9 มิ.ย. 2020 เวลา 11:44 • สุขภาพ
ช็อกโกแลต
รูปภาพช็อกโกแลตจากpixabay.com
คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก หรือว่าพาย ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นของหวานอย่างหนึ่งที่ถูกใจคนทั่วโลก
รูปภาพเมล็ดโกโก้จากpixabay.com
ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างไม่ละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้นโกโก้นั้นค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก (Aztecs) แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายและปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรสฝาดที่เข้มข้นมาก ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกในนาม "โกโก้"
ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดโกโก้รู้จักภายใต้หลายชื่อที่แตกต่างกันไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในอเมริกา อุตสาหกรรมช็อกโกแลตได้จำกัดความไว้
โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้
เนยโกโก้ (cocoa butter) คือไขมันของเมล็ดโกโก้
ช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมของเมล็ดและเนยโกโก้
ช็อกโกแลตคือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของฝักถั่วโกโก้และเนยโกโก้ ซึ่งได้ผสมน้ำตาลและส่วนผสมอื่น ๆ และทำให้อยู่ในรูปของแท่งและรูปอื่น ๆ
เมล็ดของต้นโกโก้นอกจากทำเป็นช็อกโกแลตได้แล้วยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ด้วย เช่น ช็อกโกแลตร้อน เครื่องดื่มช็อกโกแลตนั้นคิดค้นขึ้นโดยชาวอัซเตก (Aztecs) หลังจากนั้นโดยชนเผ่าอินเดียนแดงและชาวยุโรป
บ่อยครั้งที่ช็อกโกแลตมักจะทำให้อยู่ในรูปของสัตว์ต่าง ๆ คน หรือวัตถุในจินตนาการ เพื่อร่วมในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น รูปกระต่าย รูปทรงไข่ในเทศกาลอีสเตอร์ รูปของเหรียญหรือซานตาคลอสในเทศกาลคริสต์มาส และรูปทรงหัวใจในเทศกาลวาเลนไทน์
ชนิดของช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมที่นิยมมาก และมีให้เลือกในหลากหลายรูปแบบ รูปแบบและรสชาติของช็อกโกแลตนั้นแตกต่างกันได้โดยส่วนผสมและปริมาณของส่วนผสมในช็อกโกแลต นอกจากส่วนผสมแล้วรสชาติยังแตกต่างกันโดยระยะเวลาและอุณหภูมิของการคั่วเมล็ดโกโก้ด้วย
รูปภาพช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวานจากsites.google.com
ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน
ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน (unsweetened chocolate) คือ ช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์หรือที่รู้จักกันในนาม ช็อกโกแลตฝาด ใช้ในการอบอาหาร และเป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติเข้มข้นและลุ่มลึกของช็อกโกแลตบริสุทธิ์ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อมีการเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี เค้ก ลูกกวาด และคุกกี้
รูปภาพช็อกโกแลตดำจากsee.news
ช็อกโกแลตดำ
ช็อกโกแลตดำ (dark chocolate) คือช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งบางครั้งก็เรียกเป็นช็อกโกแลตธรรมดา แต่ว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเป็นช็อกโกแลตหวาน และกำหนดให้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 15% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 35% ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ป้องกันมิให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว สาเหตุของการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูง
รูปภาพช็อกโกแลตนมจากsites.google.com
ช็อกโกแลตนม
ช็อกโกแลตนม (milk chocolate) คือช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดว่าหากจะเรียกว่าช็อกโกแลตนม ต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25%
รูปภาพเนยโกโก้จากwww.patcharapa.com
ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (cocoa butter) นม และยังเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย ช็อกโกแลตนมนี้ใช้สำหรับแต่งหน้าขนมได้เป็นอย่างดี ช็อกโกแลตนมที่ทำในประเทศสหรัฐฯ ต้องประกอบด้วยน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 10% และนมที่ไม่ได้เอามันเนยออก 12%
รูปภาพเนยช็อกโกแลตลิเคียวร์จากkansiriblog.wordpress.com
ช็อกโกแลตลิเคียวร์
เป็นผลผลิตจากเมล็ดโกโก้นำมาบดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตนี้สามารถทำให้เย็นและทำให้แข็งตัวโดยใส่พิมพ์ไว้ แต่ช็อกโกแลตที่ได้เป็นชนิดที่ไม่หวาน น้ำช็อกโกแลตนี้จะมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53%
รูปภาพช็อกโกแลตกึ่งหวานจากsites.google.com
ช็อกโกแลตกึ่งหวาน
ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (semi-sweet) อยู่ในรูปของเหลวแล้วเพิ่มความหวานและใส่เนยโกโก้ลงไปด้วย สีของช็อกโกแลตชนิดนี้สีจะเข้ม ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ จะมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27% ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสหวานเล็กน้อยและกลมกล่อม
รูปภาพช็อกโกแลตหวานจากsites.google.com
ช็อกโกแลตหวาน
ช็อกโกแลตหวาน (sweet chocolate) ช็อกโกแลตชนิดนี้จะเพิ่มความหวานลงไปมากกว่าช็อกโกแลตแบบหวานน้อย และมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 1 % ช็อกโกแลตชนิดนี้ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมและตกแต่งขนม และยังมีไขมันเท่า ๆ กับช็อกโกแลตแบบหวานน้อย
รูปภาพช็อกโกแลตขาวจากsites.google.com
ช็อกโกแลตขาว
ช็อกโกแลตขาว (white chocolate) ชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ แต่ไม่มีโกโก้ที่อยู่ในรูปของไขมัน แต่จะประกอบไปด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และใส่กลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ช็อกโกแลตขาวนี้จะแตกหักง่าย หากเป็นของปลอมจะทำมาจากน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้
รูปภาพลิควิดช็อกโกแลตจากsites.google.com
ลิควิดช็อกโกแลต
เป็นช็อกโกแลตที่ไม่หวาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายเป็นขวด ขวดละ 1 ออนซ์ และเนื่องจากมันไม่ละลายจึงสะดวกในการใช้มาก โดยพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ทำขนมอบ อย่างไรก็ดีเนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้ ซึ่งเนื้อช็อกโกแลตจะแตกต่างกัน ปกติแล้วช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสไม่หวาน
รูปภาพกูแวร์ตูร์จากsites.google.com
กูแวร์ตูร์
ช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ (couverture) เป็นชนิดที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือจะเป็นมันเงา โดยปกติจะมีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อยที่สุด 32% ทำให้มันสามารถคงตัวอยู่ในรูปของไขได้ดีกว่าชนิดเคลือบ ปกติแล้วจะใช้เฉพาะในร้านที่ทำขนมหวานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในรูปของส่วนที่เคลือบอยู่ภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตอยู่
รูปภาพกานาชจากsites.google.com
กานาช
ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีลักษณะข้นมาก เป็นที่นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต กานาชทำโดยการเทวิปปิงครีมที่นำไปอุ่นลงไปในช็อกโกแลตสับในปริมาณที่เท่ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนช็อกโกแลตเริ่มละลายและคนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสมที่ข้นขึ้น อาจเติมเนยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงาให้กับกานาชด้วย
รูปภาพConfectionery Coatingจากsites.google.com
Confectionery Coating
เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งรสชาติต่าง ๆ มีสีสันหลากหลาย ลูกกวาดที่ได้นี้ผงโกโก้จะมีไขมันต่ำ แต่จะไม่มีส่วนผสมของเนยโกโก้ เหมือนชนิดอื่น ๆ จึงแยกออกมาเป็นอีกประเภทหนึ่งได้
14 ข้อดีของดาร์กช็อกโกแลตที่มีต่อสุขภาพ
สำหรับใครที่ติดกินมิลค์ช็อกโกแลตเป็นประจำทุกวัน ขอแนะนำว่า ควรหันมากินดาร์กช็อกโกแลตบ้าง เพราะในดาร์กช็อกโกแลตนั้น มีประโยชน์ต่อสุขภาพซ่อนอยู่หลายข้อเลยทีเดียวค่ะ รับรองว่าอ่านแล้วจะยิ่งชอบกินช็อกโกแลตมากขึ้นไปอีก มาดูกันเถอะว่าช็อกโกแลตสีดำเข้มนี้จะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอะไรบ้าง
บำรุงหัวใจ
จากผลการวิจัยของประเทศสวีเดนเผยว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจได้สูงถึงร้อยละ 44 ทั้งนี้เป็นเพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวที่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันในเวลาต่อมา
ช่วยให้ความจำดีขึ้น
ดาร์กช็อกโกแลตเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ทำให้เราจดจำอะไรได้ดีขึ้น จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Nottingham ในประเทศอังกฤษ เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองให้นานมากขึ้นถึง 2-3 ชั่วโมง
ป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2
สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตช่วยยับยั้งการกระตุ้นสร้างอินซูลินในร่างกายได้ และยังช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตของเราอีกด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ได้
ช็อกโกแลต
ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
ดาร์กช็อกโกแลตเป็นอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง และชะลอกระบวนการเกิดริ้วรอยบนผิวพรรณ เป็นต้น
ลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
ดาร์กช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มีความหวานต่ำ เพราะมีสารคาเฟอีนให้ความขมที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน (Theobromine) อยู่ในปริมาณสูง ดังนั้น กินแล้วจึงไม่ต้องห่วงว่าฟันจะผุจากการสะสมของแบคทีเรีย
บำรุงเลือด
ดาร์กช็อกโกแลตแท่งสีดำเข้มอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม สังกะสี แมกนีเซีย และธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยบำรุงเลือดของเราให้เกิดการไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้เราห่างไกลจากภาวะโลหิต โรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยลดน้ำหนัก
จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เผยว่า รสขมของดาร์กช็อกโกแลตช่วยยับยั้งความอยากอาหารได้ดี โดยเฉพาะ อาหารที่มีรสหวาน รสเค็ม และมีไขมันสูง ซึ่งการกินดาร์กช็อกโกแลตขนาดแค่เหรียญบาทเป็นประจำทุกวัน ก็สามารถช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักตัวได้ง่ายขึ้นแล้ว น่าลองนะคะ !
ดีต่อลูกน้อยในครรภ์
คนท้องที่กินช็อกโกแลตเป็นประจำมีแนวโน้มว่าลูกน้อยในครรภ์เป็นเด็กอารมณ์ดี ยิ้มเก่ง จากผลการวิจัยของประเทศฟินแลนด์ เผยว่า คนท้องที่กินดาร์กช็อกโกแลตมากกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งท้องนั้น มีความเสี่ยงต่ำที่จะครรภ์เป็นพิษถึงร้อยละ 69 อีกทั้งยังมีแนวโน้มได้ลูกน้อยที่มีนิสัยน่ารัก อารมณ์ดี และยิ้มเก่งด้วย สาเหตุมาจากการที่สมองของคุณแม่หลั่งสารเคมีเฟนิลเอธิลลามีน (Phenylethylamine) ออกมาขณะกินช็อกโกแลต ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี ซึ่งความรู้สึกนี้ก็จะถ่ายทอดถึงลูกน้อยด้วย
ช็อกโกแลต
ทำให้อารมณ์ดีขึ้น
ในขณะที่เรากำลังกินดาร์กช็อกโกแลตนั้น สมองของเราจะหลั่งสารแห่งความสุข หรือสารเอ็นดอร์ฟินออกมาด้วย ทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
ปกป้องผิวจากแสงแดด
จากผลการวิจัยในประเทศอังกฤษและเยอรมนี เผยตรงกันว่า สารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตนั้นมีคุณสมบัติปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำร้ายของรังสียูวีได้ โดยจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น จึงช่วยป้องกันเซลล์ผิวถูกทำลายได้
แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอขึ้น
มีผลการวิจัยหนึ่งเผยว่า การกินช็อกโกแลตนั้นสามารถบรรเทาอาการคันคอ และอาการไอได้ สาเหตุมาจากสารคาเฟอีนในโกโก้ที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน (Theobromine) มีคุณสมบัติทำให้ชุ่มคอคล้ายคลึงกับตัวยาโคดีอีน (codeine) หรือยาแก้ไอ
บรรเทาอาการท้องเสีย
เคยมีบันทึกกล่าวเอาไว้ว่า ในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้สมัยศตวรรษที่ 16 นั้นมีการนำช็อกโกแลตมาใช้บรรเทาอาการท้องเสีย เพราะสารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตจะจับตัวกับโปรตีนในร่างกาย เพื่อปรับสมดุลการขับถ่ายของเราให้ดีขึ้น
บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิง (PMS)
ช็อกโกแลตสามารถบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิงได้ โดยจะช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาปรับสมดุลอารมณ์ และยังช่วยลดอาการบวมน้ำได้อีกด้วย
ช่วยลดคอเลสเตอรอล
จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และยังช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้อีกด้วย เพราะช็อกโกแลตชนิดนี้มีกรดโอเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อร่างกาย
ช็อกโกแลตกับข้อยกเว้นเรื่องสุขภาพ
ช็อกโกแลตก็มีข้อจำกัดบางประการกับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ป่วยเป็นโรคไตและไมเกรน หากกินเข้าไปแล้วอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
ไมเกรน
เพราะในช็อกโกแลตนั้นมีสารเคมีที่ชื่อ ไทรามีน (Tyramine) ที่จะยิ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดอยู่ในระดับต่ำลง อาการปวดไมเกรนอาจหนักขึ้นกว่าเดิม
โรคไต
ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง หากผู้ป่วยโรคไตกินเข้าไปอาจทำให้เกิดผลึกแคลเซียมออกซาเลตสะสมเป็นก้อนนิ่วในกรวยไตมากขึ้น
ภาพทั้งหมดเป็นภาพประกอบอาจจะผิดพลาดประการใดก็แนะนำและติชมได้
เนื้อหาจาก
รูปภาพจาก
ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน
โฆษณา