16 มิ.ย. 2020 เวลา 18:55 • ธุรกิจ
มาม่า กับเงิน 5 ล้าน !!
#STAFF100MB #เส้นทางลูกจ้างเงินล้าน
ครั้งหนึ่ง...
ผมกลับถึงบ้านด้วยความดีใจ.. ดีใจที่ยังเหลือเงินติดตัวอีกประมาณ 200 บาท ... 200 บาท เพียงพอที่จะใช้เติมน้ำรถไปทำสัญญาจัดตั้งบริษัท 5 ล้านบาท ในวันรุ่งขึ้น!
บริษัทร่วมทุน 5 ล้านบาท ที่มี 3 หุ้นส่วน ...หุ่นส่วนที่ 1 และ 2 ลงเงินคนละ 2 ล้านบาท ส่วนผมตามแผนจะเป็นคนลง 1 ล้านบาท แต่กำไรหารเท่า เพราะผมเป็นคนวางแผนการตลาด และการขายทั้งหมด
เมื่อเช้า... ผมออกจากบ้านพร้อมเงินในกระเป๋าประมาณ 2 ร้อยกว่าบาท และน้ำมันรถครึ่งถัง มีนัดคุยแผนการตลาดกับหุ้นส่วนคนที่ 2 เพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุน โดยผมเลือกคุยแผนงานที่ร้านกาแฟในปั้มน้ำมัน เพราะด้วยสถานการณ์ ผมจำเป็นต้องเป็นคนเลี้ยงกาแฟ หุ้นส่วนคนนี้ เนื่องจากผมเป็นคนเชิญเขามา ...การที่ผมเลือกคุยงานที่ร้านกาแฟในปั้ม เพราะผมคาดการณ์ว่า อย่างมากก็ทานกาแฟ คนละแก้ว ...เงิน 2 ร้อยกว่าบาทที่ผมมีอยู่ น่าจะพอเอาอยู่
แผนการตลาดและแผนการลงทุนที่ผมนำเสนอหุ้นส่วนคนที่ 2 โอเคมาก ผมจึงโทรบอกหุ้นส่วนที่ 1 ว่าหุ้นส่วนที่ 2 โอเคแล้ว และนัดวันเซ็นต์สัญญาหุ้นส่วนทุกคนในวันรุ่งขึ้นทันที... ที่ต้องรีบ เพราะผมไม่สามารถให้ใครเปลี่ยนใจในการลงุทนได้ ...ถ้ามีใครเปลี่ยนใจ ชีวิตผมจะล้มละลาย ในทันที !!!
นอกจากหุ้นส่วนที่ 2 จะโอเคกับแผนการลงุทนแล้ว โชคดีต่อที่ 2 คือเค้ายังไม่สั่งอะไรกินอีกด้วย เนื่องจากผมนัดคุยบ่าย เค้าพึ่งกินข้าว และทานกาแฟมาแล้ว
ผมจึงกลับถึงบ้านด้วยความดีใจ.. ดีใจที่ยังเหลือเงินติดตัวอีกประมาณ 200 บาท ... 200 บาท เพียงพอที่จะใช้เติมน้ำรถไปทำสัญญาจัดตั้งบริษัท 5 ล้านบาท ในวันรุ่งขึ้น!
เปิดดูตู้กับข้าว เพื่อหาของกิน ...เจอมาม่าเหลืออยู่ 2 -3 ห่อ ...ผมจึงต้มมาม่ากิน และค่อยๆ ดื่มด่ำกับผลลัพธ์ของการคุยธุรกิจในวันนี้ .. พร้อมกับบอกตัวเองว่า “วันนี้ ทำได้ดีมาก” และพรุ่งนี้ จะต้องดีกว่านี้ !!
วันรุ่งขึ้น...
เมื่อหุ้นส่วนทุกคนเซ็นต์สัญญาร่วมทุนกันแล้ว จึงมีการตกลงกันว่า จะลงเงินเมื่อไหร่อย่างไร ผมปล่อยให้ทุกคนออกความเห็นโดยอิสระ .. เงิน 4 ล้านพร้อมแล้ว เหลืออีก 1 ล้าน ...ผมจึงออกตัวกับหุ้นส่วนทุกคนว่า ขอบคุณที่ตกลงยินดีร่วมลงทุนกัน อย่างไรก็ตามในช่วงต้น จะใช้เงินในการ Start up ประมาณ 2-3 ล้านบาท ดังนั้นเงิน 4 ล้านบาท ณ ตอนนี้ เพียงพออยู่แล้ว ส่วน 1 ล้านบาทของผม ขอถือเป็นหุ้นลมก่อน แล้วผมจะค่อยๆ หาเงินมาเติมให้ หุ้นส่วนทุกคนไม่ติดใจอะไร เพราะบังเอิญแผนธุรกิจนี้ ผมเป็นคนร่างแบบตั้งแต่อยู่ในกระดาษ และผมเคยทำสำเร็จมาแล้วกับบริษัทอื่นภายใน 1 ปี สร้างยอดขายได้กว่า 20 ล้าน ก่อนที่จะลาออกมา และเป็นเหตุให้ได้ชักชวนหุ้นส่วนที่ 1 และ 2 ให้มาร่วมลงทุน
หลังเซ็นต์สัญญากันเสร็จผมขอตัวกลับก่อน อ้างว่าติดธุระ (ซึ่งจริงๆ แล้วผมกลัวหุ้นส่วนจะชวนทานข้าวเย็น เพราะถ้าทานข้าวเย็น แน่นอน..ผมควรเป็นคนจ่าย ...หรือต่อให้อเมริกันแชร์ ...200 บาท จะไปพอแชร์ได้อย่างไร ทุกคนก็จะรู้ว่าผมถังแตกกันพอดี !!
แต่ที่สำคัญกว่านั้น.. ผมต้องแปลงอากาศเป็นเงินให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผมอยู่รอดไปได้อีก 2-3 เดือน
ผมขับรถไปหาเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เล่าเรื่องการลงทุนใหม่ 5 ล้านบาท ที่ผมถือหุ้นอยู่ 1 ล้านให้ฟัง.. ก่อนกลับผมบอกเพื่อนว่า ที่แวะมาหาเพราะบังเอิญมีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงต้องจำใจขายหุ้นออก 2.5 แสนบาท ..ถ้าเพื่อนสนใจลงทุน พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงให้โอนตังค์มาด้วย ผมจะเก็บหุ้นในส่วนของผมไว้ให้เขา
ค่ำนั้น ผมกลับบ้านด้วยความเพลีย รู้สึกถึงพลังที่ถูกปล่อยออกไปอย่างมหาศาล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ก่อนถึงบ้านน้ำมันรถหมด ผมจำใจเติมน้ำมันไป 100 บาท โดยต้องลงจากรถไปยืนกำกับเด็กปั้ม กลัวน้องมันเติมน้ำมันเกิน เดี๋ยวจะลำบาก ต้องมาดูดน้ำมันออก ...555
1
มาม่าที่บ้านยังเหลือให้ผมได้ลองท้องอีกคืน ผมหลับไปพร้อมกับการตอบตัวเองว่า ...พรุ่งนี้ เราต้องรอด !!
ผมเลือกที่จะตื่นเกือบๆ เที่ยง เพราะไม่อยากใช้สมองอะไรอีกเลย .... และที่กลัวมากคือ ถ้าเพื่อนที่ผมขับรถไปหาตอนเย็นไม่เอาด้วย ...เงินอีก 100 บาท ..จะพาผมไปเสนอขายหุ้นกับใครได้บ้าง
เที่ยงแล้ว ...ผมตื่นนอน ...เปิดโทรศัพท์...
มี ข้อความขึ้นมาว่า “มีเงิน 250,000 บ.เข้าบ/ช xxxx เหลือ 250,017 บ.” ….
บิงโก..!!
เชี้ยเอ้ย.. เที่ยงนี้ กูขอกระแทกปากด้วย Starbuck สักแก้ว + ครัวซอง สักชิ้น เถอะว่ะ ..!!
ผมกำลังบอกอะไร ?
Creditability = Asset
3
Asset = Cash
โฆษณา