Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อยากเล่า
•
ติดตาม
8 มิ.ย. 2020 เวลา 13:12 • ประวัติศาสตร์
ทุเรียนที่เรากินกันมีที่มาจากที่ไหน ?
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งที่เพจ “อยากเล่า” ครับ
วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องราวของราชาของผลไม้ หรือ “ทุเรียน” ผลไม้โปรดขวัญใจคนไทยอย่างพวกเรานี่เอง
เพื่อน ๆ เคยสงสัยหรือเปล่าครับ ว่าทุเรียนมีที่มาจากที่ไหนกัน ?
ถ้าเคยสงสัยแต่ยังไม่ทราบ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะวันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง
อย่างที่รู้ ๆ กันครับว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเรานี่เอง แต่ถ้าให้เจาะลึกไปกว่านั้น ทางนักวิชาการคาดว่าต้นกำเนิดของทุเรียนนั้นอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะบอเนียวและหมู่เกาะสุมาตรา หรือบริเวณประเทศบรูไน อินโดนีเซีย และมาเลเซียนั่นเอง
ต้นทุเรียน
ส่วนหนึ่งที่คาดเดากันอย่างนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากรากศัพท์ของคำว่า “ทุเรียน” นั่นเองครับ
ทุเรียน หรือ Durian ในภาษาอังกฤษ มาจากภาษามลายูคำว่า duri ที่แปลว่า หนาม จากนั้นก็มารวมกับคำต่อท้าย -an ซึ่งเป็นไวยากรณ์เพื่อสร้างเป็นคำนามในภาษามลายู กลายมาเป็นคำว่า Durian หรือทุเรียนในภาษาไทยเรานั่นเอง
แม้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถวมาเลเซีย แต่บ้านเราก็กินทุเรียนกันมาตั้งแต่สมัยโบราณโน่นแล้วครับ ซึ่งหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ก็คือบันทึกของลาลูแบร์ ทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
โดยในบันทึกของลาลูแบร์ ได้กล่าวไว้ว่า "ดูเรียน" (Durion) ชาวสยามเรียกว่า “ทูลเรียน” (Tourrion) เป็นผลไม้ที่นิยมกันมากในแถบนี้ แต่สำหรับข้าพเจ้า ไม่สามารถทนต่อกลิ่นเหม็นอันรุนแรงของมันได้ ผลมีขนาดเท่าผลแตง มีหนามอยู่โดยรอบ ดูๆ ไป ก็คล้ายกับขนุนเหมือนกัน มีเมล็ดมาก แต่เมล็ดใหญ่ขนาดเท่าไข่ไก่ ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้กิน ภายในยังมีอยู่อีกเมล็ดหนึ่ง ถือกันว่า ยิ่งมีเมล็ดในน้อย ยิ่งเป็นทูลเรียนดี อย่างไรก็ตาม ในผลหนึ่งๆ ไม่เคยปรากฏว่า มีน้อยกว่า ๓ เมล็ดเลย”
รูปทุเรียน ในบันทึกของลาลูแบร์
แม้ไม่สามารถระบุได้อยางชัดเจนว่าทุเรียนเข้ามาที่ไทยจริง ๆ ได้อย่างไรและเมื่อไหร่ แต่นักวิชาการหลาย ๆ ท่านก็เชื่อกันมาเข้ามาจากมาเลเซียผ่านทางภาคใต้ของไทย และจากบันทึกของลาลูแบร์ก็เห็นได้ชัดเลยว่า คนไทยกินทุเรียนมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วครับ
ในส่วนของชาวตะวันตก ก็พึ่งรู้จักทุเรียนเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 15 หรือประมาณ 600 ปีมานี้เองครับ โดยชาวตะวันตกรู้จักทุเรียนครั้งแรกผ่านทางบันทึกของพ่อค้าชาวอิตาลีที่มาท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชื่อว่า นิกโกเลาะ ดา กอนตี (Niccolò Da Conti) และได้บันทึกไว้ว่า “พวกเขา (ชาวสุมาตรา) มีผลไม้สีเขียวชื่อว่าทุเรียน มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับแตงโม ด้านในมีเนื้อคล้ายส้มสียาวรี มีลักษณะคล้ายเนยข้น ๆ และมีรสชาติที่ซับซ้อน”
บันทึกของบาทหลวงคณะเยซูอิตเกี่ยวกับทุเรีบย (ขวาบน)
หลังจากนั้นทุเรียนก็เป็นที่รู้จักของทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมขนาดนั้นเพราะกลิ่นที่แรงจนเป็นเอกลักษณ์และปลูกได้แค่ในเขตร้อน แต่ในปัจจุบันทุเรียนก็เริ่มที่เป็นที่นิยมมากขึ้นมาก โดยเฉพาะสำหรับชาวจีนครับ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้นะครับ
https://www.blockdit.com/articles/5cdfbb93226fb00ffa4c0301/#
)
แถมอีกนิดหน่อย ฉายา “ราชาของผลไม้” ของทุเรียน จริง ๆ แล้วไม่ได้มีที่มาจากรสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ก็คาดกันว่าอาจเป็นเพราะลักษณะภายนอกของผลที่เป็นหนามคล้ายมงกุฎของพระราชาของมันด้วยครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับบทความในครั้งนี้ อยากกินทุเรียนขึ้นมาเลยใช่ไหมครับ (ฮา)
เช่นเคยครับ หากชอบบทความแบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามได้ที่เพจ “อยากเล่า” ที่นี่นะครับ
อ้างอิง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99
https://en.wikipedia.org/wiki/Durian
http://saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=28&chap=4&page=t28-4-infodetail01.html
บันทึก
6
2
1
6
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย