11 มิ.ย. 2020 เวลา 16:33 • ธุรกิจ
หุ้น MINT และ หุ้น CENTEL
นับได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศลำดับต้นๆที่ชาวต่างชาติเลือกมาท่องเที่ยวเป็นประเทศแรกๆเลยก็ว่าได้ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการท่องเที่ยวคือห้องพัก หรือโรงแรม ด้วยต้นปีที่ผ่านมาสถานการณ์ COVID 19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกส่งผลให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบและปิดดำเนินงานชั่วคราว ณ ปัจจุบันสถานการณ์ COVID 19 ในโซนต่างประเทศ อย่างยุโรปหรืออเมริกายังถือว่าน่าเป็นห่วง แต่ในประเทศไทยถือว่าควบคุมได้ดีมากแต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังต่อไป ทางรัฐบาลเองก็ได้ผ่อนคลายมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดลงไปเยอะ ธุรกิจหลายๆธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแม้แต่ห้างสรรพสินค้าเองก็ตาม หากในอนาคตไวรัส COVID 19 ไม่ได้กลับมาแพร่ระบาดซ้ำสองทางรัฐบาลคงเปิดให้มีการท่องเที่ยวภายในเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วันนี้เราเลยจะมาเปรียบเทียบหุ้น 2 ตัวที่มีความเกี่ยวข้องกับทางด้านการท่องเที่ยวและมีตัวธุรกิจที่คล้ายคลึงกันระหว่าง MINT และ CENTEL
เราจะมาเทียบข้อมูล ณ สิ้นปี 2562
MINT และ CENTEL ประกอบธุรกิจหลักๆแบ่งเป็น ธุรกิจด้านโรงแรมและร้านอาหาร
MINT
ณ ปี 2562 มีโรงแรมในเครือและเข้าไปรับบริหารทั้งสิ้น 535 แห่งมีจำนวนห้องพัก 77,761 ห้องและมีร้านอาหารจำนวน 2,377 สาขา
CENTEL
ณ ปี 2562 มีโรงแรมในเครือและเข้าไปรับบริหารทั้งสิ้น 76 แห่งมีจำนวนห้องพัก 14,758 ห้องและมีร้านอาหารจำนวน 1,064 สาขา
โดย MINT มีสัดส่วนรายได้ดังนี้
ส่วน CENTEL มีสัดส่วนรายได้ดังนี้
จะเห็นได้ว่าทาง MINT จะมีสัดส่วนรายได้ทางธุรกิจโรงแรมมากว่าร้านอาหาร แตกต่างจาก CENTEL ที่มีสัดส่วนรายได้จากร้านอาหารมากกว่าธุรกิจโรงแรม โดย MINT จะมีโรงแรมที่ลงทุนเองและรับบริหารกระจายตัวมากกว่าโดยมีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแถบยุโรป ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สเปน ไอร์แลนด์ เบลเยียม โปรตุเกส เป็นต้น ส่วน CENTEL จะมีโรงแรมที่ลงทุนเองและรับบริหารอยู่ในประเทศไทยในส่วนใหญ่และมีต่างประเทศเพียงบางส่วนได้แก่ มัลดีฟส์ เวียดนาม ศรีลังกา เป็นต้น
ต่อไปเราไปเปรียบเทียบการเติบโตในส่วนของรายได้และกำไรสุทธิย้อนหลัง 5 ปี ระหว่าง MINT และ CENTEL
 
การเติบโตของรายได้
การเติบโตของกำไรสุทธิ
หากเปรียบเทียบแล้ว MINT ทำได้ดีมากได้ในช่วง 3 ปี หลังโดยเฉพาะระหว่างปี 2561 – 2562 ที่มีรายได้และกำไรสุทธิโตอย่างก้าวกระโดด ในส่วนของ CENTEL มีรายได้และกำไรเติบโตที่ไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับ MINT โดยในระหว่างปี 2561 – 2562 CENTEL มีรายได้และกำไรสุทธิที่ลดลงอาจเป็นเพราะรายได้หลักมาจากภายในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ซึ่งในปี 2562 ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวลดลงด้วยหลายเหตุผลหรือจากกรณีเรือล้มที่จังหวัดภูเก็ตทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวนมาก แตกต่างจาก MINT มีที่การกระจ่ายตัวของรายได้ไปทางต่างประเทศมากกว่า CENTEL
ที่นี้เราจะมาเปรียบเทียบงบไตรมาศที่ 1ระหว่างปี 2561 กับ 2562 ของ MINT และ CENTEL ดูว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ COVID 19 มากน้อยแค่ไหน
จะเห็นได้ว่า รายได้ของ CENTEL ลดลงมากกว่า MINT แต่ในส่วนของกำไรสุทธินั้น MINT ลดมากกว่า CENTEL อย่างมากอาจเป็นเพราะผลประกอบการของ MINT ที่ทำได้ดีมากในปี 2562 จึงทำให้ตัวเลขติดลบอย่างมากเมื่อได้รับผลกระทบจาก COVID 19
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาแรงมากกว่า MINT อาจเป็นเพราะด้วยตัวสถานการณ์ของไวรัส COVID 19 ในประเทศไทย ที่ดูดีมากและไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเกิน 14 วัน หากไม่นับรวมกับผู้ที่ติดเชื้อที่เข้ามาในประเทศ แต่กลับกันทางต่างประเทศในกลุ่มยุโรปที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุนี้ที่ CENTEL เองไม่มีรายได้จากทางต่างประเทศมากนักจึงทำให้ราคาหุ้นของ CENTEL พุ่งสูงมากกว่า MINT หลังจากที่ราคาของทั้งสองร่วงหล่นลงไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมาโดยราคาปิดของ CENTEL ณ วันที่ 11/6/2563 อยู่ที่ 24.80 บาทต่อหุ้นและ MINT อยู่ที่ 22.00 บาทต่อหุ้น ต้องตามดูต่อไปว่าประเทศไทยจะควบคุมไม่ให้มีการระบาดซ้ำเกิดขึ้นได้หรือไม่ และหากการท่องเที่ยวกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง MINT และ CENTEL จะมีการปรับตัวอย่างไรในการดำเนิน ธุรกิจหลังจากนี้
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆและหากชอบบทความฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
หากข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
บทความหน้าเราจะมาทำความรู้จักหุ้นสองตัวนี้ให้มากขึ้นฝากติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูล จาก FINNOMENA ด้วยครับ
โฆษณา