14 มิ.ย. 2020 เวลา 00:20
เดือนมีนาคม 2563
ช่วง covid-19 ระบาด
ปันปันกับพ่อ เราสองคนออกไปวิ่งในตอนเย็น ที่ป่าทุ่งนา ตรงข้ามฟาร์ม
เราสองคน กิึ่งวิ่ง กิึ่งเดิน กำลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติ รอบๆตัว
ปันปันพูดกับพ่อว่า
"หนูอยากบริจาคร่างกายเหมือนพ่อ"
พ่อได้ยินตอนนั้น ถึงกับอึ้ง นึกไม่ถึงว่าเด็ก 8 ขวบ จะพูดสิ่งนี้
และจะกล้าอย่างนี้
พ่อเลยบอกปันปัน ไปว่า ได้สิถ้าลูกอยากบริจาค อวัยวะ ร่างกาย เหมือนพ่อ
ลูกโตขึ้นมีวุฒิภาวะแล้่ว ลูกไปแจ้งความจำนงค์ได้เลยที่สภากาชาดไทย
หรือ จะดาวน์โหลดเอกสาร กรอกข้อมูลส่งไปได้เลย
แต่พ่อขอถามหน่อยสิ ปันปันไม่กลัวเจ็บเหรอ
บริจาคร่างกาย และ อวัยวะ
หมอเค้าจะเอาร่างกายของเรา ไปผ่าตัด เอาอวัยวะส่วนที่ดี
ที่สามารถปลูกถ่ายได้ของเราออกไปให้ผู้อื่น
หรือ ถ้าอวัยวะของเราใช้ไม่ได้
หมอเค้าจะเอาร่างกายเราไปให้นักศึกษาแพทย์ ทำการผ่าชำแหละ
เพื่อศึกษา เพื่อเรียนรู้
ปันปันตอบกลับมาว่า
ไม่กลัวหรอก ตายแล้วจะไปเจ็บอะไร พร้อมกับหัวเราะ 555
ตอนนี้ปันปันอายุ 8 ขวบ
ปันปันเห็น ปันปันรู้ และปันปัน เริ่มที่จะ วิเคราะห์ สิ่งที่พ่อทำ
ปีก่อน พ่อไปบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่
พ่อพาปันปันกับแม่ปันปัน
ขับรถออกจากลำปลายมาศแต่เช้า
เราแต่งตัวเหมือนจะไปเที่ยว
พ่อพาไปมหาวิทยาลัยขอนแก่น
พ่อบอกปันปันในขณะที่เรากำลังเดินทาง
ว่าพ่อจะไปบริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่
และพ่อก็เล่าให้ปันปันฟัง นั่น โน่น นี่ เรื่องราวของการบริจาคร่างกาย
วันที่เราไป บังเอิญเป็นวันไหว้ครู(อาจารย์ใหญ่)พอดี
ในขณะที่เราเดินผ่านห้องไหว้ครู พ่อกับแม่ เหลือบเข้าไปในห้อง
เห็นอาจารย์ใหญ่ถูกเรียงไว้ รอให้นักศึกษาแพทย์ มาทำการไหว้
แม่ปันปันเห็นเธอก็กลัวตามประสา
ส่วนพ่อเห็น พ่อกลับรู้สึกว่า คนเรามันก็เท่านี้แหละ
เกิด แก่ เจ็บ และ ตาย
เราเลือกได้ว่าตายจะแล้ว เราจะสร้างประโยชน์
หรือ จะเอาร่างกายที่เน่า น่าเกลียดน่ากลัว ไปเผา หรือฝัง ทำลายทิ้ง
อาจารย์ใหญ่ทั้งหลาย ตายอย่างมีคุณค่า
นักศึกษาแพทย์อีกมากมายที่อาศัยร่างกายของอาจารย์ใหญ่
ทำการศึกษา อวัยวะ และ ร่างกายของมนุษย์
ศึกษาเพื่อมารักษา เพื่อนมนุษย์ ที่ยังมีชีวิต
สิ่งหนึ่งที่พ่อบอกปันปันตอนที่เรากำลังเดินทาง
พ่อบอกว่า
พ่ออยากบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่า
ต้องมาบริจาคด้วยตัวเองที่มหาวิทยาลัย
ส่งจดหมายแจ้งความจำนงค์ไม่ได้
นี่คือตัวอย่างที่ปันปันได้เห็นกับตาตัวเองว่า
ทำดี มันทำยาก
เราเดินทางมาถึงขอนแก่น หาที่จอดรถก็ยาก
จอดที่ลานจอด และต้องเดินไปอีกตั้งไกล กว่าจะถึงตึก
และต้องขึ้นตึกไปที่ชั้น 4 หรือชั้น 5 นี่แหละ
ไปถึงเที่ยง เจ้าหน้าที่ไปกินข้าว ต้องรอบ่ายอีก
โอ้ววววว...
ปันปันกับแม่ ก็อยู่รอเป็นเพื่อนพ่อ ไม่มีใครบ่นซักคำ
ทำดี มันทำยาก
พ่อบอกปันปันว่า ทำดีมันทำยากนะลูก
ที่พ่ออยากทำ พ่อไม่คิดถึงบุญ เบิน อะไรทั้งนั้น
พ่อแค่เสียดาย ถ้าวันหนึ่งพ่อตายไป
แล้วร่างพ่อถูกเอาไปเผาทิ้ง ไร้ค่า ไร้ประโยชน์
สู้เอาไปให้นักศึกษาแพทย์เค้า เรียน เค้าศึกษา ดีกว่า
พ่อแค่ ทำดี เพราะ มันดี
บางครั้งเราไม่ต้องหาเหตุผลอะไรมากมาย
มาบอกว่าทำไปทำไมหรอก
ถ้ามันดี เราก็ทำ
ทำดี เพราะ มันดี แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
การบริจาค อวัยวะ ร่างกาย
เมื่อปันปันโตกว่านี้ มีประสบการณ์ ชีวิตเพิ่มขึ้น
รู้ และ เห็น โลกมากขึ้น
ถ้าปันปัน ยังยืนยันสิ่งที่ตัวเองคิด
และยังจะบริจาค
นั่นหมายถึงว่า ปันปัน มีจิตใจที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง
เพราะว่า
ปันปัน เอาชนะความกลัว เอาชนะการยึดติด
จะต้องใช้ความกล้าหาญ และจิตใจที่แข็งแกร่งขนาดไหน
ถึงจะยอมให้ผู้อื่นที่เราไม่รู้จัก เอาอวัยวะ ร่างกายของเรา ไปใช้ประโยชน์
ถึงแม้ว่าเขาจะเอาไปตอนที่เราตาย
แต่การที่จะเอาไปได้ เขาต้องได้รับอนุญาตจากเรา
ในวันที่เรายังไม่ตาย และรู้เรื่องทุกอย่าง
วันนี้ วันที่พ่อโพสต์เรื่องนี้ 14 มิ.ย 63 พ่อเรียกปันปัน มาถามว่า
ปันปันยังจำ ที่ปันปันถามพ่อเรื่อง ที่อยากจะบริจาคร่างกายได้หรือเปล่า
ปันปันบอกว่า จำได้
พ่อเลยถามต่อว่า ตอนนี้ ยังคิดจะบริจาคร่างกายอยู่หรือเปล่า
ปันปันบอกว่า ยังคิด และอยากจะบริจาคเหมือนเดิม
โอ.เค เธอแน่มาก
พ่อไม่รู้ว่า โตขึ้นปันปันจะกลัว และจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า
วันนี้พ่อเขียนไว้ให้ เผื่อวันหน้า
ปันปันแวะมาอ่าน ปันปันจะจำเรื่องนี้ได้
ถ้าลูกกล้าพอที่จะให้ผู้อื่น และการให้นั้น ไม่ใช่ให้สิ่งของ เงินทอง
แต่เป็นการให้ อวัยวะ และ ร่างกายของเราเอง
ลูกต้องต่อสู่้กับการยึดติด ตัวกู ของกู
ลูกต้องต่อสู่้กับความเชื่อ ที่พ่อไม่ได้ปลูกฝังให้
แต่ลูกอาจจะได้ยินจากสิ่งแวดล้อมที่ลูกได้พบเจอ
สิ่งที่ลูกต้องต่อสู้มากที่สุดคือ
ลูกต้องต่อสู้กับความกลัว กลัวเจ็บ กลัวไม่สวย กลัวอุจจาด
ถ้าลูกผ่านมันไปได้ ใจลูกจะแข็งแกร่ง
ในขณะที่เราเป็นผู้ให้
ในอีกมุมหนึ่งเราจะกลายเป็นผู้รับ
รับเหรอ รับอะไรหละ
เรารับความรู้สึกดีๆ แบบบริสุทธิ์จากการกระทำของเราเองไง
เรารับจากตัวเราเอง
เราปลดปล่อย
เรารู้สึกว่าเรามีประโยชน์
แม้ในวันที่เราหมดประโยชน์ไปแล้ว
เขียนไว้ให้อ่าน ส่วนการตัดสินใจ
ก็แล้วแต่เธอ
...
โฆษณา