จากสารคดี The Last Dance ที่ได้ฟังจากพอดแคสเมื่อวันก่อนที่เล่าใน 3 บทเรียนแห่งความเป็นผู้นำของ ไมเคิล จอร์แดน ทำให้ผมได้เข้าใจสัจธรรมของราคาของความสำเร็จในโลกความเป็นจริงขึ้นมา จากเรื่องราวของนักบาสระดับตำนานคนนี้
…
โดยหากทุกคนนึกถึงเบื่องหลังการประสบความสำเร็จของนักบาส ไมเคิล จอร์แดน ระดับตำนาน คนจะนึกถึงความเป็นผู้นำ บุคลิกที่ดุดัน ที่อาจจะดาร์กหน่อยๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ โดยแบ่งเป็น 3 ข้อดังนี้
…
อันดับแรก --> ความต้องการที่จะเอาชนะ ชนะในความหมายนี้ ถึงขั้นอาจมีการเล่นนอกเกมส์ ผ่านคำพูดการเหน็บแนม เหยียดฝ่ายตรงข้ามมาเป็นแรงผลักดัน หรือ หาเรื่องชวนทะเลาะ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นทั้งตัวเองและทีม (ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเลียนแบบในบางกรณีนะครับ)
…
อันดับสอง --> ความยืดหยุ่น คือการล้มแล้วลุก ฟังดูธรรมดา แต่ความหมายคือ นำความล้มเหลวให้เป็นพลังผลักตัวเองกลับขึ้นมา เหมือนตุ๊กตาล้มลุก ยิ่งล้มแรงเท่าไหร่ก็กลับขึ้นมาเร็วเท่านั้น สอดคล้องกับโลกยุคนี้มาก
…
อันดับสาม --> ความเป็นผู้นำ จากทั้งหมดจะเห็นได้ว่าตัวพี่แก ชอบหาเรื่องทะเลาะ หรือสร้างคำดูถูกขึ้นมาเอง สร้างคำท้าทาย ทั้งหมดเพื่อมากระตุ้นเพื่อนร่วมทีม โดยในข้อนี้พี่แกให้เหตุผลได้น่าสนใจว่า ทุกสิ่งที่เค้าทำมีราคาที่ต้องจ่าย นั้นคือ ความเกลียดชัง และเสียงวิพากษ์วิจารย์คือสิ่งที่เค้าต้องจ่าย
…
ซึ่งก็คงเหมือนกับความสำเร็จของใครหลายๆคน กว่าบางคนจะประสบความสำเร็จเป็นนักดนตรีที่โด่งดังได้ต้องผ่านการซ้อมและประกวดผ่านเวทีมาเป็นหมื่นถึงแสนชั่วโมง หรือ กว่าจะรวยมีเงินเป็น 100 ล้านได้อาจต้องแลกมากับการทำงานหนักในวัยหนุ่มที่ต้องห่างจากครอบครัวในแดนไกล ซึ่งทุกคนย่อมมีสิ่งที่ต้องจ่ายเป็นราคา เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จในแต่ละบุคลเช่นกัน
…
เพราะฉะนั้น ทุกเบื่องหลังความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนล้วนแล้วแต่ ... มีราคาของมันทั้งสิ้น