20 มิ.ย. 2020 เวลา 05:00 • ไลฟ์สไตล์
รีวิวขับ 'Honda City RS' ความคล่องตัวของคนเมือง
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ฮอนด้าจัดกิจกรรมทดสอบ ซิตี้ ที่เชียงราย ซึ่งผมก็ได้ลองขับประมาณ 100 กม. ในรุ่นรองท็อป คือ SV แต่คราวนี้เป็นการลองรุ่น RS ใช้งานจริงในชีวิตประจำวันดูบ้าง
โดย สินธุ์ชัย ภมรพล SINCHAI@NATIONGROUP.COM I คอลัมน์ Hot Drive I กรุงเทพธุรกิจ
'ฮอนด้า ซิตี้ อาร์เอส' ความคล่องตัวของคนเมือง
ฮอนด้า ซิตี้เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงหลังเปิดตัวไม่นาน เสียดายว่าช่วงเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้ตลาดรถยนต์ร่วงกราวรูด ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เห็น ซิตี้ ไปไกลกว่านี้มาก
ความนิยมต่อซิตี้นั้นมาจากทั้งตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ตัวแรง และโครงสร้างราคา ที่แม้จะว่าจะสูงกว่าคู่แข่งบางรุ่น รวมถึงรถที่เปิดในเวลาใกล้เคียงกันและใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ เช่นกันอย่างนิสสัน อัลเมร่าก็ตาม
แต่การได้สิทธิพิเศษด้านภาษีจาก โครงการ อีโค คาร์ เฟส 2 ก็ทำให้มันมีราคาต่ำกว่า ซิตี้ โฉมก่อนหน้า ที่เป็นรถในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าในระดับเพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คน
ครั้งที่ไปลองขับ ที่เชียงราย ผมสรปได้ว่าประทับใจกับสมรรถนะเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่ทำได้ดี ขับสนุก และยังสรุปอีกว่าในรุ่น เอสวี ซึ่งราคาถูกกว่าตัวท็อป คือ อาร์เอส 7.4 หมื่นบาทนี้ สำหรับใครที่ต้องการประหยัดเงินไม่น้อย ก็เล่นได้แล้ว ไม่ผิดหวัง
ครั้งนั้นเป็นการขับรวดเดียว ใช้เวลาไม่นานนักก็จบ แต่ด้วยความที่เป็นรถที่ผู้คนสนใจ และการเป็นซิตี้ คาร์ ผมก็เลยจัดมาลองการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกรอบ และคราวนี้เลือกตัวท็อป อาร์เอส ค่าตัว 7.39 แสนบาท และใช้งานกันยาวๆ เป็นการใช้งานในกรุงเทพฯ และชานเมืองกว่า 300 กม. และออกไปต่างจังหวัดบ้าง อย่างสุพรรณบุรี เพื่อดูว่ามันเป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือไม่
ซิตี้ อาร์เอส มีรูปทรงที่ดูบึกบึน และฮอนด้า พยายามเติมอารมณ์สปอร์ตเข้าไปในหลายๆส่วน กับชุดแต่งอาร์เอสรอบคัน ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน และไฟตัดหมอก แอลอีดี ไฟท้ายแอลอีดี กระจังหน้าโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม
กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และตัวถัง สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) ซึ่งมีเฉพาะรุ่น RS เท่านั้น
ตัวถังสีแดงอิกไนต์ (Ignite Red)
ภายในออกแบบโดยใช้แนวเส้นตรงของคอนโซลหน้าเป็นตัวคุมอารมณ์หลัก ลากยาวจรดด้านซ้าย-ขวา และแต่งเติมลูกเล่นเข้าไปผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งคอนโซลหน้าเหมือนกับเอาจิ๊กซอว์หลายๆชิ้นมาต่อกัน อารมณ์แบบแยกชิ้นน่าจะขัดกัน แต่กลายเป็นว่าเมื่อรวมกันแล้วดูดี มอนิเตอร์เหลี่ยม ช่องแอร์แนวตั้งและซ่อนเหลี่ยมไว้ด้านใน ลงมาด้านล่างปุ่มควบคุมแอร์เป็นแบบกลม
มาตรวัดเรือแสงคุมด้วยสีแดง ทั้งแสงโดยรอบและเข็ม สอดรับไปกับรอบปุ่มแอร์ที่ใช้แสงสีแดงเช่นกัน ล้อไปขับด้ายเย็บเบาะและพวงมาลัยที่เป็นสีแดงได้ดี คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มีสะท้อนขึ้นกระจกหน้าเล็กน้อย และน้อยกว่ารถหลายๆ รุ่น ไม่รบกวนการขับขี่
ใช้วัสดุสัมผัสนุ่ม หรือ ซอฟท์ทัช หลายตำหน่ง เช่น ที่พักแขนตรงบานประตู กลองเก็บของตรงกลาง ซึ่งใช้เป็นที่พักแขนเพิ่มความสบายได้
อาร์เอส มีออปชั่นที่ใส่เข้ามา เช่น ฮอนด้า คอนเนคท์ เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อรถยนต์ และทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ มี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก
ภายในด้านหน้า
เช่น ประวัติการเข้ารับบริการ บันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงพฤติกรรมการขับขี่ ไวไฟ ให้เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากรถยนต์ พร้อมกันสูงสุด 5 อุปกรณ์ AIRBAG DEPLOYMENTเมื่อถุงลมทำงาน H จะส่งสัญญาณแจ้งผู้ใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชันทันที และส่งข้อความสั้นไปยังเบอร์ติดต่อฉุกเฉินนอกจากนี้ระบบจะส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าฮอนด้า เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น ระบบแจ้งสถานะเมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก สั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมดรวมถึงฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงท้าย สั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ สั่งดับเครื่องยนต์ สั่งเปิดสัญญาณไฟทั้งไฟหน้าและไฟท้าย กำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และการตรวจสอบพิกัดรถยนต์ อีกด้วย
จุดเด่นด้านสมรรถนะ บวกกับตัวรถที่มีขนาดกะทัดรัด ช่วยให้มีความคล่องตัวในเมืองที่การจราจรหนาแน่นสูง การปรับเปลี่ยนความเร็วบ่อยครั้งและรวดเร็วควบคู่ไปกับการเปลี่ยนช่องทางไปมา นั่นยิ่งทำให้ซิตี้มีความโดดเด่นมากขึ้น เปลี่ยนช่องจราจรพร้อมเติมคันเร่ง รถพุ่งไปข้างหน้าสบายๆ ไม่ต้องกลัวว่ารถที่มาด้านหลังจะบีบแตรไล่ หรือยกไฟสูงใส่แต่อย่างใด
เกียร์ซีวีที ก็ทำงานได้รวดเร็วกับการเปลี่ยนความเร็วขึ้น-ลง บ่อยครั้ง มากกว่าการขับขี่นอกเมือง
ช่วงล่างของซิตี้ ด้านหน้า เป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่น บีม ยางสำหรับเอสวีที่อลงที่เชียงราย 185/60 R15 แต่อาร์เอสที่อยู่ในมือตอนนี้่ใช้ยางขนาด 185/55 R16
ความรู้สึกไม่ต่างกันนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยึดเกาะถนน หรือว่าความนุ่มความกระด้าง รองรับการทำงานได้ดีทั้งคู่
ต้องยอมรับว่าเบาะนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ทำได้ดี เนื้อเบาะแข็งแต่นั่งสบาย จะมีติบ้างเล็กน้อย หรือจะมองข้ามไปก็ได้ก็คือ อยากได้เบาะที่ยาวขึ้นอีกเล็กน้อย ไปถึงใกล้ๆ ข้อพับ ซึ่งน่าจะทำให้นั่งได้สบายขึ้นไปอีก
ส่วนด้านหลังกว้างอย่างเหลือเชื่อครับ นั่งสบาย พื้นที่ช่วงเข่าและที่วางเท้ามีที่ว่างเหลือเฟือ และตรงกลางดึงลงมาเป็นที่พักแขนพร้อมที่วางแก้วเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
ตำแหน่งการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ทำได้ดี อยู่ในตำแหน่งที่ถนัดมือ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ ได้สะดวก และก็มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ ครูส คอนโทรล ให้ใช้งาน แต่ในเขตเมืองไม่เหมาะสักเท่าไร เพราะไม่ได้เป็นแบบอแอปทีฟ ครูส คอนโทรล ที่จะรักษาระยะห่างจากคันหน้า และที่ด้านหลังมีแพดเดิลชิฟท์ เผื่อใครอยากจะเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เย็นได้ใจคนขับรถหน้าร้อนทีเดียว แม้จะปรับไปอยู่ที่ 26 องศา ก็ยังรู้สึกเย็น
แต่ช่องแอร์ที่คอนโซลหน้าคู่กลางที่อยู่ซ้าย-ขวา ของมอนิเตอร์ การปรับทิศทางลมยังไม่ถูกใจนัก เพราะหากจะปรับให้เป่าไปให้คนที่นั่งเบาะหลัง ซึ่งไม่มีช่องแอร์ ปรับยังไงก็ไม่พ้นที่ลมเย็นจะมาโดนคนนั่งด้านหน้าอยู่ดี ก็ต้องวิธีปรับสูงขึ้น ให้ลมมันลอยข้ามไหล่ไป
โดยรวมๆ แล้ว การใช้งาน ซิตี้ 567 กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15 กม./ลิตร กับรูปแบบการขับ การจราจร ผมว่าน่าพอใจ และเมื่อมองรวมๆ ทั้งหมด สอบผ่านสำหรับการเป็นซิตี้ คาร์ สบายๆ ครับ
อ่านข่าวรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา