“โรงแรมแห่งแรกบนเกาะภูเก็ต”
ภาพจาก: blog.traveloka.com
ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับโรงแรมแห่งแรกบน
“เกาะภูเก็ต” ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “เกาะภูเก็ต” กันพอสังเขปก่อนนะครับ
“เกาะภูเก็ต” เป็นเก่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอันดามัน “จังหวัดภูเก็ต”
“จังหวัดภูเก็ต” เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะต่างจากจังหวัดอื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่พื้นที่ของจังหวัดทั้งหมดเป็นเกาะกลางทะเล
คำขวัญประจำจังหวัด: “ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม”
ถ้าหากเราพูดถึงทะเล เชื่อว่าหลายคนๆ คงต้องนึกถึงทะเลภูเก็ตอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วย “จังหวัดภูเก็ต” นั้นจัดได้ว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถูกล้อมรอบไปด้วยน่านน้ำของมหาสมุทรอินเดีย มีเอกลักษณ์ของชาวเลซึ่งเป็นประชากรที่มาอาศัยอยู่เป็นกลุ่มแรกๆ นอกจากขึ้นชื่อเรื่องทะเลสวยแล้ว ยังมีย่านเมืองเก่าใน “จังหวัดภูเก็ต” ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ ตั้งตระหง่านสวยงาม โดยเป็นสถาปัตยกรรมแบบ “ชิโน-โปรตุกีส” ที่มีเสน่ห์ น่าดึงดูดสุดๆ เกาะสวรรค์อย่างภูเก็ตเป็นแหล่งรวมหาดทรายสวยๆ ในฝั่งทะเลอันดามันที่มีชื่อเสียงระดับโลกไว้เยอะมาก เยอะชนิดที่ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่หาดทรายสวยๆ กับน้ำทะเลสีฟ้าคราม ถ้าหากแล่นเรือออกไปหน่อยก็จะเจอแต่เกาะน้อยใหญ่ที่ซ่อนเร้นความงดงามของธรรมชาติเอาไว้
ภาพจาก: blog.traveloka.com
“จังหวัดภูเก็ต” ขึ้นชื่อในเรื่องของการท่องเที่ยว จนมีชื่อเสียง และโด่งดังระดับโลก ทำให้มีธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่ง ร้านอาหาร ตลอดจนธุรกิจโรงแรม แล้วมีใครเคยทราบไหมว่า...โรงแรมแห่งแรกบนเก่าภูเก็ตคือที่ไหน มีมาตั้งแต่สมัยใด ถ้ายังไม่ทราบตามมาดูกันเลยครับ
“โรงแรมแห่งแรกบนเกาะภูเก็ต” คือ “โรงแรม ออน ออน” (On On Hotel) ตั้งอยู่ที่ถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต สร้างเมื่อ พ.ศ. 2470 โดย “นายหยกเตี้ยว” เป็นโรงแรมแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต และได้ทำการจ้างช่าง จากเมืองปีนัง มาออกแบบก่อสร้าง โดยเป็นตึกใหญ่ 2 ชั้น ก่อด้วย อิฐถือปูน มีลักษณะเด่น พิเศษคือ การตกแต่งลวดลาย เหนือประตูหน้าต่าง ตกแต่งหัวเสาและฝาผนัง ตลอดจนช่องลม ลูกกรงชั้นดาดฟ้า อย่างวิจิตรสวยงาม
ภาพจาก: readthecloud.co ถ่ายโดย: คุณมณีนุช บุญเรือง
โรงแรมแห่งแห่งนี้เดิมมีชื่อเป็นภาษาจีนที่ชาวเมืองภูเก็ตรู้จักกันดีว่า "โรงแรม อัน อัน" ซึ่งเป็นภาษาจีนมีความหมายว่า "ความสุขสำหรับผู้มาเยือน" ต่อมาเมืองภูเก็ตมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติค่อนข้างมาก จึงเขียนชื่อโรงแรม เป็นภาษอังกฤษว่า “On On Hotel” และเขียนเป็นภาษาไทยว่า “โรงแรม ออน ออน” เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย
ภาพจาก: readthecloud.co ถ่ายโดย: คุณมณีนุช บุญเรือง
โรงแรมแห่งนี้ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักเดินทางมากมายจากทั่วโลก เป็นที่พักพิงของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน “โรงแรม ออน ออน” เปิดให้บริการห้องพัก ตั้งแต่สมัยที่ราคาค่าห้อง เพียงคืนละ 80 สตางค์ มีจุดเด่นอยู่ที่ความเรียบง่ายของสิ่งอำนวยความสะดวก แต่แฝงไปด้วยมนต์ขลังแห่งอดีต ที่จะนำแขกผู้มาเยือนย้อนกลับไปสู่ยุคทองแห่งการทำเหมืองแร่ของภูเก็ตอีกครั้ง ด้วยทำเลที่ตั้ง และการบริการที่เป็นกันเอง ทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการสัมผัสวิธีชีวิต และความเป็นภูเก็ตอย่างแท้จริง
ภาพจาก: readthecloud.co ถ่ายโดย: คุณมณีนุช บุญเรือง
และอีกความทรงจำที่ช่วยแต่งเติมความน่าสนใจให้กับ “โรงแรม ออน ออน” ก็คือ ในปี พ.ศ. 2543 โรงแรมแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง “The Beach” ของดาราชื่อดัง “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” จนทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะเวียนมาตามรอยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวที่โรงแรมแห่งนี้
“เดอะ เทรเชอรี่ วิลเลจ กรุ๊ป” ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของ “โรงแรม ออน ออน” จึงได้เข้ามาบูรณะ และปรับปรุง “โรงแรม ออน ออน” ใน พ.ศ. 2555 วันนี้โรงแรมได้เปิดต้อนรับลูกค้าอีกครั้ง ภายใต้ชื่อใหม่ว่า “เดอะ เมมโมรี่ แอท ออน ออน โฮเต็ล” (The Memory at On On Hotel)
ห้องพักของโรงแรมมีให้เลือกหลากหลายแบบ ได้แก่ เดอะ เมมโมรี่ สวีท, เดอะ เมมโมรี่ จูเนียร์ สวีท, เดอะ เมมโมรี่ ดีลักซ์, เดอะ เมมโมรี่ ซูพรีเรียร์, ห้องพักหญิงล้วนแบบ 4 เตียง, ห้องพักรวมแบบ 4 เตียง และห้องพักรวมแบบ 6 เตียง
ภาพจาก: readthecloud.co ถ่ายโดย: คุณมณีนุช บุญเรือง
“รูปแบบสถาปัตยกรรม” ของ “The Memory at On On Hotel” มีลักษณะคล้ายที่อยู่อาศัยของคนภูเก็ตในสมัยก่อนเป็นตัวอาคาร ตึกแถวที่สร้างในสไตล์ “ชิโน-โปรตุกีส” มีความสูง 2 ชั้น ขนานไปตามสองข้างถนน ภายในอาคารมักมีฉิ่มแจ้ หรือบ่อน้ำบาดาลหนึ่งบ่อ และเจาะช่องให้อากาศถ่ายเท และแสงส่องเข้าอาคาร ทำให้ตึกแถวในภูเก็ตจึงเย็นสบาย ส่วนที่ชั้นสองเป็นห้องนอนหน้าตึกแถวมีทางเดินเท้า ทำเป็นช่องซุ้มโค้งเชื่อมกันไปตลอดทั้งแนวตึกแถว เรียกว่า “อาเขต” (มาจากคำว่า Arcade) ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากโบสถ์ฝรั่งของชาวโปรตุเกส หรือในภาษาจีนฮกเกี้ยน เรียกกันว่า “หง่อคาขี่“ โดยมีชั้นบนยื่นล้ำออกมาเป็น หลังคากันแดดกันฝน ซึ่งตกเกือบตลอดปี นับเป็นสถาปัตยกรรมที่สัมพันธ์กับสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเอื้ออาทรของเจ้าของบ้านกับผู้สัญจร ที่ชั้นสองด้านหน้าอาคารเน้นการ เจาะช่องหน้าต่างเป็นซุ้มโค้งคูหาละสามช่องขนาบข้างด้วยเสาแบบกรีก และโรมัน บนพื้นผนังตกแต่งด้วยลายปูนปั้น
ภาพจาก: readthecloud.co ถ่ายโดย: คุณมณีนุช บุญเรือง
ปัจจุบันเจ้าของโรงแรมแห่งนี้คือ “คุณณัศรา ไตรสุวรรณ”
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
