14 มิ.ย. 2020 เวลา 05:59 • สุขภาพ
ดูยังไงว่าครีมชีสเสีย ?
จะรู้ได้ยังไงว่าเสีย ถ้าเจอแบบนี้ กินได้หรือเปล่านะ?
เจ้าครีมชีสตัวดี ทำไมเวลาเสีย ไม่เห็นบอกกันเลย
จะดูแค่วันหมดอายุหลังกล่อง บางทีก็ยังดูเหมือนใหม่ ไม่น่าจะเสีย
แต่เอ๊ะ บางทียังไม่หมดอายุเลย ทำไมมันแปลก ๆ เหมือนจะเสียเลยนะ
ถ้าคุณเคยสงสัย (ซึ่งควรจะสงสัย) ว่าดูยังไงว่าครีมชีสเสียหรือยัง
ปกติมันเก็บได้นานแค่ไหน วันนี้เรามีคำตอบครับ.
เริ่มกันที่ครีมชีส มีอายุการเก็บรักษานานแค่ไหน?
3
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยครับ ครีมชีสเก็บได้นานกว่าวันหมดอายุ
ที่เขียนอยู่หน้ากล่องอยู่แล้ว (นิดนึง) เพราะเหตุที่ว่า ครีมชีส ที่หาซื้อได้ทั่วไป
มักมีสารเพื่อความคงตัว หรือสารกันเสีย ที่ช่วยให้ครีมชีสสามารถวางขาย
ได้นานขึ้นอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยต่อร่างกายอยู่แล้ว
ด้วยกรรมวิธีสมัยใหม่ ทำให้ครีมชีส ซึ่งประกอบไปด้วยไขมันจากนม
เป็นส่วนใหญ่ สามารถเก็บได้นาน แต่จะนานเท่าไหร่ ก็ขึ้นกับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น รูปทรงของครีมชีส กระบวนการบรรจุ(แบบร้อน/แบบเย็น)
การโดนความร้อน และวิธีการจัดเก็บ
1
โดยทั่วไปครีมชีสจะสามารถเก็บได้ที่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ หลังจากวัน
ที่ระบุไว้บนกล่องหากยังไม่มีการเปิดใช้
และจะมีอายุเหลือเพียง 1-2 สัปดาห์ หากเปิดใช้แล้ว
ทั้งสองกรณี พูดถึงการจัดเก็บที่ช่องธรรมดาของตู้เย็นนะครับ
1
มาถึงวิธีการดูว่า ครีมชีสเสียหรือยัง ด้วยตัวเอง
ครีมชีสที่ยังสามารถนำไปใช้ทำขนม หรือทาลงบนขนมปัง โดยที่คนกินไม่
ท้องเสีย หรือต้องนอนโรงพยาบาลนั้น
จะสังเกตได้จากลักษณะของสี กลิ่น รส และเนื้อสัมผัสของครีมชีสเอง
อย่างแรก ดูด้วยตา
ครีมชีสที่ยังสามารถใช้ได้ จะมีสีขาว หรือสีนวลอ่อน ๆ ไม่มีสีอื่นปะปน
ถ้าพบว่าครีมชีสมีสีอื่นนอกจากสีขาวซึ่งเป็นสีของน้ำนม ให้สันนิษฐานได้เลยว่า อาจมีการปนเปื้อน หรือเกิดราขึ้น
(ราของครีมชีสพบได้ทั้งสีเขียว เหลือง แดง)
เนื้อสัมผัมของครีมชีส
ครีมชีส จะถูกผลิตออกมาให้สามารถปาดลงบนขนมปังหรืออื่น ๆ ได้ง่าย
โดยเนื้อสัมผัสของครีมชีสจะเรียบ เนียน แห้งแต่ชุ่มชื้น และนุ่มอยู่พอสมควร
เมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง
แต่หากพบว่า ครีมชีสมีลักษณะที่แตกต่างจากเดิม เช่น แตกเป็นเม็ด ๆ
มีน้ำออกมาในปริมาณมาก เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ครีมชีสก้อนนั้น
ได้จากเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
รา
ไม่ผิด ถ้าคุณจะตัดราทิ้งออกไป และกินส่วนที่เหลือได้ ถ้าเป็นชีสแข็ง
(Hard Cheese) ซึ่งเป็นชีสที่มีความชื้นต่ำมาก มีเนื้อสัมผัสที่แข็ง
แต่ตรงกันข้าม กรณีเดียวกันนี้ไม่สามารถใช้ได้กับครีมชีส ซึ่งเป็นชีสแบบนุ่ม ที่มีปริมาณน้ำอยู่มาก หากเกิดรา ราจะสามารถชอนไชไปได้ง่ายกว่าชีสแบบแข็ง
1
หากพบราเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องทำทันทีแบบไม่มีการเสียดาย
คือทิ้งชีสทั้งก้อนนั้นไปเลย เพราะมันได้เสียไปแล้วอย่างแน่นอน
ไม่ควรนำมาบริโภคเด็ดขาด เพราะราที่เกิดจากนม จะสามารถสร้างสาร
Toxin ที่เป็นอันตรายกับร่างกายได้
อย่างที่สอง ดมด้วยจมูก
กลิ่น เป็นปกติของครีมชีส ที่จะมีกลิ่นเปรี้ยวเกิดขึ้นบ้าง จากกรดแลกติก
ในกระบวนการทำชีส ซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยจะเป็นกลิ่นเปรี้ยว ที่ไม่ส่งกลิ่นรุนแรง
และถ้าหากว่าดมแล้วยังไม่แน่ใจ หรือกลิ่นไม่แรงมาก
รสชาติ ก็เป็นตัวที่สามารถบ่งบอกได้เช่นกัน
ครีมชีสที่ยังไม่เสีย จะมีรสเปรี้ยวเพียงอ่อน ๆ เท่านั้น
ผสมกับรสเค็มที่เกิดจากเกลือ เพียงเล็กน้อย
หากคุณพบว่าครีมชีสมีกลิ่นเปรี้ยวที่รุนแรง มีรสชาติเปรี้ยว มากกว่าปกติ
(เราควรชิมวัตถุดิบของเรา ในสภาวะที่ปกติ ไม่เสีย ไม่หมดอายุ
เพื่อที่จะสามารถรู้ได้หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น) ให้สันนิษฐานว่าครีมชีสอาจจะเสียแล้วเช่นกัน
แล้วเราจะเก็บครีมชีสของเรายังไง ให้อยู่รอดปลอดภัยได้นาน ๆ ดีล่ะ ?
1.ครีมชีสไม่ควรเก็บไว้นาน ดังนั้น จึงควรกะปริมาณการใช้
ให้พอเหมาะ ซื้อครีมชีส ให้ใกล้เคียงกับปริมาณที่ต้องการใช้
ราคาอาจแพงกว่าซื้อก้อนใหญ่นิดหน่อย แต่เหมือนเราซื้อประกันความเสี่ยง
ที่จะไม่ต้องไปนอนโรงพยาบาลให้เสียเงินไปเล่น ๆ
โดยเฉพาะคนที่ทำขนมขาย แล้วออเดอร์ยังไม่เยอะมาก
คุณ ใช่ครับ คุณนั่นแหละ คุณต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของลูกค้าด้วยนะครับ
เพราะเมื่อขนมถูกส่งออกไปแล้ว ขนมเรามีทั้งน้ำตาล ทั้งกลิ่นผสมอาหาร
มีลูกค้าไม่น้อยนะครับ ที่ไม่รู้ว่าของเสียหรือยัง กินได้หรือเปล่า
ยากมากนะ ที่จะบอกว่าขนมหวานเสียหรือยัง โดยคนปกติทั่วไป
เราต้องปกป้องลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็ตาม
2.เวลาซื้อของมาทำขนม ให้ซื้อของที่อยู่ในตู้แช่ เป็นอย่างสุดท้าย
เพื่อระยะเวลาเดินทาง จากร้านมาถึงแหล่งผลิตขนมของเรา ครีมชีสจะยังคง
เหลือความเย็นอยู่ในตัวเอง หรือถ้าให้ดี พกไอซ์แพ็กไปด้วยก็ได้ครับ ถุงเก็บความเย็น สำหรับใส่ของที่ต้องแช่โดยเฉพาะ ก็เป็นทางเลือกที่ดี
3.บริหารเวลาให้ดี ต่อจากข้อที่แล้ว หากคุณไม่มีเจลทำความเย็น
ไม่มีถุงเก็บความเย็น ครีมชีสจะอยู่ที่อุณหภูมิห้องได้ 1 ชั่วโมง และมากสุดที่ 2 ชั่วโมง ไม่ควรนานกว่านั้น
รวมถึงตอนที่กำลังจะทำขนม ให้ใช้มีด และอุปกรณ์ที่สะอาด ไม่ปนเปื้อน
กับเนื้อสัตว์หรืออื่น ๆ แบ่งครีมชีสออกมาตามที่ต้องการใช้ โดยไม่ให้เกิน
ระยะเวลาที่กล่าวไปข้างต้น
หลังจากนั้น เก็บครีมชีสเข้าตู้เย็นทันที ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
(4 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิสูงที่สุด ที่เป็นช่วงอุณหภูมิที่แบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่าง ๆ โตในปริมาณที่ช้า และไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ และต้องไม่ลืมว่า ปริมาณของแบคทีเรีย และจุลินทรีย์ จะเพิ่มขึ้น แบบยกกำลัง
ในทุก ๆ นาที)
คลุมด้วยพลาสติกแรป ให้แนบสนิทกับหน้าครีมชีส
และเก็บในกล่อง Air-tight เพื่อป้องกันความชื้น เพราะแบคทีเรียจะโตได้ดี
ในสภาวะที่มีความชื้นสูง
ครีมชีส เก็บในช่องแช่แข็งได้มั้ย?
3
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกถกเถียงกันมาก บางคนว่าได้ บางคนว่าไม่ได้
เพราะเมื่อไม่ว่าครีมชีส โยเกิร์ต หรือบัตเตอร์มิ้ลค์ ถูกแช่แข็ง
และนำมาละลาย
แทนที่เราจะได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม เหมือนก่อนแช่ฟรีส
จะกลายเป็นเนื้อสัมผัสที่แข็ง และแตกร่วน
หากต้องการนำไปใช้ต่อ โดยนำไปผสมเป็นไส้ หรืออะไรที่ต้องใช้การปั่น
หรือทำต่อให้สุกโดยความร้อน ก็สามารถใช้ครีมชีสที่แช่แข็งแล้วได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอาหาร
สำหรับบทความนี้ หวังว่าผู้อ่านทุกคนจะได้ความรู้เกี่ยวกับครีมชีส
และความปลอดภัยด้านอาหารกันนะครับ
หากมีข้อสงสัย คอมเม้นต์ถามกันมาได้เลยน้า บางทีผมอาจจะ
ขาดตกบกพร่องอะไรไป หรือตอบได้ไม่ตรงตามที่อยากรู้ จะพยายามหา
ข้อมูลมาเพิ่มให้ครับ
และอย่าลืมกดไลก์ กดติดตามเพจของ Sappayhera ได้ทุกช่องทาง
เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Facebook:Sappayhera
Twitter :@sappayhera
Instagram:@sappayhera
Line Official:@sappayhera
แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าครับ :)
โฆษณา