ครั้งที่ 1
นำคลิปหนีบกระดาษไปแลกเป็นปากการูปปลากับคนในเมืองเดียวกัน
เริ่มจากอะไรที่เรียบง่ายก่อนครับ คนในเมืองเดียวกัน ของชิ้นเล็ก ๆ
ครั้งที่ 2
นำปากการูปปลาไปแลกกับ ลูกบิดประตูแกะสลัก
อันนี้เป็นช่างไม้ต่างเมือง ซึ่งเขาก็ได้ตั้งชื่อให้กับเจ้าลูกบิดด้วยว่า Knob-T
ครั้งที่ 3
นำลูกบิดประตูแกะสลักไปแลกกับ เตาปิคนิคพร้อมเชื้อเพลิง
การแลกครั้งนี้เขาต้องขับรถไปไกลถึงรัฐแมซซาชูเซสต์ เพื่อไปแลกเตาปิคนิคพร้อมเชื้อเพลิง ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอยู่
ครั้งที่ 4
นำเตาปิคนิคพร้อมเชื้อเพลิงไปแลกกับ เครื่องปั่นไฟ
เมื่อเดินทางไกลแล้วก็เริ่มไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเขาได้อีกแล้วครับ เขาเดินทางไป รัฐแคลิโฟเนียร์เพื่อนำเตาปิคนิค ไปแลกกับเครื่องปั่นไฟ ยี่ห้อฮอนด้า
ครั้งที่ 5
นำเครื่องปั่นไฟไปแลกกับ ถังเบียร์ที่มีป้ายไฟ
พอดีว่าเป็นช่วงสิ้นปีพอดี มีดาราตลกคนหนึ่งขอเสนอแลกเครื่องปั่นไฟ กับถังเบียร์ที่มีป้ายไฟที่ตอนนั้นกำลังฮอตที่สุด นี่ก็เลยเป็นการแลกที่คุ้มค่าอีกครั้ง เพราะทำให้การแลกครั้งต่อไป ได้ของที่มูลค่าดีทีเดียว
ครั้งที่6
นำถังเบีร์ที่มีป้ายไฟไปแลกกับ รถสกีหิมะ
ครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนที่เรียกว่าคุ้มค่าเอามาก ๆ เพราะว่ารถสกีหิมะ คันหนึ่งราคาแพงกว่าถังเบียร์หลายเท่า แต่เขาก็สามารถที่จะแลกเปลี่ยนมันมาได้
ครั้งที่ 7
นำรถสกีหิมะไปแลกกับ ตั๋วเดินทางไปเมืองยาร์ก ซึ่งมีเทือกเขาร็อคกี้ตั้งอยู่ จำนวน 2 ที่นั่ง
ครั้งนี้เรียกว่า ตอนนั้นเขาเริ่มโด่งดังพอสมควร มีคนเชิญไปออกรายการทีวี และเขาก็พูดว่าอยากไปเทือกเขาร็อคกี้ หนึ่งในคนที่ดูรายการ จึงได้เสนอตั๋วเครื่องบินนี้ให้กับเขานั่นเอง
ครั้งที่ 8
นำตั๋วเดินทางไปเมืองยาร์ก แลกกับ รถตู้
หลังจากได้ตั๋วเขาทีแรกเขาก็จะเดินทางไปเที่ยวเองแหละครับ แต่ว่ามีคนมาขอแลกเปลี่ยนกับเขาซะก่อน ด้วยรถตู้ 1 คัน!!
ครั้งที่ 9
นำรถตู้ไปแลกกับ สัญญาอัดเสียงกับบริษัทเมทัลเวิร์ค
จริง ๆ แล้วไคล์ก็มีอีกความฝันหนึ่ง นั่นก็คืออยากเป็นศิลปิน เขาก็เลยไปยื่นข้อเสนอกับบริษัท เมทัลเวิร์ค ค่ายเพลงในประเทศเขานั่นแหละ เพื่อที่จะขอเซ็นสัญญา อัดเดสียงเป็นเวลา 1 ปี!! และค่ายเพลงก็ตกลง
ครั้งที่ 10
นำสัญญาอัดเสียง ไปแลกกับ ที่พักในรัฐอริโซน่า นาน 1ปี
แน่นอนว่าสัญญาอัดเสียงตั้ง 1 ปี ใคร ๆ ก็ต้องสนใจ จูดี้ เมอรี แกล้น นักแต่งเพลงชาวอเมริกันก็เช่นกัน เธอได้ยื่นขอเสนอให้กับเขา โดยแลกกับการไปอยู่อาศัยในอาพาร์ทเมนท์ รัฐอริโซน่าเป็นเวลานาน 1 ปี
ครั้งที่ 11
นำที่พัก 1 ปี ไปแลกกับ เวลาบ่ายของ อลิซ คูเปอร์ ร็อกเกอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน
ครั้งนี้ เป็นทาง อลิซ คูเปอร์ ศิลปินผู้โด่งดังที่ติดต่อมาหาเขาเอง และ ก็เสนอช่วงเวลาช่วงบ่ายของเขาเองนั่นแหละมาแลก ซึ่งบอกเลยว่า อารมณ์ ตอนนั้นเหมือนเราได้เวลาช่วงบ่ายเพื่อมาอยู่กับพี่ตูนยังไงอย่างงั้น!!
ครั้งที่ 12
นำเวลาช่วงบ่ายของ อลิซ คูเปอร์ ไปแลกกับ ลูกโลกหิมะ!!
การแลกครั้งนี้เรียกว่าหักปากกาเซียนไปหลายคนเลยครับ เพราะทุกคนรู้ดีว่าเวลาช่วงบ่ายที่จะได้อยู่กับ ร็อคสตาร์ ดังนั้นมันมีค่ามากแค่ไหน แต่ เขากลับ นำมันไปแลกกับลูกโลกหิมะ ชิ้นหนึ่ง ที่มีลายของวง KISS อยู่
แน่นอนว่าการแลกครั้งนี้มีแต่คนบ่น คนด่าเขาครับ ว่าช่างโง่เสียจริง ที่ไปแลกกับอะไรแบบนี้
แต่ แต่ แต่ แต่!! ทุกอย่างมันอยู่ในการคำณวน ของเขาหมดแล้วครับ (ยิ้มมุมปากแบบสะใจ)
ครั้งที่ 13
นำลูกโลกหิมะ ไปแลกกับ สิทธิที่จะได้แสดงหนัง Donna on Demand
การที่เขาแลกลูกโลกหิมะนั้นเป็นเรื่องที่เขาตั้งใจครับ เพราะเขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และมีค่ากว่าการได้อยู่กับ ร็อคสตาร์เพียงชั่วคราว นั่นก็คือ เขาทราบมาว่าผู้กำกับ คอร์บิน เบินเซน แกมีงานอดิเรกในการสะสมลูกโลกหิมะอยู่ และที่เขาแลกมา มันก็เป็นของหายากเอามาก ๆ ซะด้วย
งานนี้เขาเลยได้ข้อเสนอมาว่าจะ ได้แสดงในหนังเรื่อง Donna on Demand ที่ผู้กำกับคนนี้เป็นคนกำกับซะเลย
แหม่ คราวนี้คนที่เคยก่นด่าไว้ ถึงกับเงิบ เพราะไม่คิดว่าจะมาเหนือเมฆ ขนาดนี้!!
ครั้งที่ 14 (ครั้งสุดท้าย)
นำสิทธิที่จะได้แสดงหนังไปแลกกับบ้าน!!
นี่เป็นการแลกครั้งสุดท้ายครับ ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะครับว่า สิทธิในการแสดงหนังเรื่องหนึ่งมัน น่าเย้ายวนใจขนาดไหน ใคร ๆ ก็อยากที่จะได้อยู่บนฟิมล์ ไปตลอดกาล
ครั้งนี้เขาจึงได้แลกเปลี่ยนบ้านสมใจเขาเสียที โดยเป็นบ้าน 2 ชั้น ตั้งอยู่ใน มลฑลซัสแคตเชวาล แคนาดา และมีมูลค่าสูงถึง 50,000 USD !!!
ถ้าตีเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ประมาณ 1,600,000 บาทนั่นเอง