18 มิ.ย. 2020 เวลา 14:23 • ท่องเที่ยว
ได้เวลามองหาที่เที่ยวกันแล้ว จะชวนกันไปเที่ยวแบบ นอนเต้นท์ เดินป่า ชมธรรมชาติที่ภูหลวง ค่ะ
เราออกเดินทางโดยรถตู้สู่จังหวัดเลยเมื่อ 2 ปีก่อน เดือนมีนาคม 2561 โดยผู้จัดมีการติดต่อจองเต้นท์ล่วงหน้ากับทางอุทยาน รถตู้ขึ้นสู่ที่พักได้โดยไม่ต้องเดินขึ้น
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ. เลย มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาใหญ่ แนวเขตเริ่มจากระดับความสูงประมาณ 400 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางยอดเขาที่สูงที่สุดของภูหลวงมีความสูงประมาณ 1,571 เมตร
 
ที่พักที่จองไว้เป็นเต้นท์บ้านขนาดใหญ่พักได้ 4 คน มีห้องน้ำขนาดเล็กอยู่ข้างๆ เต้นท์ ภายในมีที่นอน หมอน และผ้าห่มจัดไว้ให้ เก็บของในเต้นท์แล้วออกเดินเล่นไม่ไกลจากที่พัก
ตกเย็นอากาศจะเย็นลงราว 18 องศา ที่ร้านอาหารสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า อาหารอร่อยใช้ได้ นอนเต้นท์ก็จะยากกว่านอนบ้านตอนเข้าห้องน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นแบบต้มแก็สไม่ค่อยยอมอุ่น ที่นี่มีบ้านพักด้วย แต่นอนเต้นท์ได้รสชาดกว่าเยอะ ตกดึกลมพัดดังเสียงผ้าใบพรึบพรับ อากาศหนาวเย็น ดีนะเตรียมเสื้อหนาวมาเต็มที่
ไก่ฟ้าหลังขาวเดินหากินใกล้ที่พัก
ตื่นเช้ามาเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางอากาศเย็น 10 อาศา กว่าพระอาทิตย์จะขึ้นเต็มก็โพส กดชัตเตอร์รัว ๆ ไป
กลับมาทานอาหารเช้าแล้วเตรียมตัวเดินป่ารอบใหญ่โดยมีเจ้าหน้าที่พาเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แหล่งศึกษาธรรมชาติ เป้าหมายที่ “ผาเตลิ่น” ที่เป็นไฮไลท์ของภูหลวง
ทางแรกไปทาง ผาช้างผ่าน ผาสมเด็จ พรรณไม้ที่ได้เห็น ได้ชิมคือ ส้มสา บ๊วยจีน ผลสดกลมสีเขียวอ่อน ผลสุกสีแดง ผลสดรสเปรี้ยวเล็กน้อยกินแล้วชุ่มคอ
กุหลาบแดง กุหลาบขาว ซึ่งจะขึ้นสลับตามลานหินและมีกล้วยไม้ต่างๆ เช่นเอื้องตาเหิน เอื้องสำเภางาม สิงโตสยาม สร้อยระย้า
กุหลาบขาวตัดกับก้อนเมฆสวยมาก
กุหลาบแดงยังพอมี ก่อนหน้าที่จะมาเจ้าหน้าที่บอกบานเต็มเขาเลย
เอื้องสำเภางาม ส้มแปะ และ สร้อยระย้า
เอื้องตาเหินที่พบได้บ่อยที่นี่ และ สิงโตสยาม
ดอกไม้ พรรณาไม้ขนาดเล็ก ที่สวยงามมากมาย สมกับที่ว่า “ภูหลวง”แดนมหัศจรรย์พรรณไม้
ผาเตลิ่น
แล้วก็มาถึง ผาเตลิ่น ซึ่งถือเป็นผาที่มีวิวเป็นไฮไลท์ของภูหลวงเลยทีเดียว
เราพักทานกลางวัน กินข้าวกล่องที่วิวหลักล้านที่ผาเตลิ่น และเก็บขยะทั้งหมดกลับที่พัก บนนี้ไม่มีห้องน้ำดังนั้นต้องปลดทุกข์แบบในป่า ระหว่างทางเจ้าหน้าที่อธิบายพรรณไม้ต่าง ๆ บอกชื่อจนจำไม่หมด ถ่ายรูป พูดคุยแบบเป็นกันเอง ให้ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่นี้ดีมาก
เดินต่อไปชม “ รอยเท้าไดโนเสาร์ อันซีนไทยแลนด์” กลับที่พักทานอาหารเย็นและกลับเข้านอนคืนที่ 2 แบบอิ่มเอมกับธรรมชาติ
เช้าวันที่ 2 เราเดินป่ารอบเล็ก 4 กิโลเมตรเพราะต้องเดินทางกลับบ้านเย็นนี้ วันนี้ไปชมกล้วยไม้ป่า เส้นทางเดินก็สบาย ๆ มีโหนต้นไม้บ้าง แต่จะเย็นสบายตลอดทาง
กล้วยไม้จิ๋วบนก้อนหิน ขอนไม้ ที่ต้องมองใกล้ ๆ ถึงรู้ว่าเป็นกล้วยไม้ และ กล้วยไม้ป่า รองเท้านารี
การท่องเที่ยวแบบชมธรรมชาติและได้เดินป่าแบบนี้ ทำให้จิตใจเบิกบาน ได้ออกกำลังกายด้วย รู้สึกประทับใจกับภูหลวงจนต้องกลับมาอีกแน่นอน
สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่
โฆษณา