18 มิ.ย. 2020 เวลา 14:41 • ธุรกิจ
คุณคือ แม่ทัพ
1
มีผู้ประกอบการรายหนึ่ง ได้ปรึกษาหุยในเรื่องปัญหาธุรกิจ
เธอเป็นคนที่จิตใจดี และมีความรับผิดชอบสูง เมตตาสูง ใส่ใจในคุณภาพ
แต่ธุรกิจไม่โต และมีปัญหาทีมงานที่ทำงานขาดตกบกพร่องเป็นประจำ
เธอทำงานหนัก เพราะไหนจะทำงานในบทบาทหน้าที่เจ้าของธุรกิจ
ยังต้องมาทำงานที่ลูกน้องขาดตกบกพร่อง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจก็ยากอยู่แล้ว
ยิ่งสภาวะโควิด และเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้าเธอไม่ระวัง จะ "เลือดออก" เพราะความเสียหาย
Mindset ของเจ้าของธุรกิจ และผู้บริหาร ที่หุยอยากฝากไว้ให้คิด
เป็น Mindset ของเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีดังนี้
1) ในสภาวะโควิด หรือวิกฤตขององค์กร คุณไม่ได้เป็นแค่เจ้าของธุรกิจ แต่คุณคือ แม่ทัพ
เป้าหมาย คือ นำกองทัพ (องค์กร) ให้รอด และ พาองค์กรให้ชนะศึก ต้องมีกฎอัยการศึก
มีความเด็ดขาด ในการตัดสินใจ และจัดการ ป้องกันความเสียหาย ถ้าคนในทีม ในกองทัพ
ไม่ทำตาม สิ่งที่วางแผนไว้ โอกาสที่จะพลาดท่า เสียทีจะสูงมาก ดังนั้น กฎกติกา จึงสำคัญมาก
และเมื่อประกาศแล้ว ใครทำผิดพลาด ก็ต้องจัดการตามที่ประกาศไว้ มิฉะนั้น จะคุมทีมยากมาก
3
2) ธุรกิจ คือ ธุรกิจ อย่าเอาอารมณ์ ความรู้สึก ไปผูกพันกับธุรกิจ ธุรกิจนี้ เกิดง่าย ตายง่าย
ดังนั้น อย่าได้รู้สึกผิด ถ้าต้องปิดกิจการ จงรักษาการเงินไว้ให้ดี อย่าได้เสียเงิน ไม่จบสิ้น กับธุรกิจ
ที่มองไม่เห็นอนาคตว่าจะชนะได้อย่างไร
3) อย่าเสียเวลากับทีมงานที่ไม่ Work ถ้าเราให้โอกาสพัฒนาใครแล้ว แล้วเค้ายังไม่มีปัญญาจะทำงานให้ดี
ขอให้คิดว่า มันเป็นปัญหาที่ "สันดาน" ของเค้า เราไม่ใช่พ่อแม่เค้า เราคงแก้เค้ายาก ถ้าสร้างความเสียหาย
ให้องค์กร จงจัดการออกไป อย่าได้เสียเวลากับคนที่ไม่ "ใช่" เพราะงานในฐานะ "แม่ทัพ" ไม่ใช่ เราต้องลงมาทำหน้าที่ "พลทหาร"
4) อย่าเสียเวลากับการให้อภัย แล้วพร่ำบ่น แต่จง ตัดสินใจ ที่จะแก้ปัญหา หรือ "ยอมรับ" ผลที่เกิดขึ้น จากการไม่ตัดสินใจของเรา เราจะได้เอาสมองไปทำงานอย่างอื่น แทนที่จะมาเครียดกับการให้ อภัยของเรา ที่มัน ไม่ได้ทำให้ปัญหาดีขึ้น
5) จุดประสงค์ในการทำธุรกิจ คือ การแสวงหาผลกำไร ต่างจากจุดประสงค์ของการทำมูลนิธิ เพราะรายได้ของมูลนิธิมากจากการรับบริจาค มูลนิธิ มีไว้ช่วยผู้คนที่ด้อยโอกาส แต่ธุรกิจ คือ การเลือกคนที่ใช่ ให้ทำงานให้มีประสิทธิภาพ และส่งมอบผลลัพธ์ให้ลูกค้า ดังนั้น เวลาทำธุรกิจ ต้องคำนึง ถึงความคุ้มค่าในการลงทุน และความคุ้มค่าในการทำงาน
6) เวลาจะช่วยใคร จะบริจาค ทำการกุศล อย่าช่วยเกิน 10% ของรายได้ที่ได้รับ และถ้าเป็นองค์กร ก็จงแบ่ง 10% รับความเสียหาย หรือ บริจาค ช่วยคน
7) จงแบ่งเงิน 10% ในการ พัฒนาตัวเองทุกๆปี ถ้าเป็นองค์กร จงแบ่งอย่างน้อย 10% ในการพัฒนาทีม
8) แบ่งเงิน 20% เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร ลงทุน หรือแบ่งปันผู้ถือหุ้น
ถ้าวางแผนการใช้เงินประมาณนี้ เราจะไม่ช่วยคนอื่นจนเกินตัว จนทำให้เราเดือดร้อน เราจะประมาณตัวได้ ว่า
- เราช่วยคนมากเกินไปหรือเปล่า เพราะช่วยมากไป จนตัวเราไม่เหลือก็เป็นบาปกับตัวเรา
- เราเรียนมากเกินไป หรือเปล่า เพราะบางคนเรียนมากมาย แต่ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ เพราะเรียนมากเกินไป
9) จงอย่ารู่สึก "เสียเกียรติ" ที่จะไปเสนอตัวเองกับลูกค้า
แต่จงรู้สึกละอายใจ ที่ตัวเองไม่ทำหน้าที่ นำเสนอสิ่งที่ดีงามของตัวเองให้ลูกค้าเลือก"
คนที่ไม่ "เสนอขาย" คือ คนที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม
ความจองหอง กับการมีเกียรติ มันดูคล้ายกันมาก แต่มันต่างกันมาก
จงเป็นคนมีเกียรติ แต่อย่าจองหอง
ในสภาวะนี้ เหมือนสภาวะสงคราม เราเป็น "แม่ทัพ" เราต้องนำพาธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ และ Mindset ที่ชัดเจนนะคะ ไม่งั้น ไม่รอด
ใครมีปัญหาคาใจเรื่องพวกนี้ มาคุยได้ค่ะ
โฆษณา