Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wordever! คำตามใจ
•
ติดตาม
13 มิ.ย. 2020 เวลา 06:51 • ปรัชญา
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ Legendary Girls ขอมาเล่าสู่กันฟังกับคำว่า “Gaslighting” ซึ่งมันเป็นคำที่น่าสนใจมากๆค่ะ แล้วมันมีความหมายว่าอะไรกันล่ะ? แล้วเพื่อนๆกำลังพบเจอเหตุการณ์ที่คำๆนี้เกี่ยวข้องอยู่รึเปล่า? พวกเราขอเริ่มจากความหมายของ “Gaslighting” นะคะ
“Gaslighting” คือรูปแบบการจัดการแบบผิดๆของความสัมพันธ์ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากๆ เพราะมันเป็นการทำร้ายความรู้สึกของฝั่งตรงข้ามโดยการทำให้คนๆหนึ่งเกิดความสงสัยในตัวเองว่า “นี่ฉันบ้ารึเปล่า?” “ฉันเป็นคนที่แย่ขนาดนี้เลยหรอ?” หรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกแย่นั่นเอง โดยส่วนมาก “Gaslighting” มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เป็นแฟนกันหรือคู่ที่แต่งงานแล้ว ยังไงก็ตามไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
ในทำนองเดียวกัน “Gaslighting” นั้นเป็นเทคนิคที่ใช้บิดเบือนความเป็นจริง เช่น เมื่อมีคนกำลัง “gaslighting” คุณอยู่ คนๆนั้นจะทำให้คุณต้องตั้งคำถามกับตัวเอง ความทรงจำและความนึกคิดของคุณจะเหมือนถูกบิดเบือน และหลังจากที่คุณได้คุยกับคนที่ใช้เทคนิคนี้คุณจะรู้สึกว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ?” ซึ่งมันสามารถำให้คุณสับสนว่าคุณนั้นผิดแปลกอะไรไปหรือไม่?
แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่า “Gaslighting” ล่ะ?
Pseudology compulsive lying illustration by Michel Streich
1. จอมโกหก
คนที่ใช้ “Gaslighting” มักจะเหมือนคนเป็นโรคหลอกตัวเอง หรือ Pathological Liar ซึ่งก็คืออาการผิดปกติทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยพูดโกหกได้เรื่อย ๆ โดยจุดประสงค์ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือมีความต้องการเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง พวกเขาจะโกหกแบบเรียกได้ว่าหน้าตาเฉยเลยล่ะค่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะบอกให้พวกเขาหาหลักฐานมายืนยัน พวกเขาก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งผลสุดท้ายมันจะทำให้ตัวคุณเองไม่แน่ใจกับสิ่งที่คุณกำลังคิดหรือเผชิญอยู่นั่นเองค่ะ
Bernie Fuchs
2. นักทำลายชื่อเสียง
พวกเขาจะปล่อยข่าวลือ ใส่ร้ายป้ายสี และซุปซิปนินทาเกี่ยวกับคุณให้คนอื่นฟัง พวกเขาจะแกล้งทำเป็นวิตกกังวลและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ แต่ในขณะเดียวกันก็บอกกับคนอื่นอย่างละเอียดว่าคุณดูไม่ปกติ เหมือนจะเป็นบ้า และมันช่างเป็นเรื่องที่โชคร้ายเพราะวิธีนี้นั้นส่งผลกระทบได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และหลาย ๆ คนอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ “Gaslighter” อาจโกหกคุณและบอกคุณว่าคนอื่นคิดว่าคุณบ้าโดยที่คนเหล่านั้นอาจจะไม่เคยพูดเเบบนั้นเลยแม้แต่น้อย
Edwin Georgi
3. พวกชอบโยนความผิด
เมื่อคุณเรียก “Gaslighter” มาคุยถึงความผิดพลาดต่างๆของพวกเขา พวกเขาอาจเปลี่ยนหัวข้อโดยถามคำถามแทนที่จะตอบ และอาจจะโกหกหน้าตายเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นๆด้วยการพูดประมาณว่า “คุณคิดไปเองรึเปล่า? มันไม่เคยเกิดขึ้นสักหน่อยอย่ามาทำให้เรื่องมันยุ่งยากนะ” พวกเขาจะโยนว่าเป็นความผิดของคุณที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้
Coby Whitmore
4. มักทำให้ความรู้สึกหรือความคิดของผู้อื่นดูเป็นเรื่องเล็กๆ
พวกเขาอาจจะพูดทำนองว่า “ใจเย็นนะ เธออย่าเวอร์” หรือ “ทำไมเธอถึงอ่อนไหวง่ายจัง” ซึ่งคำพูดเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกว่า หรือนี่ฉันคิดมากไปเอง? เมื่อคุณต้องพูดคุยกับคนที่ไม่เคยยอมรับความคิด ความรู้สึกหรือความเชื่อของคุณ คุณจะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองทันที และยิ่งไปกว่านั้นคุณจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรถูกหรือเข้าใจอะไรเลย ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากมากที่จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ค่ะ
Saturday Evening Post Illustrated by James R. Bingham February 1958
5. มักจะกล่าวโทษผู้อื่น
ทุกๆการทะเลาะหรือการพูดคุยหาสาเหตุในเรื่องต่างๆ อีกฝ่ายมักจะกลายเป็นคนที่ผิดอยู่เสมอ ถึงแม้การบอกพวกเขาว่าการกระทำต่างๆที่พวกเขาทำนั้นทำให้เกิดความรู้สึกแย่ๆ พวกเขาก็สามารถบิดเบือนการสนทนาและโทษคุณในตอนสุดท้าย หรือก็คือพวกเขาจะทำทุกอย่างให้คุณเชื่อว่าที่พวกเขาประพฤติตัวแย่ๆนั้นเพราะว่าคุณเป็นต้นเหตุทั้งหมด
Coby Whitmore
6. พวกไม่ยอมรับความผิด
พวกเขาจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งพวกเขาทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำ แต่มันก็ทำให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของ “Gaslighting” สับสนและเสียใจเพราะเหล่า “Gaslighter” ไม่สนใจหรอกว่าใครจะเจ็บปวดกับสิ่งที่พวกขาทำ และมันทำให้เหยื่อไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าหรือรักษาสภาพจิตใจของพวกเขาจากการกระทำที่โหดร้ายเหล่านั้นได้
Saturday Evening Post, "The Flirting Season" (1950)
7. พวกปากหวานปานน้ำผึ้งเดือน 5
เวลาที่คุณตั้งคำถามกับการกระทำแย่ๆของพวกเขา เหล่า “Gaslighter” มักจะใช้คำพูดสวยหรูเพื่อพยายามให้สถานการณ์ราบรื่น พวกเขาอาจจะพูดทำนองว่า “คุณรู้ใช่มั้ยว่าฉันรักคุณขนาดไหน? ฉันจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจ” พวกเขารู้ว่าคุณอยากได้ยินคำเหล่านี้ ซึ่งมันไม่จริงหรอก โดยเฉพาะตอนที่เกิดเรื่องแย่ๆซ้ำๆ
เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเจอกับคนที่ใช้ Gaslighting คุณจะต้องให้ความสำคัญกับการกระทำของพวกเขามากกว่าคำพูดหวานหู พวกเขารักคุณจริงไหม? หรือมันเป็นเพียงแค่ลมปาก?
Saturday Evening Post Illustration by Robert G.
8. มักจะแต่งเติมและบิดเบือนเรื่องราว
พวกเขามักจะใช้วิธีนี้เวลาที่คุณพูดถึงเรื่องในอดีต อย่างเช่น ถ้าเขาผลักคุณจนล้มแล้วคุณก็ไปถามเขาหลังจากนั้นว่าผลักคุณทำไม เขาอาจจะบอกว่าคุณสะดุดไปเอง เขาแค่พยายามจะช่วยจับไม่ให้คุณล้มเท่านั้น และเมื่อเรื่องราวต่างๆถูกรื้อฟื้นและเล่าจากมุมมองของ Gaslighter คุณอาจเริ่มคิดว่าคุณจำผิดรึเปล่า ซึ่งนั่นก็คือเป้าหมายของพวกเขาในการทำให้เรื่องจริงนั้นบิดเบือนไป
สุดท้ายแล้ว Gaslighting หรือการประพฤติตัวแย่ๆต่อความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยสักนิด หากทุกคนกำลังเจอคนที่ชอบนินทา กล่าวโทษหรือโยนความผิดให้คนอื่น หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรานั้นเป็นคนผิด จงสังเกตให้ดีว่าเราอาจกำลังเจอ Gaslighting เข้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม Legendary Girls อยากสนับสนุนให้ทุกคนไม่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำที่คอยแต่จะกดขี่หรือทำร้ายความรู้สึกของเราแบบนี้ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะปกป้องตัวเองกันนะคะ
Reference
https://www.verywellfamily.com/is-someone-gaslighting-you-4147470
1 บันทึก
6
4
1
6
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย