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็วและยิงลูกหินใส่ขาของวัวใหญ่จนขาหักและล้มคว่ำหน้าทิ่ม เทพีผู้นี้จึงต้องล่าถอยไปด้วยความอับอาย
ครั้งต่อมา เธอยังแปลงกายเป็นหญิงชรากำลังล้างชุดเกราะเปื้อนเลือดในแม่น้ำขณะที่คูคูลันกำลังเดินไปยังสนามรบเพื่อบอกลางร้ายให้ยอดมนุษย์เสียขวัญ แต่คูคูลันดูจะไม่หวั่นไหวนัก
แต่เล่ห์กลไม้ตายของเทพีแห่งโชคชะตากำลังรอเขาอยู่ เมื่อยอดนักรบแห่งอุลสเตอร์กำลังนั่งรถม้าไปยังสนามรบในวันหนึ่ง เขาได้พบกับหญิงชราตาบอดข้างหนึ่งสามคนกำลังหุงอาหารอยู่ข้างทาง ทั้งสามต่างเชิญชวนให้คูคูลันมากินอาหารก่อนจะไปรบ ซึ่งคูคูลันก็ตกลงตามนั้น เนื่องจากเขามีกฎประจำตัวที่ต้องยึดถืออย่างเหนียวแน่น 2 ข้อ คือห้ามปฏิเสธน้ำใจไมตรี และห้ามกินเนื้อสุนัข หากแหกกฎเหล่านี้เมื่อใด นั่นแปลว่าคูคูลันจะต้องพบกับจุดจบในไม่ช้า
แต่เมื่อคูคูลันกลืนชิ้นเนื้อลงท้องไป เขากลับรู้สึกว่าพละกำลังที่เคยมีเริ่มหายไป แต่หญิงชรากลับกล่าวอวยพรเขาว่า “หอก 3 เล่มแรกที่ท่านพุ่งออกไปจะฆ่าราชา 3 องค์” คูคูลันที่กำลังรู้สึกตกใจกับความอ่อนแรงกลับมีกำลังใจขึ้นมาทันที พร้อมกับหยิบอาวุธขึ้นและกล่าวอำลาหญิงชราทั้งสาม จากนั้นจึงขึ้นรถม้าเข้าสู่สนามรบพร้อมความมั่นใจในคำอวยพรนั้น
แท้จริงแล้วหญิงชราทั้งสามคือมอร์ริแกนที่จำแลงกายมาล่อลวงคูคูลันต่างหาก และเนื้อที่เขากินเข้าไปนั้นคือเนื้อสุนัข นั่นแปลว่าชะตาของยอดมนุษย์ครึ่งเทพจะต้องขาดในศึกครั้งนี้
เมื่อคูคูลันเข้าประจันหน้ากับนักรบอีกฝ่าย นักรบนายหนึ่งก็ก้าวออกมาเผชิญหน้าเขา นักรบครึ่งเทพจึงหยิบหอกเล่มหนึ่งออกมาแล้วซัดไปที่นักรบฝ่ายตรงข้ามอย่างจังจนกระเด็นล้มลงไป แต่ทันใดนั้นเอง นักรบอีกคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาพร้อมดึงหอกจากศพเพื่อน แล้วซัดหอกของคูคูลันกลับมา
หอกใบนั้นพุ่งเข้าหาคูคูลันอย่างรวดเร็ว แต่นักรบหนุ่มเอี้ยวตัวหลบได้ทัน หอกใบนั้นจึงพุ่งเข้าไปหาร่างของสารถีคู่ใจของคูคูลันที่อยู่ด้านหลังจนสิ้นใจทันที ตรงคำทำนายของหญิงชราเพราะฉายาของเลกคือ ‘ราชาแห่งรถม้าศึก’
เขาจึงซัดหอกอีกใบไปยังนักรบที่สังหารสารถีคู่ใจ หอกปักเข้าที่ร่างนักรบคนนั้นอย่างจัง แต่แล้วนักรบอีกคนกลับซักหอกเล่มนั้นกลับมา คูคูลันหลบได้อีกครั้ง แต่คราวนี้หอกกลับพุ่งเข้าไปสังหารเลธ มาคา ม้าศึกคู่ใจของเขาทันที ฉายา ‘ราชาแห่งอาชา’ ของม้าคู่ใจทำให้คูคูลันนึกถึงคำทำนายของหญิงชราทั้งสามได้ นักรบครึ่งเทพแทบหัวใจสลาย บัดนี้มีเพียงตัวเขาคนเดียวกับกองทัพศัตรู
คูคูลันที่ไร้เรี่ยวแรงจึงซัดหอกเล่มที่สามเข้าใส่ศัตรู แต่หอกเล่มนี้กลับพุ่งลงปักพื้นดินใกล้นักรบข้าศึก นักรบผู้นั้นจึงดึงหอกออกมา แล้วซัดกลับมาที่คูคูลัน แต่คราวนี้ยอดนักรบกลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหลบคมหอกได้ หอมเล่มนั้นจึงปักเข้าที่ลำตัวเขาอย่างจังจนลำไส้ทะลักออกมา คูคูลันจึงถอยไปยืนพิงศิลาสูงก้อนหนึ่งแล้วมัดร่างตนเองให้แนบแน่นกับหินด้วยลำไส้ที่ทะลักออกมา เพื่อให้ศัตรูนึกว่าตนยังยืนต่อสู้อยู่ได้แม้จะบาดเจ็บปางตาย ศัตรูจึงไม่กล้าเข้ามาใกล้
ทันใดนั้นมอร์ริแกนได้จำแลงกายเป็นกาดำตัวหนึ่งร่อนลงมาเกาะบนไหล่เขา คูคูลันจึงเข้าใจทันทีว่าหญิงชราและคำอวยพรนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงกลลวงของมอร์ริแกน จากนั้นลมหายไปของคูคูลันเริ่มเบาลงเรื่อยๆ จนหยุดแน่นิ่งไปในที่สุด อีกาตัวนั้นร้องดังก้องสนามรบเพื่อประกาศชัยชนะต่อยอดนักรบครึ่งเทพแล้วบินจากไป จากนั้นนักรบศัตรูจึงเข้ามาแล้วตัดศีรษะของคูคูลันไปมอบให้ราชินีเมฟ
วีรกรรมของคูคูลันได้กลายมาเป็นตำนานเล่าขานกันในไอร์แลนด์นับพันปี เรื่องเทพปกรณัมไอริชต่างถูกเก็บรักษาอย่างดีและบอกเล่าสืบทอดกันมาหลายชั่วรุ่นแม้ว่าไอร์แลนด์จะรับศาสนาคริสต์มาก่อนชาติอื่นๆ ก็ตาม เทพตำนานได้กลายตัวตนและจุดยึดเหนี่ยวร่วมกันของวัฒนธรรมไอริช คูคูลันยังกลายมาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการเมืองที่ชาวไอริชใช้รวมใจกันระหว่างการต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ เพราะเขาคือสัญลักษณ์ของความกล้าหาญที่ยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพศัตรูยิ่งใหญ่ แม้ว่าตนจะมีกำลังเพียงน้อยนิดนั่นเอง
เรื่อง : อันโตนิโอ โฉมชา
ภาพประกอบ : เพ็ญนภา บุปผาเจริญสุข
โฆษณา