20 มิ.ย. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
aro ทำการตลาดอย่างไร ให้แซงหน้าพาร์ทเนอร์
“aro” หรือ “เอโร่” หนึ่งในแบรนด์สินค้าของห้างสยามแม็คโคร และห้างสยามแม็คโครก็เป็นหนึ่งในธุรกิจค้าส่งของเครือเจริญโภคภัณฑ์
1
รู้ไหมว่าการตลาดของ aro ไม่เพียงแค่ผลิตโปรดักส์แทบทุกชนิดมาวางขายในห้างของตนเอง ซึ่งโดยปกติแล้วสินค้าของแบรนด์ใหญ่ที่ผลิตขึ้น จะต้องมีไม้เด็ดเอาชนะคู่แข่ง แต่ทำไม aro ถึงผลิตสินค้าเพื่อเอาชนะพาร์ทเนอร์ของตนเอง..
แล้วกลยุทธ์ที่ว่าจะน่าสนใจอย่างไร ผู้เขียนจะพาไปหาคำตอบกัน..
Cr. Position magazine
สยามแม็คโครก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 ด้วยทุนจดทะเบียน 750 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 100 แห่ง สร้างเม็ดเงินเข้าบริษัทในแต่ละปี..
ปี 2017 มีรายได้ 185,803 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,178 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 191,997 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,942 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 209,771 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,245 ล้านบาท
และแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา สยามแม็คโครยังคงมีรายได้ที่ไม่หนีไปจากเดิมมากนัก ซึ่งถ้าหากเทียบกับไตรมาสก่อน ๆ จะได้ดังนี้
1
ไตรมาส 3/2019 มีรายได้ 50,785 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,482 ล้านบาท
ไตรมาส 4/2019 มีรายได้ 55,575 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,059 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2020 มีรายได้ 56,148 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,680 ล้านบาท
Cr. Newsplus
แล้วแม็คโครมีรายได้จากช่องทางไหนบ้าง ?
ประการแรก มาจากธุรกิจหลักของบริษัท นั่นก็คือศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิก ซึ่งก็คือห้างแม็คโครที่อยู่กระจายทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ
ประการที่สอง มาจากธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายสินค้าแช่แข็งแช่เย็น ซึ่งจะจัดเก็บและนำส่งสินค้าดังกล่าวผ่านบริษัทย่อย สยามฟูด เซอร์วิส จำกัด ที่สยามแม็คโครถือหุ้นอยู่ 99.9% โดยลูกค้าส่วนใหญ่ก็ได้แก่ ผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหาร กลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารจานด่วน
รวมไปถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับโรงแรมและการบริการนักท่องเที่ยว ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศ
ประการสุดท้าย คือสินค้าที่วางขายอยู่บนตลาด E-Commerce ภายใต้ชื่อ www.makroclick.com
เป็นที่รู้กันดีว่าสินค้าของแม็คโคร มีแทบทุกประเภท เนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ เดินทางมาพร้อมกับการเป็นที่พึ่งของร้านค้าชำ และร้านอาหารทั่วทั้งประเทศ ฉะนั้น จึงมีแบรนด์น้อยใหญ่มากมาย ไว้วางใจนำสินค้ามาวางขายกับแม็คโคร
ในขณะเดียวกัน แม็คโครเองก็มีผลิตภัณฑ์ของตนเองวางขายข้างกับพาร์ทเนอร์เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าหากว่าผู้เขียนเดินเข้าไปซื้อของเข้าครัวสักชิ้น เช่น น้ำตาล ก็จะพบว่า ชั้นวางขายน้ำตาลจะมีแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ ทั้งแบรนด์นำเข้าและแบรนด์ไทยแท้มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือแบรนด์ของแม็คโคร นั่นก็คือ.. aro
และถ้าหาก สังเกตดี ๆ สินค้าของ aro จะมีราคาที่ต่ำกว่าของพาร์ทเนอร์ หรืออยู่ในระดับกลาง ๆ ที่มีแพ็คเกจดึงดูดสายตาอยู่เสมอ
Cr. Brand inside
แน่นอนว่าถ้าหากลูกค้าอย่างเรา ๆ ต้องตัดสินใจซื้อสินค้าเข้าครัวสักอย่าง ก็คงจะดูที่ชื่อแบรนด์เป็นหลัก ถัดจากนั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องราคา ซึ่งราคาที่ถูก มักจะเป็นตัวเลือกที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วอยู่เสมอ
ไม่เพียงแค่นั้น สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของกิจการร้านค้าชำหรือร้านอาหาร หลายท่านก็คงต้องเลือกสินค้าที่มีราคาถูกให้ได้ต้นทุนตั้งตัวในราคาที่ต่ำ เพื่อให้ได้ผลประกอบการที่คุ้มค่าที่สุดอยู่แล้ว
ฉะนั้น จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจ ว่าทำไม aro ถึงสามารถแซงหน้าคู่ค้าของตนเองได้
อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาคร่าว ๆ เป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น ซึ่งกรณีศึกษาในการทำการตลาดของสยามแม็คโคร ไม่ได้เพียงยิงปืนนัดเดียวแล้วได้นกสองตัว แต่นี่คือการทำการตลาดที่ยิงปืนนัดเดียว แล้วได้นกหลายตัว..กว่าที่คิด
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
โฆษณา