11 มิ.ย. 2020 เวลา 23:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
จะเป็นไปได้มั้ยที่ใน 1 คนจะมี 2 DNA ซึ่งนั่นหมายความว่าคนๆนั้นอาจจะเป็นลุงหรือป้าของลูกตัวเอง ?
ปรากฏการณ์นี้สำหรับมาร์โมเส็ท (marmoset) ถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะในลิงมาร์โมเส็ทตัวเมียมักจะตั้งท้องเป็นลูกแฝดเสมอ แต่จะเป็นแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ
ซึ่งความพิเศษมันอยู่ตรงนี้ นั่นก็คือในวันที่ 18-20 หลังจากตัวอ่อนคู่แฝดทั้งสองได้รับการปฏิสนธิ รกของพวกมันจะค่อยๆ เริ่มเติบโตมาผสานรวมกันจนเกิดเป็นท่อที่เชื่อมโยงตัวอ่อนทั้งสอง
ทำให้สามารถเกิดการแลกเปลี่ยนเซลล์ระหว่างกันและกันได้ กล่าวคือเซลล์จากแฝดพี่อาจโยกย้ายไปฝั่งตัวอ่อนน้อง ขณะเดียวกันเซลล์แฝดน้องก็อาจจะอพยพข้ามไปปะปนอยู่กับเซลล์ของตัวอ่อนพี่ได้
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือลูกของมาร์โมเส็ทหนึ่งตัวจะมี DNA 2 ชุด คือของตัวมันเองและของพี่หรือน้องฝาแฝดของมัน
การมีพันธุกรรมสองตัวในร่างเดียวกันนั้นในทางวิทยาศาสตร์ เราเรียกสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะพิเศษแบบนี้ว่า genetic chimera (ไคเมร่า มาจากชื่อสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก ซึ่งมีลักษณะผสมผสานระหว่างสัตว์หลายๆ ชนิด มีหัว 3 หัว หัวนึงเป็นสิงโต อีกหัวนึงเป็นมังกร ส่วนอีกหัวนึงเป็นแพะ ฯลฯ)
https://www.witcastthailand.com/witcast-episode-10-2/
สำหรับในทางพันธุกรรม โดยภายนอกสัตว์ที่เป็นไคเมร่าจะมีหน้าตาเหมือนสัตว์ปกติธรรมดาทั่วไป มีแต่ในระดับเซลล์เท่านั้นที่เป็นส่วนผสมระหว่างสัตว์มากกว่า 1 ตัวเข้าด้วยกัน)
แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ปรากฏการณ์ไคเมร่าในมาร์โมเส็ทที่พบนั้นสามารถแแพร่ขยายไปจนถึงระดับเซลล์สืบพันธุ์ด้วย!!
กล่าวคือในมาร์โมเส็ทหนึ่งตัวจะมี sperm (กรณีในตัวผู้) หรือ egg (กรณีในตัวเมีย) ที่เป็นของตัวมันเองและเป็นของพี่หรือน้องฝาแฝดของมัน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจจะเป็นลุงและพ่อหรือป้าและแม่ของลูกตัวเองในเวลาเดียวกัน....
หลายท่านอาจสงสัยว่าปรากฏการณ์ไคเมร่านี้สามารถเกิดขึ้นกับมนุษย์อย่างเราๆได้มั้ย ? ขอตอบเลยว่าสามารถเกิดขึ้นได้แต่น้านนานนนนน.......ถึงจะพบครั้ง ต่อไปจะขอยกตัวอย่างปรากฏการณ์ไคเมร่าที่เกิดขึ้นในมนุษย์
กรณีแรกป้าคนหนึ่งเป็นโรคไตต้องรับการผ่าตัดบริจาคไตจากลูกทั้งสองคนแต่ก่อนการบริจาคจะต้องมีการตรวจ DNA ก่อน และผลการตรวจ DNA ปรากฏว่าลูกของป้าทั้งสองคนมี DNA ไม่ตรงกับป้า
อีกเคสนึงเป็นการตรวจ DNA ระหว่างแม่กับลูก ผลการตรวจพบว่า DNA ของลูกไม่ตรงกับของตัวเองทั้งๆที่เป็นคนตั้งท้อง แล้ว DNA นั้นเป็นของใครกัน ?
ปรากฏการณ์ไคเมร่าที่เกิดในมนุษย์นี้มีอยู่ 2 กรณี กรณีแรกเกิดจากการตั้งครรภ์โดยมีเซลล์ของลูกเข้ามาในตัวแม่ จากนั้นเกิดการแบ่งเซลล์ต่อไปในร่างกายแม่ เช่น ในเซลล์กระดูก เซลล์ตับ เซลล์ไต หรือแม้กระทั่งเซลล์สมอง
https://www.witcastthailand.com/witcast-episode-10-2/
กรณีที่ 2 คือการตั้งท้องลูกแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ ซึ่งในระหว่างการเจริญเติบโตไข่ใบนึงได้กลืนกินไข่อีกใบเข้าไปแล้วมีการรวมร่างดูดกลืนไข่อีกใบเข้าไป พอคลอดออกมาก็เป็นคนๆเดียวแต่มีอวัยวะบางอย่างที่มี ดีเอ็นเอ ของอีกคนที่ไม่ได้คลอดออกมา
https://www.witcastthailand.com/witcast-episode-10-2/
ย้อนกลับมาที่เคสทั้งสองเคสในมนุษย์ เชื่อว่าเมื่ออ่านจบบรรทัดเมื่อกี้หลายท่านคงพอเดาออกแล้วว่า DNA ที่พบนั้นเป็นของใคร
ใช่แล้วค่ะ...DNA ที่พบนั้นเป็นของแฝดของแม่ที่ไม่ได้คลอดออกมาด้วย ซึ่งในขณะที่ยายตั้งครรภ์ในสภาพที่เป็นแฝดไข่คนละใบนั้น ไข่ใบนึงได้กลืนกินไข่อีกใบเข้าไป พอคลอดออกมาก็เป็นคนๆเดียวแต่มีอวัยวะบางอย่างที่มี DNA ของอีกคนที่ไม่ได้คลอดออกมา (คนที่ได้คลอดออกมานั้นก็คือแม่) และเมื่อผู้เป็นแม่ไปตั้งครรภ์กับพ่อ ลูกที่เกิดมานั้นก็คือลูกของแฝดของแม่ที่ไม่ได้เกิดมานั่นเอง
กรณีนี้สามารถพบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง นอกจากนี้ยังมีกรณีแฝดชาย-หญิง ที่พบรังไข่ในแฝดชายที่เป็นทองแดง
โฆษณา