15 ก.ค. 2020 เวลา 10:03
Ep.4 เลือกพันธ์ไม้ ตอน 1
ความเดิมในตอนที่แล้ว เราทิ้งท้ายกันไว้ที่การเลือกหุ้นดี ในราคาที่เหมาะสมและถือให้นานที่สุด ที่ต้องเน้น3สิ่งนี้เพราะอย่าลืมนะครับว่ามันคือระยะยาว
ซึ่งไม่สามารถเลือกมาแบบมั่วๆได้ หุ้นบางตัวเปรียบได้กับเม็ดพันธ์ชั้นดี แต่บางตัวก็เปรียบได้กับวัชพืช เรามาดูหลักเกณฑ์อย่างง่ายๆว่าหุ้นดีดูอย่างไรกัน
หวังว่าเพื่อนๆยังจำหลักบัญชีเบื้งต้นกันได้นะครับ
สินทรัพย์(บริษัท) = หนี้สิน(เงินกู้ยืม)+ทุน(เงินจากเจ้าของ)
1.สินทรัพย์รวม ควรเพิ่มขึ้นทุกปี นั่นแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการเติบโต
2.หนี้สิน ควรน้อยกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น (บางธุรกิจหนี้จะมากกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นเพราะธุรกิจเติบโตด้วยการสร้างหนี้ )
3.ส่วนของผู้ถือหุ้นควรเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีกำไรและนำมาสะสมในส่วนทุน
4.รายได้รวม , กำไรสุทธิ , กำไรต่อหุ้น ควรเพิ่มขึ้นทุกปีครับ อาจจะมีเพิ่มบ้างลดบ้าง ขึ้นอยู่กับประเภทของหุ้นด้วย แต่ในระยะยาวควรเพิ่มขึ้น
เรามาลองดูตัวอย่างกันสัก 2 บริษัทที่ทุกๆคนน่าจะพอได้ยินมาบ้างว่าเป็นธุรกิจที่ดี
ตัวอย่างเช่น AOT
ตัวอย่างเช่น BDMS
มีอีกหลายบริษัทมากที่เป็นหุ้นชั้นดี ลองไปหาศึกษาเพิ่มเติมเองได้ครับ ส่วนใหญ่ผมจะเน้นบริษัทขนาดใหญ่โดยคัดมาจาก SET50
เช่น ptt , scc , advanc , cpall เป็นต้น เพราะง่ายต่อการติดตามธุรกิจในชีวิตจริงครับ
ถัดจากหุ้นดีแล้วเราลองมาดูกันบ้างว่าหน้าตาหุ้นวัชพืชเป็นอย่างไรกัน
ไม่สามารถบอกชื่อหุ้นได้
หุ้นวัชพืชนะครับโดยปกติแล้วข้อมูลโดยรวมก็จะตรงข้ามกับหุ้นชั้นดีทุกประการ เช่น
หนี้สินมากกว่าส่วนทุน , รายได้รวมไม่สม่ำเสมอและมีแนวโน้มแย่ลงด้วยซ้ำ , กำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้นติดลบ
ซึ่งหุ้นในลักษณะนี้จะเป็นหุ้นเพื่อการเก็งกำไรครับ ไม่ใช่เพื่อลงทุนระยะยาว
ซึ่งถ้ามองผ่านๆเพียงแค่นี้เราก็สามารถคัดหุ้นแบบเบื้องต้นได้แล้วครับ
โฆษณา