17 มิ.ย. 2020 เวลา 11:00 • บันเทิง
#น้ำผึ้งอาบยาพิษ
เสียงวิดิโอคอลจากไลน์ดังถี่อยู่หลายครั้ง
ผมรู้สึกขุ่นเคืองทันทีที่มีผู้รับสาย
🙇: ทำอะไรกันอยู่หล่ะ
👩: อ๋อจัดตู้เสื้อผ้าใหม่ค่ะ
ปีนี้ลูกสาวขึ้นมัธยมแล้ว
เสื้อตัวไหนเล็กไปคับไป
และชุดนักเรียนเก่าๆ
เราก็แยกออกค่ะ
ที่ไม่ได้ใส่หรือใส่ไม่ได้แล้ว
เราจะเอาไปบริจาคเพื่อจะได้มี
พื้นที่เหลือสำหรับชุดนักเรียนใหม่
เลยจะยุ่งหน่อยค่ะ
🙇: มีมากเกินไปไง เยอะเกิ๊น
👩:แหม..ถึงจะเยอะก็เยอะ
เพราะของคนอื่นเค้าให้มา
ไม่ใช่ว่ามีอยู่มีกินมีเหลือเฟือ
ขนาดมีเงินเหลือซื้อเสื้อผ้าหรอกค่ะ
ใครเขามีน้ำใจ ก็รับไว้ก่อน ใส่ได้ไม่ได้
ก็ค่อยว่ากัน
#กางเกงตัวที่คุณเคยให้ฉันไว้
ฉันยังเก็บไว้อยู่เลยนะคะ
ไว้เป็นของที่ระลึกจากคุณไง
ภาพรอยยิ้มผ่านวิดิโอคอลในไลน์
ทำให้ผมรู้สึกหน้าชาเหมือนโดนลาก
ไปตบกลางสี่แยกอัมพวัน
รอยยิ้มที่เหมือนไม่มีอะไร ไม่รู้สึกอะไร
กลับทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจมาก
ถ้าเลือกได้ ผมอยากให้เธอโวยวาย
ฟูมฟาย เหมือนเมื่อก่อนมากกว่า
กางเกงเป้าขาดสีดำตัวนึง
ผมส่งยื่นให้เธอโดยไม่ได้คิด
ของใครไม่รู้ที่บ้านเผื่อเธอใส่ได้
โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่า #มันเป้าขาด
และเมื่อเธอบอกผม ผมรู้แล้วกลับละเลย
ไม่ได้ขอโทษเธอในวันนั้น เป็นจุดเปลี่ยน
สำคัญให้ผู้หญิงพูดมาก ขี้โวยวาย
ชอบเรียกร้องความสนใจในสายตาของผม
กลายเป็นคนละคน
เธอเคยคนที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก
ดูแลเอาใจใส่ประคบประหงมลูก
จุกจิกจู้จี้กับทุกคนในครอบครัว
หัวฟูตั้งแต่เช้ายันค่ำ เรียกร้องความรัก
สัมผัสโอบกอดและโหยหาความสนใจ
จากสามีอย่างผม ถ้าไม่ได้ก็งอแงฟูมฟาย
จนผมรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่น่ารำคาญขึ้นทุกวัน
 
วันหยุดผมอยากพักผ่อน
เธอก็ชอบมาออดอ้อน
มานอนคลอเคลียทั้งที่อากาศมันร้อน
หรือไม่ก็ชวนไปนู่นนี่นั่น
ทั้งที่การหอบลูกไปไหนต่อไหนด้วย
ก็เป็นอะไรที่น่าเหนื่อยมาก
สภาพเธอเองในฐานะมนุษย์แม่
ก็ดูแย่จนอวดใครไม่ได้
ผมรู้สึกเธอปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไป
ถึงแม้เธอจะให้เหตุผลว่า
แป้งหรือเครื่องสำอางค์ทุกอย่าง
หรือแม้แต่น้ำหอมก็มีผลต่อสุขภาพผิว
และทางเดินหายใจของเด็ก
แต่ผมก็เมินเฉยที่จะใส่ใจ
รอยยิ้มของคนที่ไร้ความรู้สึกของเธอในวันนี้
บาดลึกหัวใจผมมาก ผมเจ็บปวด
เหมือนเส้นกล้ามเนื้อหัวใจถูกดึงตึง
จนคล้ายจะขาด กางเกงเป้าขาด
มันไม่ได้ขาดที่เป้า
แต่ขาดเพราะผมไม่ได้ใส่ใจหัวใจของเธอ
ตั้งแต่มีลูกเธอกลายเป็นคนตระหนี่
เสื้อผ้าดีๆที่เคยใส่ถูกเก็บแขวนไว้หมด
เธอกลายเป็นคนง่ายๆเสื้อแจกฟรี
ก็ใส่ไปได้ทุกที่
เสื้อผ้าเธอขาดตรงไหนก็ปะก็เย็บไว้ใช้
ทำให้ผมคุ้นเคยกับสิ่งนั้น
จนทำให้ไม่ได้ระวังเรื่องของจิตใจ
ผมเก็บของออกจากคอนโดมาไว้บ้านพ่อแม่
พบว่าในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อผ้ามีกางเกงผู้หญิงอยู่
ผมไม่รู้ว่าเป็นของใคร ผมเก็บออก
แล้วเผลอโยน ใส่รถไว้จนมาถึงบ้าน
เกรงว่าเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าของกิ้กหรือไม่
ผมจึงรีบชิงส่งให้เธอก่อนบอกว่าไปบ้านมา
ไม่รู้ของใครเลยเก็บมาให้เผื่อใส่ได้
เธอยืนนิ่งอึ้งไม่รับผมจึงจับพาดคอเธอไว้
โดยไม่ได้สนใจอะไร
เธอบอกผมก่อนเข้านอนเรื่องกางเกงเป้าขาด
เธอยังว่าเสื้อผ้าเธอมีคราวหลังไม่ต้องเก็บ
ของคนอื่นมาให้เธอใส่ถึงเธอจะไม่มีรายได้
แต่ก็มีเสื้อผ้าเพียงพอ ผมก็ยังไม่ได้ใส่ใจ
แถมยังเผลอหลุดปากไปว่าเห็นไม่ค่อยมี
เสื้อผ้าดีๆใส่ แต่งตัวอะไรยังกะยัยซิ้ม
ผมไม่ได้หันไปเห็นว่าเธอมีน้ำตาไหลออก
มาหรือไม่เธอคงไม่โกรธหรอก
เพราะเธอไม่ได้โวยวายอะไร
ผมหลับไปโดยไม่รู้ว่าเธอได้เข้านอนรึเปล่า
เพราะทุกเช้าที่ลืมตาจะเห็นว่าเธอซุกอยู่ข้างอก
ผมเสมอ จากวันนั้น
เธอห่างผมไปไม่เหมือนก่อน
เคยวิ่งมาหาเวลากลับจากทำงาน
ชอบมานั่งใกล้มาออดอ้อน
เคยนอนซบอก เคยมากอดมาก่าย
เธอค่อยๆห่างไปห่างไป แต่ผมกลับ
ไม่ระแวงแคลงใจใดๆ
จนวันลูกเข้าเรียนได้เธอจึงกลับไปอยู่บ้านเธอ
ผมอยากขอโทษเธอ
แต่อายและจุกเจ็บกับคำพูดเรียบๆ
บนใบหน้าที่ฉาบด้วยรอยยิ้มนั่น
มันเหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษเสียนี่กะไร
เธอหย่าขาดกับผมแล้วครับ
ตอนที่เราแยกทางกัน
ผมยังคิดว่าเธอแค่ประชด
หรือเรียกร้องความสนใจ
จึงเซ็นๆไปจบๆเพื่อให้บทเรียนเธอเสียบ้าง
ผมเองก็จะได้ไม่ต้องทนรำคาญเธอไปสักพัก
ผมคิดว่าหย่าแล้วห่างกันสักพักค่อยมาคุยกันใหม่เพราะนิสียเธอแค่ผู้หญิงขี้งอล
เธอส่งลูกเข้าเรียน
กลับไปอยู่บ้าน ออกไปทำงานอิสระ
และสามารถรับภาระได้ทั้งสองอย่าง
เธอก้าวหน้าจนเป็นระดับผู้บริหาร
แต่งตัวจัดจ้าน ฉะฉานเด็ดขาดมาดมั่น
แต่กลับดูแข็งกระด่างอย่สงที่ไม่เคยเห็น
ผมพยายามขอคุยเพื่อขอคืนดีกับเธอ
ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย
จนวันนี้
รอยยิ้มที่ไม่รู้สึกอะไร
บอกได้ถึงความหมดใจ ของคนหมดรัก
วันนี้ผมถึงได้รู้
ว่ามันสายจนเกินจะพูดมันออกไป
ใครที่บังเอิญอ่านจบอย่าละเลยคนที่รักนะครับ
แม้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
ขอพื้นที่นี้ฝากถึงเธอ
เมย์ป๊าขอโทษ
ป๊ารักเมย์นะ
โฆษณา