16 มิ.ย. 2020 เวลา 16:58 • ปรัชญา
ยิ้มเข้าไว้ให้กำลังใจ ไม่เหนื่อยท้อต่อฝันที่เป็นจริง
หลายวันมานี้คงยุ่งกับกิจกรรมหลายอย่างไม่มีเวลาตามอ่านบทความของหลายเพจ แต่ก็มีความตั้งใจที่จะตามอ่านย้อนหลังของหลายคน ด้วยความตั้งใจของผู้เขียนที่อยากสานฝันของตนเองในการพัฒนานวัตกรรมและการสร้างอาชีพชุมชนท้องถิ่น เพื่อการพึ่งตนเอง
ผมเองพยายามที่จะเข้าร่วมอบรมเพื่อพัฒนาความรู้ของตนในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อสร้างทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ด้วยความมุ่งหวังเพื่อการนำความเจริญให้ชุมชน และช่วยเหลือความยากไร้ ความเดือดร้อนของคนในชุมชนจากโควิด
เนื่องจากชีวิตคนเราต้องเดินต่อไปผมจึงพยายามที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเป็นการช่วยเหลือคนในชุมชน เพื่อความมั่นคง ยั่งยืน และสามัคคี ยิ่งสถานการณ์โลก และประเทศที่ทำให้หลายคนเกิดความเดือดร้อน ได้รับผลกระทบจากโควิด การเสียสละ การสร้างสิ่งที่ดีให้ชุมชน คือ ความภูมิใจ
สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส เจ วิปุลํ สุขํ จเช มตฺตาสุขํ ธีโร สมฺปสฺสํ วิปุลํ สุขํ. แปลส่า ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย
ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย. ตีความไว้ว่าผู้ที่มีความรู้ย่อมที่จะเสียสละส่วนตนที่มีค่าน้อยนิด เพื่อสร้างประโยชน์อันยิ่งใหญ่ให้กับสังคม และส่วนรวม
1
การที่เราเองมีความมุ่งหวังที่จะสร้างสิ่งที่ดี สร้างผลงาน และพัฒนาสังคมให้มีความเจริญนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝน บ่มเพาะ เรียนรู้ ความขยันพรากเพียร และสิ่งสุดท้ายคือการทิ้งความถือตัว มานะในตนทิ้งไป เพื่อพร้อมรับความรู้ใหม่เข้ามา ผมจึงมักสอนตัวเองตลอดเวลา นำคำคมที่ว่า "รู้ให้ลึก ฝึกให้มาก พรากเพียรยิ่ง ทิ้งทิฐิ"
1. รู้ให้ลึก
การเรียนรู้คือสิ่งที่ดี และการรู้เราเองจะต้องรู้อย่างละเอียด รู้จริง รู้ลึก เพื่อที่จะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ เพื่อการสร้างความดีงามให้กับสังคม สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า อปฺปสฺสุตายํ ปุริโส พลิวทฺโทว ชีรติ มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ ปญฺญา ตสฺส น วฑฺฒติ. แปลว่า คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ. ตีความว่า เราควรที่จะฝึกฝนตนเองให้มากเพื่อที่จะมีความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาได้ อย่ารู้แค่เพียงเปลือกหรือเนื้อ ควรฝึกฝนให้ถึงแก่น
2. ฝึกให้มาก
ชีวิตคือการเรียนรู้ การจะประสบความสำเร็จจะต้องมีการฝึกฝนตนเองให้มาก การแข่งขันในสังคมนี้ไม่ใช่แค่การรู้แล้วหยุด แต่เราควรที่จะฝึกฝนตนเองตลอดชีวิต สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า สทตฺถปสุโต สิยา แปลว่า พึงขวนขวายในเป้าหมายของตน ตีความว่า เราควรเร่งรีบที่จะหาความรู้ หรือเพิ่มพูนความรู้ให้มากเพื่อสร้างโอกาสในการนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต
3. พรากเพียรยิ่ง การสร้างความรู้ความสามารถเราควรที่จะมีความขยันหมั่นเพียรเรียนรู่ในสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการพัฒนาตนเอง ซึ่งการเรียนรู้เราควรเร่งรีบที่จะทำ สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ. แปลว่า ควรรีบทำความเพียรในวันนี้ . ยิ่งถ้าหากเราเกียจคร้านเรายิ่งไม่มีการพัฒนา สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ปญฺญาย มคฺคํ อลโส น วินฺทติ. แปลว่า คนเกียจคร้านย่อมไม่พบทางด้วยปัญญา
4. ทิ้งทิฐิ การที่เราต้องการความรู้จากผู้อื่นสิ่งสำคัญเราควรลดทิฏฐิมานะ ความถือตัว ความอวดเก่ง และภูมิความรู้ต่างๆ ให้หมดสิ้น เพราะบางสิ่งบางอย่างใช่ว่าเราจะรู้เสียทุกอย่าง แต่เราควรทำตัวให้เหมือนผู้ที่พร้อมเรียนรู้ มีความปกติ สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า สุเขน ผุฏฺฐา อถวา ทุกฺเขน น อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ แปลว่า บัณฑิต ได้สุข หรือถูกทุกข์กระทบ ก็ไม่แสดงอากาขึ้นๆ ลงๆ
ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ที่ผู้เขียนได้กล่าวถึง ยิ้มเข้าไว้ให้กำลังใจ ไม่เหนื่อยท้อต่อฝันที่เป็นจริง เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เราทำขึ้นมาแม้จะเหน็ดเหนื่อย สาหัสสากันต์มากแค่ไหน แต่ใจที่มุ่งหวังจะทำสักวันต้องสำเร็จ จงยิ้มเข้าไว้ อย่าท้อแท้ในสิ่งที่ทำและสักวันสิ่งที่เราฝันไว้จะเป็นจริง และจงอย่าเป็นแค่ผู้ใหญ่ที่ใช้เวลาผ่านไปวันๆ สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า
เตน เถโร โหติ เยนสฺส ปลิตํ สิโร
ปริปกฺโก วโย ตสฺส โมฆชิณฺโณติ วุจฺจติ
คนจะชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ เพียงเพราะมีผมหงอก ก็หาไม่
ถึงวัยของเขาจะหง่อม ก็เรียกว่าแก่เปล่า
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
ปล. ฝากแนะนำผู้ที่สนใจครับ
โฆษณา