🙏 วันนี้ “วันพระ” ทำอย่างไร เราจึงจะพ้นทุกข์😿
ภาพ 1 “วันนี้วันพระ”
สิ่งที่ พระพุทธเจ้า ทรงสอน
ภาพ 2 “ขอบคุณ อ.วิสุทธิ์ เจตสันติ์ วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตเครื่องกล จุฬาฯ ชมรมศิษย์พุทธทาส”
🙏มุมมองวิศวกร....เขียนผังเชื่อมโยง คำสอนของ พระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงสอนชาวพุทธเลื่อมใสศรัทธามากว่า 2,600 ปี
❤️คำสอนหลัก ตามภาพข้างบน ประกอบด้วย...
🙏เริ่มต้นที่ “อริยสัจจ์สี่” หรือ “ความจริงที่เกิดขึ้นในคนทุกคนมีอยู่ 4 เรื่อง” คือ 1) ทุกข์ 2) สาเหตุ 3) ความดับ และ 4) มรรค
👴ความต้องการของ ทุกคน คือ “เมื่อไหร่จะสุข?” “เมื่อไหร่จะพ้นทุกข์?” อาจารย์อธิบายไว้อย่างนี้ครับ
🕵️ผู้สนใจที่จะศึกษา “ธรรมะ” ที่พระพุทธเจ้าสอน “ควร” ทำความเข้าใจกับเรื่องสำคัญเรื่องแรก คือ “ความเห็น ความเข้าใจที่ถูกต้อง” ในเรื่อง “อริยสัจจ์ 4 “
ภาพ 3 “ความเห็นชอบ”
👉อะไร คือ ตัวทุกข์จริงๆ มีสาเหตุมาจากอะไร? สภาพที่ไม่เป็นทุกข์และทางดำเนินชีวิต หรือ “มรรค 8 ข้อ” ที่จะพาให้ท่านพ้นทุกข์ โดยที่ มรรคข้อที่ 1 ที่เป็นหัวเรือหรือขบวนรถไฟตู้นำ เป็นเรื่อง “ความเห็นชอบ”
👉ถัดไป ทุกคนต้องทำความเข้าใจเรื่อง “ขันธ์ 5” ให้ถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะธรรมชาติทั้งหลายซึ่งรวมถึงตัว “มนุษย์” ด้วย การสัมผัสรับรู้ทาง รูป กลิ่น เสียง นึกคิดในใจต่อสิ่งที่ถูกสัมผัสแล้ว “จิตภาควิญญาณ”สั่งการให้ “กาย หรือ อวัยวะ ส่วนต่างๆ” กระทำออกไปนั้น ธรรมชาติที่แท้จริง คือ “อนิจจัง” เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
👴”จิต” มนุษย์ก็เปลี่ยนไปไม่อยู่คงที่ เมื่อมี “อุปทาน” เข้ามา “ครอบงำจิต” ทำให้เข้าใจว่า “เป็นตัวกูของกู” จึงเกิดการกระทำให้สมอยาก เพราะรู้สึกว่า มี “ตัวกูของกู” เป็นผู้สัมผัสจับต้องอยู่ ซึ่งนี่คือ.....”ต้นเหตุ” ของปัญหาทุกๆ อย่าง
😡ดังนั้น “ความเห็นชอบ” เป็นการ “ตื่น” จากความไม่รู้(อวิชชา) หรือ ความ “งมงาย” ต่างๆ นาๆ ดังรูป 👇
ภาพ 4 “อุปาทาน”
👏เมื่อเข้าใจ “ความเห็นชอบ” แล้ว จึงรู้ว่า “มรรค 8” คือ หนทางเดียว “ทางเอก” หรือ “ทางสายกลาง” ในการดำเนินชีวิตของตน และชาวโลก เพื่อ...ให้โลกนี้ “อยู่เย็น....เป็นสุข” ทั้งส่วนตน และสังคม ทำให้โลกเจริญ....ทาง “วัตถุ” + “ร่มเย็นทางจิตใจ” โดยมีรายละเอียดของ “มรรค 8” ตามรูป👇
ภาพ 5 มรรคแปด “8 ชอบ” ที่ทุกคนต้องมี
🧑⚕️การดำเนินชีวิตตามแนว “มรรค 8” มีสิ่งกำกับ และสิ่งที่ให้พิจารณา หรือ ตัวชี้วัด “ผล” คือ “ศีล” หลัก 10 ข้อ สำหรับ “คนทั่วไป”
👉ใช้ “ศีล” เพื่อกำกับความประพฤติ หรือ การกระทำต่อผู้อื่น และต่อตนเอง คนที่มี “ศีล” ครบทั้ง 10 ข้อ จะเป็น “คนที่มีคุณภาพชีวิตดี”
👉ถ้า “สังคม” มีคนที่มี “ศีล” มากๆ ทั้ง “ผู้นำ” ระดับต่างๆ ด้วย ก็จะเป็นสังคมที่เจริญทางวัตถุแล้วจิตใจก็ร่มเย็น
🕵️”คน” ที่มี “ศีล” บริสุทธิ์มากขึ้นๆ เป็น “อริยบุคคล” หรือ ผู้เดินอยู่ในเส้นทางของ “อริยบุคคล” จะเป็น “คนที่ไม่มีทุกข์” เป็นอิสระจากการยึดติด “อุปาทาน” “กามคุณ” ต่างๆ และยังทำประโยชน์ให้สังคมได้สูงสุดด้วย ดังรูป👇
ภาพ 6 ศีล 10 ข้อ มีอะไรบ้างกลับไปดู ภาพ 2
✈️หลักกิโลเมตร หรือ ป้ายบอก ระยะทางการเดินทางของ “จิต” เป็น สภาพทางจิต เมื่อมีความเห็นชอบ มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างมรรค 8 และมีศีลเป็นสิ่งกำกับตัว ย่อมไม่มีความทุกข์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกันในสังคม ในทางจิตใจ ผู้นั้น จะรู้สึกได้ว่า....
😡เมื่อสัมผัสสิ่งยั่วยวน หรือ กิเลส ต่างๆ ย่อมไม่ สะทกสะท้าน หลงไหล ไปกับกิเลส นั้นๆ เพราะว่า ภายในจิตใจตนได้ผ่านขั้นตอน การเดินทางทางจิตมาแล้ว ซึ่งมี 10 ขั้น หรือ 10 ระยะ
✈️ผลการเดินทาง ไปได้ไกลขั้นใดขั้นหนึ่ง ผู้เดินทางจะรู้สึกได้เอง ทำเมื่อไรได้เมื่อนั้น
🔥ผู้ที่ กำลังแก้ไขปัญหาของชีวิต ปัญหาของการยึดติด สิ่งชั่วร้าย หรือ สิ่งไร้สาระ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็สามารถสัมผัสกับการเดินทาง “ทางจิต” นี้ได้ ดังนี้👇
ภาพ 7 ระยะการเดินทางของ “จิต”
🙏เมื่อมีศีล ศีลพาให้เกิดความชุ่มชื่นใจหรือปีติ คนที่มีสัมมาทิฐิ หรือ ความเห็นชอบ และมีศีลแล้ว ย่อมมี “สติ” ติดตัว เป็นคนสงบรำงับไม่เตลิดไปตามสิ่งยั่วยวน สภาพของจิตย่อมเป็นผลมาถึงสภาพทางกาย จึงทำให้คนเป็นผู้ที่มีจิตสงบ เข้มแข็ง และมีสมาธิ ในการงานได้ยอดเยี่ยม (โปรดสังเกตว่า มรรคองค์ที่ 7 “ตั้งสติชอบ” และองค์ที่ 8 “สมาธิชอบ” สัมพันธ์กับสภาพจิตในขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3)
👴เมื่อกิเลสตัวเก่า หรือ ตัวใหม่ มากระทบ ก็เข้าใจในธรรมชาติที่แท้จริงของตัวกิเลสนั้นทันทีทันควัน จึงเบื่อหน่ายจากอิทธิพลของความพอใจ ยึดติด อุปาทาน โดยอัตโนมัติ เมื่อหน่ายก็คลาย ซึ่งเป็นธรรมชาติธรรมดาก็จะเข้าสภาพของการคลาย
❤️ผลต่อไปจะถึงสภาพของอิสระภาพจากการถูกผูกมัดร้อยรัดตัวของกิเลส เป็นผู้ที่ “หลุด” จากการยึดติดกิเลส หรือ อวิชชา เขาย่อมมีอิสระภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ถูกกิเลสเบียดเบียนต่อไป จึงก้าวไปสู่ สภาพบริสุทธิ์ หรือไม่เหลือเชื้อของการยึดติดเพื่อเอามาเป็น “ตัวกูของกู” จึงเป็นคน “เย็น” เป็นคนที่มี “สันติภาพ” ที่แท้จริงอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นสภาพของ “นิพพาน”
🦉จิตของมนุษย์ เมื่อเกิดมาจากท้องแม่ มีสภาพเป็นจิตประภัสสร (จิตว่าง) คือ ยังไม่มีกิเลสหรือยึดติดในกามคุณต่างๆ กินอิ่มแล้ว เล่น แล้วนอน ไม่คิดจะสะสมหรือต้องการเอามาเป็นตัวกูของกู สิ่งที่แสดงออกเป็นเพียงสัญชาตญาณอันบริสุทธิ์เท่านั้น
🌝ต่อมาเด็กถูกป้อนให้เข้าใจในกามคุณต่างๆ ให้รู้จัก เสแสร้ง เอารัดเอาเปรียบ บริโภค สิ่งมึนเมา และสร้างให้เห็นแก่ตัว ตามความนิยมของโลก จึงเกิดความเห็นแก่ตัว สภาพนี้ หลวงพ่อพุทธทาสว่าเป็น “จิตโง่”
👏การศึกษาปฏิบัติธรรมให้มีการเป็นอยู่ใน “มรรค 8” เป็นการคืนสภาพจาก จิตโง่ เป็น จิตหายโง่ ยังผลให้มนุษย์มีจิตที่ สะอาด สว่าง สงบ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทำให้โลกเข้าสู่สภาพสันติภาพที่แท้จริง โดยมีการ เจริญทางวัตถุ ร่มเย็นทางจิตใจ
❌วิธีการแก้ปัญหาเมื่อเจอปัญหา “โพชฌงค์ 7 ข้อ” เป็สูตรพิเศษเพื่อใช้แก้ปัญหาได้ทุกชนิด ตั้งแต่ ปัญหาพื้นๆ ในการทำการทำงาน การรักษาโรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญหาที่ยากที่สุด คือ การทำให้เข้าใจ เข้าถึงสภาพทางจิต และทางกายที่หลุดออกจากสังขาร หรือการคนการปั่น การยึดติดอุปาทานต่างๆ ที่เป็นต้นเหตุที่เกิดความทุกข์ “โพชฌงค์ 7” มีองค์ประกอบของมรรคองค์ที่ 7 คือ ตัว “สติ” (Focus)เป็นจุดเริ่มต้น มรรคองค์ที่ 6 คือ “ความเพียร” และมรรคองค์ที่ 8 คือ “สมาธิ”👇
ภาพ 8 โพชฌงค์ 7
🕵️โปรดสังเกตว่า พระพุทธเจ้า ทรง “ปรุงยา” ขนานนี้ที่ชื่อ “โพชฌงค์ 7” เป็นสูตรที่แก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยโลก ทำให้แก้ปัญหาต่างๆ ได้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความเชื่อในอภินิหาร ยึดถือเทพเจ้า เทวดา ที่คนสมัยนั้นเชื่อถือ แต่ไม่มีคนไปถึงหรือพบเห็น ได้แต่สวดมนต์อ้อนวอน ฝากเนื้อฝากตัวต่อทูต หรือตัวแทนเทพเจ้า เทวดา ให้พาวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วไปสู่สุคติระดับต่างๆ หรือ ขอให้ธรรมชาติ ฝนฟ้า เป็นไปในทางดี
🌘โพชฌงค์ 7 พาไปสู่การค้นพบปฏิจจสมุปบาทที่พบตัวอวิชชา สังขารที่มีอุปาทานมายึดอาศัย พบความ “ลับ” ของธรรมชาติที่ทุกอย่างเป็นผลของเหตุปัจจัยที่เป็น “ลูกโซ่” ทำให้คนขจัด อุปาทาน หมดความกลัว และ ความทุกข์ แล้วพึ่งตนเองได้ในที่สุด
ภาพ 9 ทำไมมนุษย์ จึงเป็นเช่น
📣สุดท้าย....เราถามตัวเองว่า เมื่อรู้ ธรรมะพระพุทธเจ้าแล้ว เราใช้ประโยชน์อะไร? เพื่อให้ “จิต” สะอาด สว่าง สงบ .....เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ขอบคุณผู้เขียน......
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
