21 มิ.ย. 2020 เวลา 12:29 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
จุดกำเนิด Honda motor
วันนี้ Together จะมาทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของฮอนด้ามอเตอร์และมาทำความรู้จักกับชายที่ชื่อโชอิจิโร่ ฮอนดะ ผู้ก่อตั้ง Honda ที่ฝ่าฟันปัญหาวิกฤตอันหนักหน่วงจนทำให้ Honda motor ยิ่งใหญ่มาถึงวันนี้กันครับ
โชอิจิโร่ ฮอนดะ มนุษย์ที่สร้างประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมญี่ปุ่นผู้ก่อตั้ง Honda บุคคลที่มีความสำคัญต่อยานยนต์กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โรงงานโดนระเบิดไปถึง 2 ครั้งจนซ่อมไม่ไหวเขาต้องขายกิจการไปและเสียใจจนกลายเป็นไอ้ขี้เมาอยู่ 1 ปีเต็ม จะเรียกสติกลับคืนมาใหม่ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการสร้างมอเตอร์ไซค์สำหรับคนทั้งประเทศการเป็นแบรนด์อันดับ 2 ของญี่ปุ่นและอันดับที่ 26 ของโลกทำให้ชื่อของเขาถูกจารึกในทำเนียบปูชนียบุคคลยานยนต์โลก (Automated Hall of Frame) ที่นับว่าเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้
โชอิจิโร่เกิดวันที่ 17 พฤศจิกายนปี 1906 เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีอาชีพเป็นช่างตีเหล็กและซ่อมจักรยานเก่าขายเขาเป็นเด็กที่มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนมีโอกาสคลุกคลีกับเครื่องยนต์กลไกเนื่องจากเขาช่วยพ่อเขาซ่อมจักรยานตั้งแต่เด็กจนทำให้เขามีพื้นฐานทางด้านวิศวกรรมที่ดี
โชอิจิโร่ เป็นเด็กที่เรียนหนังสือไม่ค่อยเก่งเพราะไม่ชอบการอ่านและเขียนในตำราแต่เขามีฝีมือในด้านสร้างสรรค์งานประดิษฐ์จึงทำให้เขาตัดสินใจเลิกเรียนหนังสือตอนอายุ 15 ปีและเข้าโตเกียวเพื่อหางานทำเขาได้สมัครงานที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งแต่กลับเพราะว่าได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กของเจ้าของอู่ซะงั้นแต่พอเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเขาก็ได้เป็นลูกมือของช่างซ่อมเครื่องยนต์
หลังจากที่ทำงานอยู่ที่อู่นี้เป็นเวลาประมาณ 6 ปีเศษในวัย 21 ปีก็ตัดสินใจกลับไปที่บ้านเกิดและได้ไปเป็นตัวแทนเปิดอู่สาขาย่อยที่จังหวัดฮามามัสสึจนกระทั่งในปี 1936 เขาได้ก่อตั้งบริษัท โตไก เซอิคิ ผลิตและส่งวงแหวนลูกสูบให้บริษัทโตโยต้าแล้วทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดีจนกระทั่งเขาประสบอุบัติเหตุระหว่างที่เขาแข่งรถซึ่งเขาต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 เดือนเต็มแถมยังได้รับข่าวร้ายจากบริษัทของเขาว่าลูกสูบล็อตแรก 30,000 ชิ้นที่ส่งให้ Toyota ตรวจสอบเพียง 50 ชิ้นกลับพบว่ามีชิ้นส่วนที่ผ่านมาตรฐานของโรงงานเพียง 3 ชิ้นเท่านั้น (เรียกได้ว่ามาตรฐานการผลิตของเขาอยู่ที่ 0.01% ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากๆ)
สาเหตุความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เนื่องจากการที่เขานั้นเป็นคนมีอคติกับความรู้ในตำราหนังสือเรียนรู้และทฤษฎีต่างๆจนเขาตัดสินใจเข้ามาเรียนภาคค่ำที่ฮามามัตสึเกี่ยวกับลูกสูบอีกครั้งเพื่อเรียนรู้การควบคุมคุณภาพการผลิตให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้นจนในที่สุดกลับมาบริหารโรงงานใหม่และสามารถผลิตลูกสูบปริมาณมากและเป็นที่ยอมรับจากโตโยต้าได้ในที่สุด
อนาคตของบริษัทเขากำลังรุ่งแต่ก็ดันมาเจอกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้บริษัทของเขาโดนระเบิดลงถึง 2 ครั้งโดยครั้งแรกพอซ่อมโรงงานได้บ้างแต่ครั้งที่สองโรงงานของเขาเสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้หลังจากนั้นเขาเองจึงตัดสินใจขายบริษัทให้กับโตโยต้าในราคาสี่แสนห้าหมื่นเยนหลังจากขายเขาก็จมอยู่กับความเศร้ากลายเป็นไอ้ขี้เมาอยู่เกือบปี
หลังจากนั้นเนื่องจากญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้สงครามทำให้ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้อย่างหนักให้กับญี่ปุ่นหลังจากนั้นประเทศญี่ปุ่นเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันทำให้การสัญจรไปมาต้องใช้การเดินเท้าไม่ก็ใช้จักรยานซะเป็นส่วนใหญ่นั่นจึงทำให้เขาใช้โอกาสนี้ลองผลิตเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบง่ายๆด้วยการนำเอากาต้มน้ำร้อนที่ทำมาจากอัลลอยและดัดแปลงเป็นถังน้ำมันขนาดเล็กแล้วตัดต่อเข้ากับเครื่องยนต์เพื่อให้ภรรยาได้ใช้จนเพื่อนบ้านในละแวกนั้นต่างเข้ามาขอให้เขาทำให้บ้างจนเริ่มมองเห็นสู่ทางในการสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมา
จนกระทั่งในปี 1947 บริษัทฮอนด้ามอเตอร์ได้ถือกำเนิดขึ้นและสร้างจักรยานยนต์รุ่นแรกที่ชื่อว่า honda dream สามารถสร้างยอดขายได้ถล่มทลายส่งผลให้ 2 ปีต่อมาบริษัทของเขาการเป็นบริษัทที่ผลิตจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเติบโตระดับโลกในการส่งออกรถรุ่น Super cub ทำให้บริษัทฮอนด้ามอเตอร์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดโลก
เริ่มมีชาวต่างชาติมาติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างมากมายจึงเริ่มขยายฐานกำลังผลิตซึ่งในปี 1961 สามารถผลิตรถจักรยานยนต์ได้เป็นจำนวนหนึ่งแสนคันต่อเดือนและในปี 1968 สามารถผลิตได้ถึงหนึ่งล้านคันต่อเดือนทำให้เขากินส่วนแบ่งในตลาดได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ในปี 1973 เขาทำตามความฝันวัยเด็กโดยการ ที่เขานำเครื่องยนต์มลพิษต่ำไปผลิตรถยนต์รุ่น Honda civic ซึ่งการผลิตรถยนต์นั้นเป็นความฝันวัยเด็กของเขาและประจวบเหมาะกับช่วงที่กำลังเกิดวิกฤตน้ำมันแพงทำให้ Honda civic รถยนต์คันแรกของเขาได้รับรางวัลรถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่สุดในโลกสมัยนั้นจนได้รับการยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลยานยนต์โลกที่นับว่าเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้
ในที่สุดช่วงต้นของปี 80 เขาสามารถนำพาให้ Honda กลายเป็น top 3 ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นได้และและช่วงปลายปี 80 บริษัทฮอนด้าก็กลายเป็น top 3 ของโลกได้ในที่สุด
โชอิจิโร่ ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมปี 1991 ในวัย 85 ปีอย่างสงบ เขาได้สร้างสิ่งประดิษฐ์กว่า 470 ชิ้นและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรอีกกว่า 150 ฉบับและสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์หรือเราราวๆ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
และนี่เป็นประวัติความเป็นมาของชายที่ก่อตั้ง Honda ที่สามารถทำให้บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ของโลกได้ในที่สุดแล้วจะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจโปรดติดตามกันต่อไปครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามบทความของเรามาจนจบและขออภัยถ้าข้อมูลบางอย่างอาจขาดตกบกพร่องหรือผิดพลาดไป
ขอความกรุณาถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนผู้อ่านสามารถติชมแนะแนวได้ครับขอบคุณครับเพื่อแชร์ความรู้ด้วยกันต่อไปนะครับ😊🙏
โฆษณา