10 มิ.ย. 2020 เวลา 14:10 • ปรัชญา
ศาสนาเชนกล่าวว่าศาสดาของพวกเขาเป็นผู้ที่รอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งอดีตปัจุบัน และอนาคต ดังนั้นไม่ว่าพระองค์จะตรัสสิ่งใดมันคือความจริงแท้
พระมหาวีระ
พระพุทธเจ้าทรงมีเรื่องขบขันเกี่ยวกับพระมาหาวีระซึ่งเป็นศาสดาของศาสนาเชนเมื่อ 2500 ปีมาแล้ว ท่านทั้งสองมีชีวิตร่วมสมัยกัน พระมหาวีระนั้นทรงสูงวัยขึ้นทุกวัน ในขณะที่พระพุทธเจ้านั้นทรงพระเยาว์และยังมีอารมณ์ขัน เนื่องจากพระองค์ยังทรงพระเยาว์มีชีวิตชีวา และยังไม่เป็นที่ยอมรับนับถือดังนั้น พระองค์จึงยังทรงแสดงอารมณ์ขันได้ เมื่อใดที่ศาสนาเป็นที่ยอมรับนับถือ
พระองค์จะทรงเป็นที่ยอมรับนับถือ และศาสนาพุทธเองก็เริ่มต้นขึ้นจากพระองค์ พระองค์ตรัสเปรียบเปรย ล้อในความรอบรู้ พลังอำนาจ และความสามารถในการปรากฏตัวได้ทุกเวลาของพระมหาวีระ พระองค์ตรัสว่า
"ตถาคตเห็นพระมหาวีรรทรงยืนบิณฑบาตอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง" นั่นเป็นเพราะพระมหาวีระมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีอะไรเลย จึงขอรับบิณฑบาตรเพื่อยังชีพ
พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า " ตถาคตเห็นพระองค์ประทับอยู่หน้าบ้านซึ่งเป็นบ้านร้างที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน ทั้งๆที่ศาสนาเชนกล่าวว่าพระองค์ไม่ได้ทรงทราบแค่ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังทราบอดีตและอนาคตด้วย "
พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปอีกว่า "ตถาคตเห็นพระมหาวีระทรงพระดำเนินอยู่ข้างหน้าตถาคตและทรงเหยียบหางสุนัขเพราะยังเป็นเวลาเช้าตรู่และยังมืดอยู่ จนกระทั่งสุนัขตัวนั้นกระโดดร้อง พระมหาวีระจึงทราบว่าได้เหยียบให้สุนัขเข้าแล้ว ในเมื่อพระองค์ทรงรอบรู้ทุกอย่างแล้ว พระองค์ไม่ทรงทราบหรือว่า
สุนัขตัวนั้นนอนหลับอยู่บนทางเดิน แล้วพระองค์ทรงเหยียบหางมัน "
OSHO
โฆษณา