22 มิ.ย. 2020 เวลา 01:40 • บันเทิง
เสก โลโซ ถือเป็นศิลปินไทยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถขึ้นแสดงในเวทีใหญ่ระดับโลกอย่าง Glastonbury Festival
รวมไปถึงการได้ร่วมงานกับ "โอเวน มอริส" หนึ่งในโปรดิวเซอร์ที่ดีที่สุดในโลก
ทั้งหมดนี้ "เสก โลโซ" ทำได้อย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังแบบละเอียดยิบกัน
"Glastonbury Music Festival" เป็นเทศกาลดนตรีเก่าแก่ของอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 1970 เทศกาลแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 900 ไร่ จัดขึ้นที่เมืองซัมเมอร์เซ็ท ในเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยในแต่ละปีมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่าแสนคน
ว่ากันว่าวงดนตรีที่จะมาเล่นที่นี่ได้ ต้องเข้าขั้นระดับบิ๊กเนม หรือไม่ก็เป็นวงที่มีชื่อเสียงและเจ๋งจริงๆ เท่านั้น ถึงจะเข้ามาแสดงฝีมือต่อหน้าคนดูนับแสนคนได้
เพราะงานนี้ถือเป็นงานใหญ่ระดับโลก ศิลปินคนไหนๆ ก็อยากมาเล่น
ไม่ว่าจะเป็น Kendrick Lamar, Paul McCartney, Taylor Swift, Foo Fighters, Radiohead, Ed Sheeran และอีกสารพัดศิลปินในระดับโลก
ดังนั้น ในแวดวงนักดนตรีจึงเป็นที่รู้กันดีว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะถูกรับเชิญให้มาเล่นในงานนี้ เพราะสเกลของงานมันใหญ่จริงๆ
แต่ใครจะไปรู้ล่ะครับ ว่าครั้งหนึ่ง "เสก โลโซ" ศิลปินขาร็อคแห่งเมืองไทย จะได้มีโอกาสไปเหยียบเทศงานดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดนี้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!!
หากย้อนกลับไปในยุค 90 เสก โลโซ ถือเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากๆ ผลงานของเขาแค่อัลบั้มโลโซ Entertainment เพียงอัลบั้มเดียว ก็มียอดขายทะลุกว่า 2 ล้านแผ่นแล้ว ทิ้งห่างเพื่อนศิลปินร่วมรุ่นแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะการทำให้ยอดขายขึ้นล้านแผ่นถือเป็นเรื่องที่ยากมากในยุคนั้น
ด้วยความสำเร็จจากผลงานทั้งหมดในประเทศที่มากมายขนาดนี้ จึงทำให้เสกค่อยๆ เป็นที่รู้จักแก่ชาวต่างชาติ
จนในที่สุดจุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ในต่างแดนก็มาถึง
จุดเริ่มต้นในครั้งนั้น เริ่มจากการทำอัลบั้มสากลซึ่งเป็นสิ่งที่เสกใฝ่ฝันมาตลอด
เสกทำเพลงสากลเป็นตัวเดโมในแบบที่ยังไม่สมบูรณ์ ก่อนที่มันจะไปถึงหูของโอเวน มอริส โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษที่ทำผลงานยอดเยี่ยมไว้กับวง oasis
โอเวน มอริส เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวง oasis จากอัลบั้ม What’s the story morning glory
อัลบั้มนี้ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักรนานถึง 10 สัปดาห์ รวมถึงขึ้นเป็นอันดับสี่บนบิลบอร์ด 200 ของสหรัฐ และทำยอดขายไปกว่า 22 ล้านชุดทั่วโลก ขึ้นแท่นเป็น "อัลบั้มเพลงอังกฤษที่ดีที่สุด"
1
ผลงานมาสเตอร์พีซขนาดนี้ การันตีได้เลยว่ามอริสเป็นโปรดิวเซอร์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ และแน่นอนว่าโปรดิวเซอร์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ คงไม่ง่ายเลยที่ใครจะมีโอกาสได้ร่วมงานด้วย
แต่กับเสก โลโซ มอริสอาสามาเป็นโปรดิวเซอร์ให้เลย เพราะลีลาลวดลายในสไตล์ร็อคแอนด์โรลที่ผสมกับความเป็นอัลเทอร์เนทีฟ มันสะดุดตามากๆ จนสร้างความประทับใจให้กับมอริสตั้งแต่แรกเห็น
มอริสแม้จะมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงไว้กับ oasis แต่พอมาเห็นผลงานของเสกแบบนี้ ก็อยากจะร่วมงานด้วย ทั้งคู่จึงตกลงทำอัลบั้มใหม่ร่วมกันในชื่อ For God’s Sake
หลังจากตกลงทำงานร่วมกันแล้ว เสกก็ได้ทำงานกับมอริสที่ประเทศอังกฤษ และได้มีโอกาสร่วมงานกับนักดนตรีระดับโลกขณะซุ่มทำอัลบั้มอยู่หลายคน
โดยในระหว่างการทำอัลบั้ม เสกถูกรับเชิญให้ไปทัวร์คอนเสิร์ตหลายที่ หนึ่งในนั้นคืองานเทศกาลดนตรีอย่าง south by southwest (sxsw) ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในงานนั้น เสก โลโซ ทำการตะบันกีตาร์โชว์แบบสดๆ จนสร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ชมมากๆ
การแสดงของเขาถูกพูดถึงไปทั่ว จนนิตยสาร Rolling Stones นำการแสดงของเสกไปเขียนลงคอลัมน์ จากศิลปินที่คัดมาจากงาน sxsw ทั้งหมด 1,600 วง คัดมาเขียนแค่ 15 คน โดยคนแรกของงานเขียนคอลัมน์นั้น คือ เสก โลโซ ศิลปินจากเมืองไทย
1
มาถึงตรงนี้ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เสก เริ่มเป็นที่พูดถึงของชาวต่างชาติมากขึ้น ผลงานของเขากำลังแพร่หลาย แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่จุดหมายปลายทางซะทีเดียว เพราะมันพึ่งเป็น "การเริ่มต้น" เท่านั้น
งาน sxsw
หลังจากการแสดงที่งาน south by southwest ชื่อเสียงของเสกกำลังอยู่ในขาขึ้น ผลงานของเขาเริ่มได้รับการบอกต่อ จนกระทั่งมันไปถึงหูไมเคิล อีฟ ผู้ก่อตั้งงาน Glastonbury Music Festival ที่มาเห็นผลงานบางส่วนของเสกเข้า
6
สิ่งแรกที่เขาสัมผัสได้เลย คือความประทับใจในแนวเพลงแบบร็อคแอนด์โรลผสมกับความเป็นอัลเทอร์เนทีฟของเสก ที่มันดูเป็นเอกลักษณ์มากๆ คือฟังแล้วรู้เลยว่านี้คืองานของเสก โลโซ
9
แต่ก่อนที่ไมเคิล อีฟ จะได้ฟังผลงานของเสกนั้น เขามีแพลนจะจัดงาน Glastonbury Music Festival ประจำปี 2005 ซึ่งในการจัดงานดนตรีแบบนี้ เขาต้องเตรียมไลน์อัพศิลปินไปประจำแต่ละสเตจ
4
โดยสเตจหลักคือเวทีพีระมิด ส่วนที่เหลือจะเป็นเวทีย่อยไว้สำหรับศิลปินที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีฝีมือเจ๋งๆ ได้ออกมาปล่อยของกัน
ดังนั้น มันจึงเป็นเวลาเหมาะเจาะพอดีที่ไมเคิลได้ฟังเพลงของเสก แล้วนึกไอเดียที่จะชวนเสกมาเล่นงานนี้ด้วย เพราะเขาก็ไม่ต่างอะไรกับมอริส ที่เพียงได้ฟังผลงานของเสกครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจและอยากจะร่วมงานด้วยในทันที
เมื่อเป็นอย่างนี้ มีหรือที่คนอย่างเสกจะปฏิเสธได้ เพราะสำหรับนักดนตรีแล้ว การได้เล่นในงานใหญ่ระดับโลกแบบนี้ มันเหมือนกับ "ฝันที่เป็นจริง"
เสก โลโซ ถูกรับเชิญให้ไปเล่นในงาน Glastonbury Music Festival ประจำปี 2005 เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดกัน 3 วัน 3 คืนเต็ม
กลับมาที่ประเทศไทย ขณะนี้ข่าวการขึ้นเล่นคอนเสิร์ตของเสก ที่ Glastonbury สร้างความฮือฮาไปทั่ว เพราะเสกถือเป็นศิลปินคนแรกที่ได้ขึ้นไปเล่นในงานระดับโลกที่ใหญ่ขนาดนี้
ภาพจาก Siamzone
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เปิดแถลงข่าวโปรเจ็กต์ “เสก โลโซ เดอะโรด ทู กลาสตันเบอรี่ เฟสติวัล” เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเสก พร้อมกับเปิดตัวแบ็คอัพชุดใหม่
โดยแบ็คอัพในครั้งนั้น เป็นนักดนตรีชาวต่างชาติล้วนๆ แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น พอล โบนเฮด อาร์เธอร์ส (อดีตสมาชิกวงโอเอซิส) ,อีริค ลาวองซ์ (กลอง),ร็อบ ฮัดสัน (เบส) และทิม คาร์ (ผู้จัดการ)
หลังจากการแถลงข่าวสิ้นสุดลง เสกบินไปที่อังกฤษเพื่อเตรียมขึ้นเล่นในงาน Glastonbury Music Festival ประจำปี 2005 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24-26 มิถุนายน
ในปีนั้นมีศิลปินชื่อดังที่เข้าร่วมได้แก่ The Who, Coldplay, The White Stripes และอีกหลายวงซึ่งรวมไปถึงเสกด้วย โดยกำหนดการของเสกคือ วันที่ 26 มิถุนายน เวที John Peel Stage
ก่อนขึ้นโชว์ เสกเตรียมลิสต์เพลงสำหรับการแสดงไว้ราวๆ สิบเพลง จากอัลบัม For God’s Sake พร้อมกับเซ็ตเวทีด้วยการนำพวงมาลัยไปแขวนไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อให้บรรยากาศดูเป็นไทยๆ ในสไตล์ของเสก โลโซ
เวที John Peel Stage
26 มิถุนายน 2548 เสกตื่น 7 โมงเช้า แล้วนั่งรถไปที่งานกลาสตันเบอร์รี่ ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงลานเทศกาลดนตรี
เสกลงจากรถแล้วตรงไปที่หลังเวที John Peel Stage ในขณะที่วงแรกกำลังเล่นคือวง Suker
ตอนนี้เสก และสมาชิกคนอื่นๆ สแตนบายรออยู่หลังเวทีแล้ว เวลาการแสดงของพวกเขามี 40 นาที เริ่มตั้งแต่ 11.40 - 12.20 นาฬิกา
เสกแสตนบายรอราวๆ 2-3 ชั่วโมง ในที่สุดวงแรกก็เล่นเสร็จ ตอนนี้พวกเขามีเวลา 20 นาทีในการเซ็ตเครื่องดนตรี แล้วจากนั้นจะเป็นเวลาของเสก
หน้าที่ของเขาคือ "จัดเต็ม" ต่อหน้าคนดูให้สุดฝีมือ
.
.
.
"พวกเขาเล่นดีมาก"
"มันเยี่ยมไปเลย"
"ผมรู้จักเสก โลโซที่ไทย ผมว่าเขาสุดยอดมาก ผมดีใจที่ได้ดูเขาที่นี่"
"ผมเป็นแฟนโลโซอยู่แล้ว ดีใจที่ได้เห็นเขาในงานกลาสตันเบอร์รี่"
นี่คือคำกล่าวของผู้ชมจากการสัมภาษณ์รายการ "เสก โลโซ เดอะโรด ทู กลาสตันเบอรี่ เฟสติวัล"
งานนี้สำหรับเสกถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ
แม้แต่วง Ash ที่เล่นอยู่ในเวทีพีระมิด (เวทีหลักของงาน) ยังบอกให้ทุกคนไปดูโชว์ของเสก เพราะการแสดงของเขาในครั้งนั้นมันสุดยอดมากจริงๆ นับได้ว่าเป็นช่วงขาขึ้นของเสก โลโซ สุดๆ
1
การแสดงในงานนี้ ถือเป็นจุดสูงสุดของชีวิตนักดนตรีที่ชื่อว่า "เสก โลโซ" และคงมีเพียงไม่กี่คนในฐานะศิลปินไทย ที่ได้รับโอกาสในงานระดับโลกแบบนี้
นี่ยังไม่รวมกับการได้รับเชิญให้ไปเล่นงานอุทิศให้กับจิมมี่ เฮนดริก ที่รอยัล เฟสติวัล ฮอลล์ ในกรุงลอนดอน ซึ่งเสกเป็นศิลปินไทยคนแรกและคนเดียวที่รับเกียรติในงานครั้งนั้น รวมไปถึงงานคอนเสิร์ตอื่นๆ ในต่างประเทศอีกนับไม่ถ้วน
1
ดังนั้น เรียกได้ว่าเป็นตำนานได้เลย หากวัดกันที่ฝีมือคงจะหาคนที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์และประสบความสำเร็จแบบนี้ได้ยากมาก (ถ้าไม่นับเรื่องเพี้ยนๆ ในปัจจุบันนะครับ 5555)
1
ใครเป็นแฟนพี่เสก โลโซ คิดเห็นอย่างไร แสดงความคิดเห็นกันได้อิสระเลยเด้อ
โฆษณา