Adidas คือแบรนด์กีฬาสัญชาติเยอรมันที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ 1924 และครองตลาดกีฬามาอย่างยาวนานครับ แต่กว่าจะสามาาถตีตลาดบาสเกตบอลอย่าง NBA ได้ก็เป็นในช่วงปี 1970s ในตอนนั้นนักกีฬาระดับท็อปทุกคนต่างเลือกใช้รองเท้าของ Adidas ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Adrian Dantley, Bob Lanier และ Marques Johnson
2
ส่วน Nike นั้นเป็นแบรนด์กีฬาสัญชาติอเมริกาที่ก่อตั้งในปี 1964 โดย Phil Knight ซึ่งมาช้ากว่า Adidas ถึง 40 ปี และเริ่มต้นด้วยการเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่ง (Running Shoes) เพราะตัว Phil เองเป็นนักวิ่งมาก่อน และผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Bill Bowerman ก็เป็นโค้ชทีมกรีฑาเช่นกัน
*** ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ เพราะเมื่อพูดถึงกีฬาบาสเกตบอลก็ต้องนึกถึงความสูงไว้ก่อนอยู่แล้ว แต่ที่ผิดคือ Adidas น่าจะลืมคิดถึงความสามารถในการกระโดดและลอยตัวในอากาศของ Jordan ไป
1
ประกอบกับในตอนนั้น Adidas ยังมีนักกีฬาจากตำแหน่งเดียวกันกับ Jordan (Shooting Guard) อยู่ในแบรนด์สองคน ซึ่งก็คือระดับตำนานทั้งคู่อย่าง Magic Johnson และ Larry Bird จึงทำให้ความสนใจในตัว Jordan ยิ่งลดน้อยลงไปอีก
7
และนี่คือจังหวะดีที่ Nike เข้ามาเดินเกมเซ็นสัญญากับ Michael Jordan ได้สำเร็จ ซึ่งสามารถเข้ามาตอบโจทย์ของ Jordan ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการทำรองเท้า Signature Shoe รวมไปถึงการที่ให้ Jordan เป็นพรีเซนเตอร์หลักของ Nike ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเติบโตแบบก้าวกระโดด
1
นั่นหมายความว่า Jordan คือเบอร์หนึ่งของ Nike และไม่ต้องคอยอยู่ใต้ร่มเงาของรุ่นพี่อย่าง Kareem, Magic และ Larry
3
8
และนั่นคือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ Nike และ Jordan ครับ แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ Nike ได้ส่ง Tinker Hatfield นักออกแบบรองเท้าฝีมือฉกาจอีกคนมาร่วมงานกับ Jordan ส่งผลให้เกิดรองเท้ายอดนิยมหลายคู่ภายใต้แบรนด์ Nike Air Jordan ที่โด่งดังมาจนถึงปัจจุบันนี้
1
อีกปัจจัยที่ทำให้ Nike และ Jordan ประสบความสำเร็จนั่นคือผลงานในสนามของ Chicago Bulls ที่สามารถคว้าแชมป์ 3 สมัยติดในปี 1991-1993 และทุกครั้งที่ได้แชมป์ Jordan จะสวมรองเท้า Air Jordan รุ่นใหม่เสมอ ยิ่งทำให้ความนิยมเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
และทั้งหมดนี้เองที่เป็นบทเรียนของ Adidas ที่ปล่อยให้ Air Jordan กลายเป็นรองเท้าบาสยอดฮิตซึ่งมีมูลค่าทางการตลาดกว่า 4,000 ล้านบาทอย่างที่เราเห็นนั่นเองครับ
2
ลองคิดดูว่าถ้าตอนนั้น Adidas ตัดสินใจคว้าลายเซ็นของ Jordan มา ถึงแม้สมมุติว่าอาจจะไม่สามารถสร้างแบรนด์ให้ Jordan ได้อย่างที่ Nike ทำ แต่อย่างน้อยก็สามารถกำจัดคู่แข่งและครองตลาดบาสเกตบอลได้นานขึ้น และไม่ต้องเสียรายได้ไปให้กับแบรนด์คู่แข่งอย่าง Nike มูลค่ามหาศาลหลายล้านดอลลาร์ในตลอด 30 ปีที่ผ่านมานี้ด้วยครับ