คำแนะนำของกุนซือ
มาเรียนรู้การทำงานของโค้ช ผ่านกุนซือในตำนานกัน
ชายขายเสื่อผู้ยากจน พระเจ้าอาหางแถว ผู้ไม่มีกองทัพ
ไม่มีเงิน มีแต่นิสัยที่ดีงามคือ อ่อนน้อมถ่อมตน ซื่อสัตย์
ผู้ที่มือประสานสิบทิศ (พนมมือไหว้สิบทิศ) ได้กลายมาเป็นฮ่องเต้
หนึ่งในสามก๊ก ก่อนที่ประเทศจีนจะรวมเป็นหนึ่ง
เล่าปี่ มีโอกาศเช่นนี้ เพราะเขา มี โค้ช คือ ขงเบ้ง
ขงเบ้งไม่ได้เป็นเพียง เมนทอร์ หรือ ผู้ให้คำปรึกษา แต่เป็นโค้ชที่เก่งกาจ
นำพาชายขายเสื่อ กลายเป็นฮ่องเต้ รวบรวมก๊กได้
ก่อนที่ขงเบ้งจะให้คำปรึกษาอะไร เขาศึกษาข้อมูลละเอียดมาก
สถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร กองกำลังของข้าศึกมีกี่แสน
มาในทิศทางไหน ใครเป็นแม่ทัพ แม่ทัพนิสัยเป็นอย่างไร
ไพร่พล เป็นใครมาจากไหนบ้าง และมีจุดอ่อน หรือมีปัญหาอะไรในกองทัพของข้าศึก
ชัยภูมิเป็นอย่างไร มีภูเขาอยู่ตรงไหน มีลำธารที่ไหน เสบียงอยู่ที่ไหน ทิศทางลม ฤดูกาล
ในฤดูกาลนี้ลมมาทางไหน แดดมาทางไหน
และวิเคราะห์ประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบของตัวเอง
ก่อนวางแผนการรบ วางตัวแม่ทัพ กำลังและกลยุทธ์
ในการวางแผนที่สร้างพันธมิตร
ขงเบ้ง ก็วิเคราะห์ จุดแกร่ง นิสัย ความกังวล ความต้องการของผู้นั้นไว้ครบ
เพื่อที่จะออกแบบ OFFER ที่ปฎิเสธไม่ได้
สิ่งที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งวิธีการทำงานร่วมกัน
เพื่อให้แผนสำเร็จ รวมทั้งวางตัวคนและวิธีการนำเสนออย่างเด็ดขาด
หลายๆครั้ง ขงเบ้งต้องเป็นคนลงมือเจรจาเอง นำทัพเอง
เพื่อเป็นต้นแบบ เป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นดู และทำตาม
ขงเบ้งได้รับการยอมรับอย่างสูง จากทีมของเล่าปี่
เพราะผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย
และนำพาก๊วนเล็กๆ กลายเป็นหนึ่งใน สามก๊กที่เกรียงไกร
เพื่อนๆ ผู้อ่าน ได้เรียนรู้อะไรจากการเป็น โค้ชในตำนานของขงเบ้งบ้าง
การเป็นโค้ชที่จะสร้างผลลัพธ์ ต้องลงสนามเองได้
ไม่เพียงแต่มีความรู้ แต่ต้องมีทักษะและประสบการณ์
การคิดวิเคราะห์ การมองเกม อ่านคนได้เด็ดขาด
นอกเหนือจากการให้คำแนะนำ ยังต้องสามารถแก้สถานการณ์ได้ด้วย
หลายต่อหลายครั้ง ขงเบ้งต้องเป็น "นักแสดง"
สวมบทบาทต่างๆ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ
เพราะในการโค้ชคนต่างๆนั้น
ต้องแสดงบทบาทที่เหมาะสม เพื่อสามารถเชื่อมต่อ Connect กับคนๆนั้นได้
ต้องมีความยืดหยุ่นทางความคิด
และเปิดกว้างในการเรียนรู้ และรับฟังความคิดเห็นและข้อมูล
เมื่อเรียนรู้ รับฟัง แล้วต้องนำมาไตร่ตรอง แล้ววางแผน
และลงมือทำเป็นต้นแบบที่ดี
แต่ก่อนมาเป็นโค้ช หุยไม่ค่อยเข้าใจ ดูผ่านๆ
แต่เมื่อมาเป็นโค้ช จึงเข้าใจว่า การเป็นโค้ชที่สร้างผลลัพธ์
ต้องพัฒนาตัวเองเยอะมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง See the battle field หรือการอ่านสนามรบให้ขาด
เป็นสิ่งที่ Mark Joyner ได้พูดเอาไว้
ธุรกิจในยามนี้ เหมือนอยู่ในศึกสงคราม
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกตอนนี้ ว่ากันว่า ในรอบ 100 ปีมีครั้งเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกและเศรษฐกิจตอนนี้ ไม่มีใครเคยประสบมาก่อน
ดังนั้น การติดตามวิเคราะห์ข้อมูล และการอ่านเกมให้ขาด
มันคือ ความท้าทายสูงสุดที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ
คือเราต้องเลือกทำงานกับคนที่ "ใช่"
เพราะในสามก๊กนั้น มีกุนซือระดับเทพๆหลายคน
ที่สุดท้ายก็ล้มเหลว
เพราะทำงานกับคนที่ "ไม่ใช่"
- 33
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
