9 มิ.ย. 2020 เวลา 09:11 • ไลฟ์สไตล์
ถ้าวันนี้เป็น "วันสุดท้าย" ในการมีชีวิตอยู่ของคุณ และคุณมีโอกาสที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งต่างๆในชีวิตของคุณได้อีกครั้ง คุณอยากจะแก้ไขสิ่งเหล่านั้นไหม? แล้วอะไรบ้างที่คุณอยากจะแก้ไขมัน?...
หนังสือเรื่อง The Top Five Regrets of the Dying
คำถามเหล่านี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนึงที่มีชื่อว่า "The Top Five Regrets of the Dying" โดยหนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นโดยพยาบาลสาวซึ่งมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เธอมีชื่อว่า Bronnie Ware หนังสือเล่มนี้เป็นหนังลือที่รวบรวม 5 เรื่องที่น่าเสียใจที่สุดของผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตที่ไม่ได้ทำ และถ้าหากพวกเข้าสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้พวกเขาก็จะทำมันอย่างแน่นอน และนี่คือผลสรุปทั้ง 5 เรื่อง
ตามหาความฝัน
1. ขอให้ตัวเองมีความกล้าหาญพอที่จะใช้ชีวิตตามความรู้สึกตัวเองอย่างแท้จริง
ข้อนี้เป็นความเสียใจที่พบมากที่สุด โดยส่วนใหญ่พวกเค้าเหล่านั้นจะบอกว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตยังมี "ความฝัน" อีกมากมายหลายอย่างที่พวกเขานั้นแทบไม่เคยสมหวังเลย แต่ที่น่าเศร้าที่สุดคือพวกเขายังไม่เคยทำตามความฝันของพวกเขาด้วยซ้ำ พอจะกลับมาทำตามความฝันที่วาดไว้มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะเวลาที่ล่วงเลยมา ร่างกายที่กำลังจะเสื่อมถอยลง และสุขภาพที่ดีที่ได้สูญเสียไป กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
"จงเดินทางตามเส้นทางชีวิตและความฝันของตัวเองไปพร้อมๆกับ การดูแลสุขภาพของคุณ"
การใช้เวลาไปกับการทำงานอย่างหนักหน่วง
2. หวังว่าตัวเองจะไม่ได้ทำงานอย่างหนักแบบที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่คำสารภาพข้อนี้มาจากผู้ป่วยชาย มักจะบอกว่า พวกเขาทุ่มเทการทำงานอย่างหนักเพื่อครอบครัวและอนาคตที่มั่นคงจนพวกเขาแทบจะไม่ได้ใช้เวลาที่มีความสุขกับเรื่องที่พวกเขาอยากทำจริงๆ เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงิน
ส่วนในฝั่งของผู้ป่วยหญิงนั้น มักจะบอกว่า พวกเธอไม่ได้รับการยกย่องมากที่ควร โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน ทำหน้าที่คอยดูแลลูก เมื่อถึงช่วงเวลาที่ลูกเติบโตขึ้น พวกเธอมักจะรู้สึกโดดเดี่ยวและพบว่าช่วงเวลาในชีวิตของเธอได้หายไปเพราะต้องทุ่มเทเวลาเหล่านั้นไปให้ลูกของเธอนั่นเอง
ความรัก
3. ขอให้ตัวเองมีความกล้าหาญที่จะแสดงความรู้สึกของตนเอง
หลายๆคนยอมเก็บงำความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองแทนที่จะพูดอย่างที่ตนคิดและรู้สึก เพียงเพราะไม่อยากเสียมิตรภาพกับผู้อื่น แต่สิ่งเหล่านั้นก็ย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความหงุดหงิดและความไม่พอใจ ซึ่งการเก็บกดสิ่งเหล่านั้น เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผู้คนเจ็บป่วยและเสียสุขภาพจิต
4. ขอให้ตัวเองได้มีโอกาสติดต่อกับพ่อแม่,พี่น้อง และเพื่อนๆ เพราะไม่เคยใช้เวลากับคนสำคัญในชีวิตอย่างแท้จริง
หลายๆ คนปล่อยให้ความสัมพันธ์ดีๆ ห่างหายไปนานหลายปี สิ่งนี้เองที่ทำให้พวกเขาเสียใจอยู่ลึกๆ ที่ไม่เคยได้ใช้เวลากับคนสำคัญในชีวิตของพวกเขาเลยเพราะมัวแต่ใช้เวลาไปในการทำงาน ในการดำเนินชีวิตที่แสนจะวุ่นวาย พอมารู้ตัวอีกทีก็กำลังเผชิญอยู่กับความตายเสียแล้ว เงินทอง ความร่ำรวยที่เคยคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต กลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเท่ากับ "ความรัก" การที่ได้พูดคุย โอบกอดกับคนที่ตัวเองรัก และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่มักรอให้ลูกหลานมาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วจึงจากไป
ความรัก
5. พวกเขาหวังว่าจะยอมปล่อยให้ตัวเองมีความสุขมากกว่าที่เคย
คนส่วนใหญ่มักชินในการใช้ชีวิตในรูปแบบเดิมๆหรือคุ้นชินจนยากที่จะสลัดออก โดยในตอนที่พวกเขายังมีโอกาสได้ใช้ชีวิตพวกเขาเหล่านั้นกลัวผู้คนต่อว่าหรือไม่เห็นด้วยในการเลือกทำตามความฝันของตนเอง และทนใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขและน่าเบื่อหน่ายอย่างนั้นทุกๆวัน แถมยังหลอกตัวเองและคนอื่นว่าตัวเองนั้นสบายดี แต่เมื่อพวกเขามาถึงวันสุดท้ายของชีวิตจึงทำให้ได้รู้ว่า ความสุข คือ ทางเลือกที่พวกเขาไม่เคยเลือก แค่ความสุขง่ายๆอย่างเช่น การได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ทำเรื่องบ้าๆบอๆ หรือการที่ได้เจอกับคนที่ตัวเองรักอีกครั้งก่อนตาย
ความรัก
เมื่ออ่านแล้วก็ทำให้ฉุกคิดได้ว่า วันนี้ได้ทำตามสิ่งที่หัวใจเรียกร้องแล้วหรือยัง เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่วันสุดท้ายของชีวิตนั้นจะมาถึง จงใช้ทุกนาทีกับคนที่คุณรักให้มีความสุข ทำในสิ่งที่อยากทำ เดินตามความฝันที่วาดไว้ อย่างน้อยถึงมันอาจไม่สำเร็จแต่เรายังได้ลงมือทำมัน
โฆษณา