10 มิ.ย. 2020 เวลา 07:40
บทความตามใจฉัน “Neo-Geo: Monster of 16” Part 2
นอกจากราคาเครื่องที่สูงมากแล้ว SNK ยังอัพเปอร์คัทผู้เล่นซ้ำไปอีกดอกด้วยหมัดที่ชื่อว่าราคาตลับเกม
เนื่องจากเกมของ Neo Geo ถูกผลิตมาในรูปแบบของตลับ Rom ทำให้ตลับเกมมีราคาขายที่สูงมาก แม้ SNK จะตั้งราคาขายตลับเกมที่อัตราใกล้เคียงกับตลับเกมของเครื่องเล่นเกมเจ้าตลาดอย่าง SEGA หรือ Nintendo ที่มีราคาประมาณ 1 ใน 3 ถึง 1 ใน 2 ของราคาเครื่องแล้วก็ตาม แต่นั้นก็ทำให้ราคาตลับเกมยังสูงอยู่ดีโดยราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 200 USD โดยประมาณ นั้นเป็นราคาที่สามารถซื้อเครื่อง SNES ได้เลยด้วยซ้ำ
ราคาเกมถูกที่สุดอยู่ที่ 150 USD บางเกมราคาขายสูงถึง 500 USD เกือบเท่าราคาเครื่องเลยก็มี
ในไทยนั้นเท่าที่ผู้เขียนอ่านเจอพบว่าราคาขายของ Neo Geo อยู่ที่ราว ๆ 14,000 – 16,000 บาท ในช่วงกลางยุค 2530s นี่เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก
จากเพจ มหาลัยบ้านนอก ที่แชร์โพสของเพจ กลุ่มประชาชนทนไม่ไหว เกี่ยวกับราคาทองคำไว้ จะเห็นว่าในปี 2538 ราคาขายของทองอยู่ที่บาทละ 4712 บาท เรียกได้ว่าราคาของ Neo Geo อย่างถูกสุดก็เกือบจะซื้อทองได้ถึง 3 บาทเลยทีเดียว นี่ยังไม่ได้พูดถึงราคาค่าตลับเกมที่ในไทยที่ขายกันขั้นต่ำอยู่ที่ 3 ใน 4 ของราคาเครื่อง บางเกมราคาขายสูงกว่าราคาเครื่องเล่นเกมเสียอีกด้วยซ้ำ
ที่ผู้เขียนเขียนตลก ๆ ไว้ว่า นี่คือราคาแห่งทองคำนั้นจึงไม่ใช่การเขียนเล่น ๆ แต่มันคือราคาแห่งทองคำจริง ๆ
นี่ทำให้ Neo Geo มียอดขายที่น้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ถึงกระนั้น Neo Geo ก็ได้รับความนิยมมากในกลุ่มร้านเกมในไทยที่ลงทุนซื้อเครื่องนี้ไปให้เช่าเล่นในร้านด้วยราคาค่าเล่นที่สูงลิ่ว ประมาณ 50 – 60 บาทต่อชั่วโมง (ราคาร้านนอกห้าง) เพราะสมัยนั้นมีความนิยมเล่นเกมอาเขตแนว Fighting กันมากและเกมของ SNK ก็เป็นที่นิยมเล่นอย่างแพร่หลาย ถ้าเล่นสู้กันเองก็ตกตาละประมาณ 10 บาท การเช่าเวลาเครื่อง Neo Geo เล่นนั้นถึงจะแพงแต่ก็คุ้มค่ากว่าการไปหยอดเหรียญเล่นตามตู้เกมอาเขตมาก
สมัยผู้เขียนเป็นเด็กจะมีก้วนเพื่อน 4 คนคอยหุ้นกันเช่าเวลาเล่น Neo Geo อยู่บ่อย ๆ โดยใช้ระบบแพ้ออกวนกันไป เกมที่ได้รับความนิยมเล่นมากที่สุดในก้วนคือ King of Fighter 95
ผู้เขียนไม่ทราบเหมือนกันว่าการลงทุนซื้อ Neo Geo มาให้เช่าเล่นนั้นมีผลตอบแทนที่ดีไหม แต่ดูจากร้านเกมที่ผู้เขียนเคยไปสมัยเด็กที่มักซื้อเกมใหม่ของ Neo Geo เข้าร้านบ่อย ๆ รวมถึงมีการซื้อทีวีจอใหญ่พิเศษมาต่อ Neo Geo ให้เช่าเล่นก็คงคาดว่าได้ว่ากำไรน่าจะดีมาก
แม้ SNK จะนำเสนอพลังที่เทียบเท่ากับเกมอาเขตแต่ด้วยกำแพงของราคาจึงทำให้หลาย ๆ คนยอมถอดใจไปซื้อเครื่องอื่นแทน SNK เองก็รู้ปัญหานี้ดีจึงมีการปรับปรุงและออกวางจำหน่ายเครื่อง Neo Geo รุ่นใหม่ออกมาในเดือนกันยายน 1994 ชื่อว่า Neo Geo CD สเปกโดยรวมยังคงเดิมแต่เปลี่ยนสื่อบรรจุข้อมูลเกมจากตลับมาเป็น CD ที่มีค่าการผลิตที่ต่ำกว่ามาก
Neo Geo CD ออกวางจำหน่ายครั้งแรกด้วยราคา 399 USD โดยเกมแบบ CD นั้นขายในราคาเพียงประมาณ 50 USD เท่านั้น จะเห็นได้ว่าราคาพอจับต้องได้แล้ว แต่กระนั้น SNK ก็พลาดในจุดหนึ่งและเป็นจุดตายของ Neo Geo CD ในเวลาต่อมา นั้นคือ CD-Rom Read Speed หรือ ความเร็วในการอ่าน CD
Neo Geo CD นั้นใช้หัวอ่าน CD ที่มีความเร็ว 1x ที่อ่านข้อมูลได้เพียง 150KB ต่อวินาที ขณะที่ตัวเครื่องมี Ram ทั้งหมด 7MB
ถ้าการโหลดทุกครั้งจะต้องอ่านข้อมูลเพื่อใส่ Ram ขนาด 7MB ให้ครบ เท่ากับว่าจะต้องใช้เวลา 46.6 วินาทีถึงจะเสร็จ
นี่จึงทำให้ Neo Geo CD ต้องใช้เวลานานในการ Load ข้อมูล
ขณะที่เครื่องของ Sony ที่ออกมาในภายหลังนั้นใช้หัวอ่าน CD ที่มีความเร็ว 2x ร่วมกับเทคนิคปกปิดการโหลดของผู้พัฒนาเกม ทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกหงุดหงิดและยอมรับได้
Neo Geo CD จึงไม่ประสบความสำเร็จและขายได้เพียง 570,000 เครื่องทั่วโลก
SNK เองก็พยายามแก้ปัญหาโดยการปรับปรุง Neo Geo CD เดิมให้มีความเร็วการอ่านแผ่นที่สูงขึ้นแต่ก็พบว่าค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงนั้นสูงมากเลยเปลี่ยนแผนมาผลิตเครื่องใหม่แทนนั้นคือ Neo Geo CDZ ที่มีความเร็วในการอ่านแผ่น CD สูงขึ้นมาทดแทนเครื่องรุ่นเก่า
แต่กว่าที่ CDZ จะออกวางตลาดครั้งแรกที่ญี่ปุ่นก็ร่วงเข้าเดือนธันวาคม 1995 ซึ่งตลาดเริ่มถูกครองโดยเครื่องเล่นเกมแบบ CD ที่แสดงผล 3 มิติแล้ว สาเหตุที่ล่าช้าเพราะ SNK ต้องการขายเครื่อง CD รุ่นเก่าที่ค้างสต๊อกอยู่ให้ได้มากที่สุดก่อน
อีกทั้ง SNK มีความคิดจะถอนตัวจากตลาดเครื่องเกมคอนโซลทำให้ Neo Geo CDZ จึงไม่เคยได้ออกขายในตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการแต่ถึงกระนั้นก็มีการสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนไม่น้อยเพราะ Neo Geo CDZ ไม่มีการล๊อกโซนและสามารถเล่นแผ่นเกมของ Neo Geo CD ที่เป็นรุ่นก่อนหน้าได้
ข้างล่างคือวิดีโอเปรียบเทียบ Load Time ระหว่าง Neo Geo CD และ CDZ จะเห็นได้ว่า CDZ ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
และยิ่งเวลาผ่านไป ความนิยมของผู้เล่นในช่วง 90s เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจากเกมแนวอาเขตที่เล่นจบได้ในเวลาสั้น ๆ และไม่มีเนื้อหาอะไรมากเปลี่ยนไปเป็นเกมที่สามารถเล่นได้นาน ๆ และมีเนื้อหาที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้ความนิยมในเกมของ SNK น้อยลงไปเรื่อย ๆ ยอดขาย Neo Geo เองก็ลดลงเช่นกัน
ในที่สุด SNK ก็ยอมรับความพ่ายแพ้
Neo Geo คอนโซลทั้งหมดยุติการผลิตเมื่อปี 1997 แต่ยังคงบริการซ่อมไว้ ส่วนเกมก็ยังมีการออกเกมใหม่ ๆ มาเรื่อย โดยเกมสุดท้ายของเครื่อง Neo Geo คือ Samurai Showdown 5 Special แบบตลับออกเมื่อปี 2004 จากนั้นบริการซ่อมก็ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2007 ปิดฉาก Neo Geo ในที่สุดโดยทำยอดขายทั่วโลกได้เพียง 1 ล้านเครื่อง (นับเฉพาะเครื่องเล่นแบบตลับ)
แม้ Neo Geo จะไม่ประสบความสำเร็จในแง่ของยอดขายแต่สำหรับผู้เล่นเกมที่เคยได้สัมผัส Neo Geo นั้น ความประทับใจที่สามารถเล่นเกมคุณภาพระดับอาเขตที่บ้านได้ไม่เคยจางหาย Neo Geo คือ Hero สำหรับพวกเค้า
นี่ทำให้ Neo Geo เป็นเครื่องเกมที่นักสะสมต้องหามาไว้ในครอบครองในฐานะหลักหมุดสำคัญของวงการเกม เรื่องตลกร้ายคือเครื่องเกมนั้นหาได้ไม่ยากนักแต่ตลับเกมนั้นหายากกว่า ตลับเกมของ Neo Geo นั้นก็มีมูลค่าสูงมากในหมู่นักสะสมเพราะจำนวนที่ถูกผลิตออกมานั้นมีน้อยเนื่องจากค่าการผลิตที่สูง บางเกมเช่น King of Fighters 2000 เวอร์ชั่นอเมริกามีเพียง 100 ตลับในโลกเท่านั้น
โดยเกมหายากและมีราคาขายต่อสูงสุดในปัจจุบันคือ Kizuna Encounter เวอร์ชั่นยุโรป โดยมีการประมาณการว่าราคาขายต่อน่าจะอยู่ที่ 5,400 USD ถึง 13,500 USD เลยทีเดียว สาเหตุที่หายากเพราะมีการเรียกเก็บกลับคืนตลับเกมก่อนที่จะวางจำหน่ายหรือถูกส่งให้ผู้ซื้อ มีเพียงส่วนน้อยมาก ๆ ที่มาถึงมือผู้ซื้อได้ก่อน ปัจจุบันพบว่ามีเพียง 5 ตลับในโลก เป็นหนึ่งใน Holy Grail แห่งวงการเกม
อธิบาย Holy Grail หรือจอกศักดิ์สิทธิ์เป็นคำแสลงหมายถึงสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยากจนเหมือนจะไม่มีตัวตนแต่มีอยู่จริง
สิ่งที่ยังคงลึกลับอยู่จนถึงปัจจุบันคือ มีใครบ้างทั้งในไทยและต่างประเทศนั้นที่ซื้อ Neo Geo ไปใช้ส่วนตัว เชื่อว่าไม่มีผู้ปกครองคนไทยที่กล้าซื้อเครื่องนี้ให้ลูกแน่ ๆ พวกเค้าจึงเป็นเกมเมอร์ผู้กล้าหาญที่ยอมจ่ายในระดับทิ้งเงินเดือนทั้งเดือน(ในไทยน่าจะ 2 เดือนเป็นอย่างน้อย) เพื่อให้ความฝันในการเล่นเกมอาเขตที่บ้านกลายเป็นจริง ถ้ามีโอกาสผู้เขียนอยากที่จะพูดคุยกับผู้กล้าซื้อ Neo Geo มาใช้ส่วนตัวว่ารู้สึกอย่างไรในวันนั้น
โฆษณา