Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดร.ธีร์รัฐ ไชยอัคราวัชร์
•
ติดตาม
15 มิ.ย. 2020 เวลา 15:26 • การศึกษา
“ขโมยของในร้านค้า.. “
การลักทรัพย์ในโลตัส.. บิ๊กซี.. เซเว่น.. หรือในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆเกิดขึ้นทุกวันครับ..
บางครั้ง ทรัพย์ราคาเล็กน้อย.. เช่น ลิปสติก.. หวี.. นมกล่อง.. สบู่.. ครีมบำรุงผิว.. แชมพูสระผม..
เท่าที่เจอ..ส่วนใหญ่ ผู้กระทำผิดเป็นเพศหญิง.. บางคนฐานะยากจน.. บางคนเป็นนักศึกษา.. บางคนมีฐานะดี.. มีหมดครับ..
บางคน มีสถานภาพทางสังคมดีและฐานะการเงินมั่นคงดี.. ก็ยังทำ..
มีคดีหนึ่ง ศาลถามว่า เหตุใดจึงทำ.. เธอตอบว่า..
“ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะท่าน.. หนูทำลงไปได้ยังไง..
..หนูเห็นป้าเขาเข้าไปในห้องลองเสื้อแล้ว แอบเอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าถือเดินออกไปได้..
..หนูเห็น หนูก็ทำตามบ้าง..
.. หนูเอง ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันค่ะ.. ไม่รู้ว่า ตอนนั้นภูติผีปีศาจตนไหน.. มันสิงใจหนูให้ทำ..
แต่ต่อไปนี้.. หนูรับรองว่า ท่านจะไม่ได้เห็นหนูอีกแล้วค่ะ..”. 55
หลายคนคงเคยเห็นป้ายที่ติดไว้ตามร้านค้าว่า..
“ห้ามขโมยสินค้า”..
“การลักทรัพย์เป็นความผิด”..
“ขโมยของ ปรับ 10 เท่า”.. หรือ
“ขโมยสินค้า ปรับ 8,000 บาท”..
เคยคิดเล่นๆนะ.. นี่ถ้ามีคนทำผิด แค่ราคาทรัพย์เล็กน้อย .. เขาจะต้องเสียค่าปรับ 7-8,000 บาทเลยหรือ..
ก็เลยอยากมาเล่าให้ประชาชนทั่วไปฟังครับว่า..กฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เป็นอย่างไร..
1. ขโมย ก็คือ การลักทรัพย์ตามกฎหมาย.. ภาษากฎหมาย เขียนว่า..ลักทรัพย์ คือ เอาทรัพย์คนอื่นไปโดยทุจริต..
ภาษาชาวบ้านคือ เอาของเขาไปโดยเขาไม่อนุญาต..
2. การหยิบสินค้าในห้าง แล้วเดินออกไปเลย..ไม่จ่ายเงินที่เคาเตอร์ และรู้อยู่ว่าจะเอาไปใช้.. ไปขาย.. ไปให้คนอื่น.. แบบนี้ มีความผิดฐานลักทรัพย์..
3. โทษทั่วไปของการลักทรัพย์ คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท..
แต่ถ้าลักในเวลากลางคืน (หลังพระอาทิตย์ตก) .. ร่วมกันลักตั้งแต่ 2 คน.. ลักโดยมีอาวุธติดตัว.. ลักทรัพย์ในบ้าน.. บนรถเมล์.. สถานีขนส่ง.. หรือลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูป.. รถไถนา.. ฯลฯ
โทษจะหนักกว่าลักทรัพย์ทั่วไป..
เว้นแต่.. ถ้าขโมยเพราะความยากจนเหลือทนทานและทรัพย์มีราคาเล็กน้อย.. ศาลจะลงโทษเท่าลักทรัพย์ทั่วไปก็ได้..
4. ถ้าขณะลักทรัพย์ เป็นเวลาเช้า สาย บ่าย เย็น.. แม้จะถูกสอบปากคำจนมืดค่ำและเรียกตำรวจมารับตอนกลางคืน..
ก็ยังเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ทั่วไปที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท..
ไม่ใช่ลักทรัพย์เวลากลางคืนนะครับ..
ถ้าอัยการฟ้องว่า ลักทรัพย์เวลากลางคืน.. คนทำผิดควรให้การต่อสู้นะครับ.. เพราะถ้ารับสารภาพ จะรับโทษสูงกว่าความเป็นจริง..
5. ถ้าหยิบมาแล้ว ไม่ได้จ่ายเงินด้วยความหลงลืมโดยบริสุทธิ์ใจ..
แบบนี้ ไม่ผิดฐานลักทรัพย์.. เพราะขาดเจตนาเอาไปโดยทุจริต..
6. กรณีร้านค้าบางแห่งปิดประกาศว่า..ถ้าลักทรัพย์ จะปรับเป็นเงินเท่านั้นเท่านี้บาท..
ป้ายประกาศนั้น.. เจ้าของร้านติดเอง.. ไม่ใช่กฎหมาย.. ไม่มีสภาพบังคับ..
7. ถ้ามีคนมาขโมยของ เจ้าของร้านจับได้ จะต้องเรียกตำรวจมารับตัวไป.. จะเจรจากันเองให้จบเรื่องไม่ได้..
เพราะลักทรัพย์เป็นความผิดที่ยอมความกันเองไม่ได้..
แม้เจ้าของร้านจะเรียกค่าเสียหายจากขโมย.. และขโมยยอมจ่าย.. เรื่องก็ไม่จบ..
ถ้าตำรวจรู้ หรือมีคนไปกล่าวโทษแจ้งความ.. ตำรวจก็ต้องจับ ส่งอัยการฟ้อง.. ให้ศาลตัดสินอยู่ดี..
8. เจ้าของร้านจับคนขโมยได้.. จะปรับเงินจำนวนตามป้าย .. หรือขอปรับไม่เกิน 60,000 บาทตามกฎหมาย..ถ้ายอมจ่าย.. จะไม่แจ้งความ..
แบบนี้ ไม่ได้.. เพราะไม่ใช่การลงโทษปรับตามกฎหมาย.. และเจ้าของร้านไม่ใช่ศาล..
9. แต่การลักทรัพย์นั้น เป็นทั้งความผิดอาญาและเป็นละเมิดทางแพ่งด้วย..
ฉะนั้น ถ้าตกลงจ่ายค่าเสียหายกันเรียบร้อยแล้ว.. เจ้าของร้านจะฟ้องคดีแพ่งอีกไม่ได้..
10. เจ้าของร้านจึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ ไม่เกินราคาสินค้าที่ถูกขโมย..
ดังนั้น การจ่ายเงินค่าเสียหายให้เจ้าของร้าน.. จึงต้องจ่ายไม่เกินราคาสินค้าที่ขโมย.. ไม่ใช่ราคาตามป้ายที่ปิดประกาศ..
และถ้าคืนของที่ลักไปแล้ว.. ก็ไม่ต้องชำระค่าเสียหายอะไรอีก..เจ้าของร้านไม่มีสิทธิเรียกร้อง..
11. เนื่องจาก การลักทรัพย์ เป็นความผิดทางอาญาและเป็นละเมิดคดีแพ่ง..
ฉะนั้น แม้ว่า มีการจ่ายเงินค่าเสียหายให้เจ้าของร้านไปจนเขาพอใจซึ่งถือว่า เรื่องทางแพ่งจบแล้ว..
เจ้าของก็ยังมีสิทธิแจ้งความทางอาญาได้อยู่.. แต่จะเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้..
12. ถ้ามีการตกลงจ่ายเงินค่าเสียหายกัน .. จึงควรทำเป็นหนังสือสัญญาหรือบันทึกภาพไว้..
เพื่อจะได้เป็นหลักฐานว่า มีการตกลงกันแล้วจริงๆ..
เพื่อว่า..เวลาถูกฟ้องคดีอาญา..ศาลจะตัดสินลงโทษ.. ถ้ามีหลักฐานว่า มีการจ่ายเงินค่าเสียหายและเจ้าของร้านรับไว้แล้ว..
ศาลอาจลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษได้..
สรุปว่า..
ป้ายประกาศในร้านค้าที่เขียนว่า.. ใครขโมยของ ต้องเสียค่าปรับนั้น.. ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย..
แต่น่าจะมีผลทางจิตใจในการข่มขู่หรือเตือนใจคนที่คิดจะขโมยนะครับ..
ผมโพสต์ให้ความรู้กับขโมยแบบนี้.. หลายคนอาจคิดว่า .. ผมจะให้ความรู้กับคนร้ายไปทำไม.. ให้ขโมยรู้มาก.. เป็นขโมยหัวหมอ..
เขาเป็นคนไม่ดีนะ..
แต่อยากให้คิดว่า..
การเป็นนักกฎหมายที่ดี หรือสมาชิกที่ดีในสังคม..ท่านควรเข้าถึงจิตใจของเหยื่อ..ผู้ถูกกระทำที่ได้รับความเสียหาย..ให้มองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นให้มาก..
แต่ในขณะเดียวกัน..ท่านก็ต้องปล่อยวางความรู้สึกนั้นให้ได้.. เพื่อจะได้หันมามองผู้กระทำผิด..ด้วยความเข้าใจในสาเหตุที่เขาทำผิด...
เพราะโทษที่เขาควรจะได้รับนั้น.. จะมากน้อย .. จะรุนแรงแค่ไหน.. ก็ต้องเป็นสัดส่วนกับความผิดที่เขาทำด้วย..
และเพราะในที่สุด.. คนทำผิดคนนั้น เขาก็ต้องกลับมาอยู่ในสังคมเดิม.. สังคมเดียวกันกับเหยื่อ.. และสังคมเดียวกับเรา..
.. อยากให้เมตตากันไว้นะครับ..เพราะคนทำผิดเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกับเรา.. เหมือนกับญาติพี่น้องของเราคนหนึ่ง...
แม้เขาทำผิด.. เขาก็มีสิทธิได้รับโทษอย่างเป็นธรรม.. เพราะ..
คนทำผิดนั้น.. ก็มีสิทธิจะกลับตัวเป็นคนดีได้..
ขอให้จำไว้ว่า.
“คนดีทุกคนก็มีสิทธิพลาดได้เมื่อวิบากกรรมตามมาเจอ...
คนดีที่ไม่เคยพลาดคือคนที่ประมาทในกรรมชั่วของตัวเอง...”
2 บันทึก
1
9
2
1
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย