คริส ฮิวจ์ (Chris Hughes) ผู้ร่วมก่อตั้งเฟสบุ๊คที่ไม่ได้เก่งคอมพ์ฯและเรียนจบด้านวรรณกรรม-ประวัติศาสตร์
รู้หรือไม่ !? ผู้ร่วมก่อตั้งเฟสบุ๊คไม่ได้เป็นอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์กันทุกคน คริส ฮิวจ์ เป็นหนึ่งในรูมเมทของมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กที่เรียนด้านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันเขาถือหุ้นเฟสบุ๊คอยู่ 1% หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท
วันก่อนผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับอดีตวิศวกรของเฟสบุ๊ค ผู้คิดค้นปุ่มกดไลค์ และเป็นผู้ถือหุ้น 0.2% ของเฟสบุ๊คไปแล้ว
(อ่านบทความต่อได้ที่: https://www.blockdit.com/articles/5ee36391f2ca8618bbfdb377)
วันนี้มาลองอ่านเรื่องราวของผู้ถือหุ้นใหญ่เฟสบุ๊คอีกคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ แต่ก็เป็นส่วนสำคัญในการก่อตั้งเฟสบุ๊คกันครับ 😁
คริส ฮิวจ์ ปัจจุบันมีอายุ 36 ปี เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊คและรูมเมทของมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กขณะที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งตอนนั้นเขากำลังศึกษาปริญญาตรีด้านวรรณกรรมภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์ 🤓📚
ถึงแม้เฟสบุ๊คจะเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยทีมงานด้านเทคโนโลยีที่คอยพัฒนาระบบอยู่เบื้องหลัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเฟสบุ๊คคงไม่โด่งดังและมีผู้ใช้งานกันอย่างแพร่หลายได้ขนาดนี้ หากไม่ได้รับการโปรโมทที่ดีหรือการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ 🤔 และนั่นแหละครับคือบทบาทและหน้าที่สำคัญที่คริส ฮิวจ์ ชายที่จบสาขาวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ได้รับในการทำงานกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกอย่างเฟสบุ๊ค
ฮิวจ์ เป็นผู้สนับสนุนให้เฟสบุ๊คขยายขอบเขตการใช้งานไปยังมหาวิทยาลัยและเมืองอื่นๆมากขึ้น ทำให้ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนปี 2004 เขาได้เดินทางไปซิลิคอน วัลเลย์ร่วมกับมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กและทีมงานรุ่นแรกของเฟสบุ๊ค เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานไปยังเมืองอื่นๆ ซึ่งมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กได้ตัดสินใจไม่กลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย แต่ฮิวจ์ได้ขอแยกทางกลับไปเรียนต่อจนจบ และกลับมาร่วมงานกับเฟซบุ๊คอีกครั้งในสองปีให้หลัง
ฮิวจ์ยังได้รับฉายาว่า "The Empath" เนื่องจากเขาเป็นคนที่มักจะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และด้วยความสามารถหรือทักษะด้านการพูดที่โดนเด่น ฮิวจ์จึงได้ทำหน้าที่สำคัญในการเป็นโฆษกของบริษัท โดยมีส่วนช่วยให้เฟสบุ๊คสามารถขยายขอบเขตและเข้าถึงจำนวนผู้ใช้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ต่อมาฮิวจ์ได้ลาออกจากเฟซบุ๊คในปี 2008 เพื่อไปทำงานภายใต้เแคมเปญสำคัญให้กับบารัค โอบามา ประธานาธิปดีของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ในตำแหน่ง Director of Online Organizing
Credit: https://hotnewsinworld.com/blog/facebook-co-founder-chris-hughes-calls-for-the-company-to-be-broken-up/
ในปี 2014 ฮิวจ์ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ของนิตยสาร The New Republic ซึ่งเป็นนิตยสารถ่ายทอดข้อมูลด้านวัฒนธรรมและการเมือง แต่ด้วยปัญหาด้านผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เขาต้องขายบริษัทให้แก่ Oregon Publisher พร้อมกับบอกว่า เขาได้ประเมิณผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อสื่อยุคเก่าต่ำไป 😰
อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 ฮิวจ์ได้ออกมาพูดถึงการขยายบริษัทเฟสบุ๊คของมาร์ค ซักเกอร์เบิร์กผ่านทาง The New York Times ว่าตอนนี้บริษัทกำลังผูกขาดและมีอำนาจมากเกินไป พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาควบคุมเฟซบุ๊ค รวมไปถึงเหรียญ Libra มากยิ่งขึ้น 🤔
ถึงแม้ฮิวจ์จะลาออกไปจากบริษัทแล้ว แต่ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง ทำให้ฮิวจ์ได้รับหุ้นของเฟสบุ๊คไปจำนวน 1% ซึ่งในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว 😲
😁😁😁 ขอขอบคุณสำหรับการติดตามครับ หากผู้อ่านท่านใดสนใจบทความเกี่ยวกับโลกธุรกิจน่ารู้ หุ้น ข้อมูลบริษัท หรือความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ต่างๆ ท่านสามารถติดตามได้ทางเพจ "StonkBoy - โลกธุรกิจน่ารู้" ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ Blockdit ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และพร้อมรับฟังคำแนะนำต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงงานเขียนในลำดับต่อไปครับ 😁😁😁
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
