17 มิ.ย. 2020 เวลา 14:00 • ธุรกิจ
KTC VS AEONTS
ธุรกิจบัตรปรับตัวลงแรง ไหวไหมถามใจเธอดู
ถ้าหากว่าเพื่อนๆได้ติดตามหน้ากระดานหุ้นกันมาตั้งแต่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็จะเห็นว่ามีหุ้นอยู่กลุ่มนึงที่ราคาได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงกันมาต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ จนทำให้เราเกิดความสงสัยว่า
ทำไมหุ้น “บัตรเครดิต” ถูกเทขายกันหนัก ? และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในอุตสาหกรรมนี้ ??
ซึ่งเราก็จะเห็นเลยว่าผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมอย่าง KTC นั้นโดนเทขายกันหนักมาก จากราคา 39 บาทลงมาเหลือ 30 บาทกันด้วยระยะเวลาเพียง 4 วัน และอีกตัวหนึ่งก็คือ AEONTS ที่ราคาร่วงแรงจาก 152 บาทลงมาเป็น 130 บาทกับระยะเวลาที่ 7 วัน
1
หรือเรียกได้ว่าหุ้น KTC ราคาร่วงลงมาถึง 23% และ AEONTS ที่ 14% ในรอบไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์
และเดี๋ยววันนี้เราจะพาไปอัพเดทสถานะการณ์ของหุ้นสองตัวนี้กันทั้งภาพรวมและเจาะลงไปถึงสาเหตุด้วย ว่าราคาหุ้นที่วิ่งผิดปกติเช่นนี้มันเกิดจากประเด็นอะไร
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยครับ...
ถือว่าเป็นหุ้นอีกสองตัวที่ราคาแดงสวนตลาดกันไปเลยทีเดียวกับ KTC และ AEONTS ในสัปดาห์นี้ ซึ่งปัจจัยหลักๆก็มาจากผลกระทบของ Covid-19 อย่างแน่นอน
เนื่องจากว่าหุ้นสองตัวนี้มีลักษณะธุรกิจที่คล้ายกันก็คือเป็นผู้ทำธุรกิจ “บัตรเครดิต” และปล่อยสินเชื่อรายย่อย ทำให้หลายๆคนเกิดความวิตกกังวลว่าในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ผู้คนจะยังสามารถออกไปใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้อยู่อีกหรือไม่ หรือถ้าออกไปได้แล้วจะมีกำลังซื้อกันไหมนั่นเอง
ซึ่งโดยปกติแล้วนั้น การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของคนไทยจะมีอัตราส่วนที่ค่อนข้างหนักไปในหมวดการท่องเที่ยวและอาหารซะเป็นส่วนมาก เมื่อเกิดวิกฤติโควิดที่ส่งผลให้การ Lockdown และการห้ามเดินทางแล้วนั้นก็ถือได้ว่าเป็นปัจจัยลบที่ค่อนข้างไม่ดีสักเท่าไหร่
แต่ก่อนอื่นก็ต้องไปแนะนำบริษัทกันให้รู้จักก่อน ซึ่งหุ้นตัวแรกก็คือ KTC หรือบมจ. บัตรกรุงไทย ผู้ที่เป็นเจ้าของ “บัตรเครดิตกรุงไทย” และนอกจากนี้ยังมีธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันอีกด้วยครับ
KTC มีรายได้หลักๆมาจากธุรกิจบัตรเครดิตอยู่ที่ 60% ที่เหลือก็จะเป็นรายได้จากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลจะอยู่อีก40% นั่นเอง โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KTC ก็คือธนาคารกรุงไทยที่สัดส่วน 49.29% รองลงมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลึกลับ“มงคล ประกิตชัยวัฒนา” ที่ 15.07% และอันดับสามคือคุณฮง “สถาพร งามเรืองพงศ์” ที่ถือหุ้นอยู่ 4.98%
💰รายได้และกำไรย้อนหลังของ KTC
ปี 2560 รายได้ 16,531 ล้านบาท
กำไร 3,304 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 17,713 ล้านบาท
กำไร 5,139 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 18,979 ล้านบาท
กำไร 5,524 ล้านบาท
และล่าสุด ไตรมาส 1 ปี 2563
รายได้ 5,669 ล้านบาท (เติบโต 2%)
กำไร 1,641 ล้านบาท (เติบโต 3%)
ก็จะเห็นได้เลยว่ารายได้และกำไรในช่วงโค้งแรกของ KTC ยังมีการเติบโตอยู่เล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรวมมีการเติบโตขึ้นมา 11% และปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 63 ก็ยังมีการขยายตัวอยู่ถึง 10%
จัดว่าทำผลงานในไตรมาส 1 ไปได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ต่อมาเป็น AEONTS หรือบมจ. อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยที่ใครๆก็ต้องเคยได้ยินชื่อไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อและอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “อิออน” ที่มีต้นสายมาจากบจ. อิออน ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ของประเทศญี่ปุ่น
1
AEONTS เข้ามาตั้งหลักทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2535 ซึ่งโครงสร้างรายได้ของทาง AEONTS ก็จะคล้ายๆกับ KTC แต่จะมีความหลากหลายกว่าเล็กน้อย โดยที่รายได้หลักๆของบริษัทก็จะมาจาก
สินเชื่อส่วนบุคคล 49%
บัตรเครดิต 32%
สินเชื่อเพื่อวัตถุประสงค์ 3%
สินเชื่อเช่าซื้อ 3%
ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AEONTS อันดับ 1 ก็จะเป็นต้นสังกัดอย่าง อิออน ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ที่ 35.12% รองลงมาคือเอซีเอส แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น ในสัดส่วน 19.20% และ อิออน โฮลดิ้งส์ (ไทยแลนด์) อีก 8.80% แต่สำหรับตัวบุคคลก็จะมี “ชัชวาลย์ เจียรวนนท์” ทายาทของเครือซีพีที่ได้ทำการถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 5.88%
💰รายได้และกำไรย้อนหลังของ AEONTS
ปี 2560 รายได้ 17,292 ล้านบาท
กำไร 2,403 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 18,059 ล้านบาท
กำไร 2,966 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 19,877 ล้านบาท
กำไร 3,506 ล้านบาท
และล่าสุด ไตรมาส 4 ปี 62/63 (สิ้นสุด ก.พ.63)
รายได้ 6,165 ล้านบาท (เติบโต 16%)
กำไร 1,056 ล้านบาท (เติบโต 29%)
เรียกได้ว่าในช่วงโค้งแรกของปี 2563 นี้ทาง AEONTS ก็สามารถทำกำไรไปได้ในจำนวนที่สูงสุดตลอดกาล (All time high) ไปแล้วเรียบร้อย โดยที่ปัจจัยหลักๆก็จะมาจากรายได้จากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อเงินกู้ 10% และรายได้จากสินเชื่อเช่าซื้อที่โตขึ้นมาแรงถึง 85% รวมไปถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขาย NPL ออกไปด้วยนั่นเอง
ถือว่ามีฟอร์มร้อนแรงไม่เบากับโค้งแรกในปีนี้
แต่ถึงแม้ว่าผลงานไตรมาส 1 ปี 2563 ของทั้ง KTC และ AEONTS จะยังคงมีการเติบโตอยู่ ทางนักลงทุนก็ยังคงหวั่นใจกับระดับ NPL ที่เพิ่มขึ้นของทั้งคู่อยู่ดี เนื่องจาก NPL ของ KTC ในไตรมาสล่าสุดได้ปรับขึ้นมาเป็น 4.01% (มาตรฐานบัญชี TFRS9) และฝั่งของ AEONTS ที่เพิ่มขึ้นมาที่ 3.49% จาก 3.67% จากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า “ความเสี่ยงจากภาครัฐ” ในเรื่องของมาตรการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการ
หั่นดอกเบี้ยสินเชื่อของ ธปท. (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ลงอีก 1 - 2%
ขยายเวลาของการพักชำระค่างวดและเงินต้น
พักชำระหนี้
เรื่องพวกนี้ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีผลโดยตรงกับหุ้นในกลุ่มสินเชื่ออย่างแน่นอนครับ โดยเฉพาะ KTC ที่มีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจบัตรเครดิตอยู่ถึง 60% ในขณะที่ AEONTS มีอยู่เพียง 32% ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังอัตราส่วนต่างของดอกเบี้ย (NIM) นั่นเอง
แต่ถึงอย่างไรแล้ว “ราคาหุ้น” ของ KTC ก็ถือว่าลงมาค่อนข้างโหดรับข่าวกันไปมากและถ้าลองมองภาพในระยะยาวแล้วนั้น “ปัจจัยพื้นฐาน” ของ KTC นั้นยังไม่ได้เปลื่ยนไปแต่อย่างใด เช่นเดียวกันกับ AEONTS ที่โดนเทกันลงมาอย่างหนัก
สำหรับภาพรวมๆในปีนี้ที่เราได้ลองไปอ่านบทวิเคราะห์ต่างๆในด้านกำไรก็จะพบว่า KTC ถูกคาดไว้ว่ากำไรจะยังสามารถเติบโตได้ดีอยู่ แต่ทาง AEONTS นั้นอาจจะต้องเหนื่อยกันหน่อยกับการตั้งสำรองหนี้เพิ่ม
และนี่ก็เป็นสถานะการณ์ปัจจุบัน รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนเทขาย “หุ้นบัตรเครดิต” กันอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งก็มาจากความไม่มั่นใจในความเสี่ยงจากมาตรการต่างๆ อีกทั้งระดับ NPL และปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรหมก็อาจจะออกมาให้เห็นกันในงบไตรมาส 2 ที่อาจจะส่งผลลบกับราคาหุ้น
ซึ่งถ้าถามกลับมาที่เรา คำถามที่เราควรจะตั้งกับตัวเองก็คือว่าข่าวร้ายในครั้งนี่มันคือ “วิกฤติ” หรือ “โอกาส” กันแน่และคำตอบที่ดีที่สุดก็คงจะอยู่ที่ตัวเพื่อนๆเอง
เนื่องจากการศึกษา ทำความเข้าใจ และการวิเคราะห์ตัวธุรกิจ รวมไปถึงแนวโน้มของบริษัทนั้น เป็นการบ้านที่ทุกคนจะต้องไปทำต่อถ้าหากว่ามีความสนใจในหุ้นตัวไหนๆก็ตาม เพราะขึ้นชื่อว่า “การลงทุน” มันคงจะไม่มีอะไรง่ายดาย
และสำหรับวันนี้พวกเราทีมงาน หุ้นพอร์ทระเบิด ก็คงจะมีสาระความรู้ดีๆมาฝากกันไว้เพียงเท่านี้ แล้วเพื่อนๆล่ะ
คิดว่าราคาหุ้นของทั้งสอง ร่วงลงมาแรงรับข่าวร้ายๆกันไปมากพอหรือยัง ???
เรื่องนี้ก็ต้องมาติดตามกันต่อไป กับ KTC VS AEONTS
ธุรกิจบัตรกำลังปรับตัวลงแรง ไหวไหมต้องไปถามใจเธอดู
สวัสดีครับ...
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ FACEBOOK เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
โฆษณา