18 มิ.ย. 2020 เวลา 17:49 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
[ความรู้คอมพิวเตอร์ ตอน: การ์ดจอ หรือการ์ดแสดงผล (Graphic Card) กับหน้าที่ในการช่วยประมวลผลกราฟฟิก ที่นับวันราคายิ่งแพงขึ้นไปเรื่อยๆ]
การ์ดจอคืออะไร? หน้าที่ทำอะไร?
ขอเกริ่นก่อนครับว่าภาพหรือกราฟฟิกทุกอย่างที่เราเห็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ล้วนแต่ถูกประมวลผลโดยการ์ดจอทั้งนั้น
ในปัจจุบันเรามีตัวประมวลผลกราฟฟฟิก (GPU) หลักๆ 2 รูปแบบ
1.) รูปแบบฝังไว้ข้างในซีพียู (Integrated Graphics Processing Unit) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “การ์ดจอออนบอร์ด” เป็นชิปที่ถูกอัดใส่มากับตัวซีพียู ไม่ว่าจะของค่ายอินเทล(Intel) ซีพียูทุกรุ่น หรือเอเอ็มดี(AMD) ที่มีรหัส G ลงท้ายเช่น AMD Ryzen 5 3400G
การทำงานนั้นจะสามารถทำได้ในระดับพื้นฐาน แต่ไม่สามารถจะใช้เล่นเกมส์ หรือทำงานกราฟฟิกหนักๆ เพราะมีการออกแบบในพื้นที่ที่จำกัดจึงเกิดปัญหาความร้อนหากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อีกทั้งยังต้องแชร์แรมระบบกับซีพียู ระบบจึงต้องมีแรมเพิ่มขึ้นเพื่อจัดการแบ่งให้การ์ดจออนบอร์ดอีกด้วย
การ์ดจอออนบอร์ด (Integrated Graphics Processing Unit) ของค่าย AMD จาก itigic.com
2.) รูปแบบที่เป็นกราฟฟิกการ์ด (Graphic Card) ภาษาที่เราเข้าใจง่ายๆคือ การ์ดจอแยกนั่นเอง การ์ดจอแยก หรือการ์ดจอนั้นเป็นที่นิยมและถูกพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นมาเป็นอย่างมาก ทั้งตัวชิพ (GPU) ที่มีจำนวนหน่วยประมวลผลเป็นพันๆ แกน, มีแรมแยกให้ใช้ภายในการ์ดจอ ซึ่งไม่แชร์กับระบบอีกต่อไป, ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบระบายความร้อนที่ช่วยให้มีการทำงานที่สเถียรมากยิ่งขึ้น
กราฟฟิกการ์ด (Graphic Card) Nvidia RTX 2080TI จาก www.nvidia.com
ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาเราทั้งหลายก็เริ่มเสพติดความสวยงามของกราฟฟิกซึ่งต้องสมจริง เกมส์ที่เล่นต้องเก็บให้ได้ทุกอนูเม็ดฝุ่น เฟรมเรท (Frame Rate) ต้อง 100 อัพ ยิ่งตอนนี้วงการอีสปอร์ต (E-Sport) นับได้ว่ามีบทบาทต่อวงการคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก จริงจังเกมเมอร์คงเข้าใจกันดีครับ
ทำไมราคากราฟฟิกการ์ดจึงราคาแพง?
มีสาเหตุหลักๆ เลยก็คือ
1. ในช่วงปี 2017-2018 ยุคทองของวงการบิทคอยด์ ที่คนนิยมนำการ์ดจอไปใช้ขุดหาเงินดิจิตอล หรือตระกูลเงินบิทคอยด์ (Bitcoin)
ในการขุดบิตคอยด์นั้น ต้องเน้นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าการ์ดจอคือตัวเลือกที่ดีที่สุด ราคาเลยแพงมาก ทำให้การ์ดจอขาดตลาดไปช่วงนึง หรือถ้ามีก็จะโดนปั่นราคา เหล่าบรรดาเกมส์เมอร์ตอนนั้นจะอัพการ์ดจอทีนึงย่อมคิดเเล้วคิดอีกครับ
ภาพจาก pixabay.com/photos/gold-cryptocurrency-money-finance-3080552/
2. ยิ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ การประมวลผลกราฟฟิกจึงต้องสูงขึ้น ยกตัวอย่าง Nvidia RTX 2080TI ตัวแรงปี 2019 จะมี GPU (Graphic Processing Unit) สูงถึง 4352 แกนประมลผล (Cores) เลยทีเดียว
แรมของการ์ดจอก็ต้องมีประสิทธิภาพที่สูงด้วย เพื่อจะได้รับ-ส่งข้อมูลให้ทัน เลยมีพัฒนาแรมความเร็วสูงอย่าง GDDR RAM มาใช้ ที่เรียกกันว่า VRAM (Video RAM)
ด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ก็เลยแพงไปตามตัวครับ เพราะเเรมบนการ์ดจออย่าง GDDR6 เม็ดแรมรุ่นที่6 สามารถออกแบบช่องทางในการรับ-ส่งข้อมูล (Bandwidth) ที่กว้างมาก ประมาณ 616 GB/s (กิกกะบิตต่อวินาที) จึงทำให้มันสามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงมากที่สุดในตอนนี้
ด้วยเหตุนี้การทำให้การ์ดจอ แรง เร็ว รองรับยุคสมัยที่มีความต้องการการใช้งานด้านกราฟฟิกที่หนักหน่วงขึ้น ราคาเลยแรงย่อมแรงเป็นธรรมดา เราเลยเห็นราคาการ์ดจอรุ่นสูงสุด อย่าง RTX 2080 TI ราคา สูงถึง 49,xxx บาท ขณะเดียวกันสามารถซื้อ CPU Intel Core I9 Gen 9 ราคา 16,xxx บาท ได้ถึง 3 ตัวเลยทีเดียว! แต่แน่หล่ะครับการใช้งานต่างกัน :)
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ หากมีข้อท้วงทิงสามารถแสดงความคิดเห็นด้านล่างได้ครับ
...Khon 1995
โฆษณา