Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
XKER • 2475
•
ติดตาม
21 มิ.ย. 2020 เวลา 05:00 • การเมือง
[XKERCONTENT]
ไม่ผิดแล้วจะกลัวอะไรกับมาตรา 112
XKER2475
เรามักได้ยินประโยคทำนองนี้บ่อยๆ จากคนบางกลุ่ม เมื่อมีประเด็น มาตรา 112 ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์ เป็นจริงอย่างที่พวกเขาพูดมั้ย? มาดูกัน
ปี 2555 ชายคนหนึ่งถูกพี่ชายแท้ฟ้องด้วยมาตรา 112 โดยกล่าวอ้างว่าน้องชายพูดจาจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ขณะรับชมทีวี
ชายคนนั้นคือ "ยุทธภูมิ มาตรนอก" อาชีพผลิตและจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดรถ ยุทธภูมิและธนะวัฒน์ (พี่ชาย) เคยทำธุรกิจด้วยกัน มักจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ถึงขั้นชกต่อย ลงไม้ลงมือกันเป็นประจำ จนแยกย้ายกันไปทำธุรกิจ
ฟังบทสัมภาษณฺ์ได้ที่
https://youtu.be/ycpjs0JpKss
Manager
หลังธนะวัฒน์ย้ายออกไป 15 เดือน โดยไม่ได้ติดต่อยุทธภูมิเลย มีหมายเรียกส่งถึงยุทธภูมิด้วยข้อกล่าวหา มาตรา 112
"ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี"
เมื่อได้รับหมายเรียกเขาดำเนินตามขั้นตอนและกระบวนการทุกประการ ไปตรงนัดทุกครั้งไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีแต่อย่างใด เพราะเชื่อมั่นว่าบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำอย่างที่โดนกล่าวหา และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เขาได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว แต่โดนปฏิเสธด้วยเหตุผลเป็นคดีความมั่นคง ทำให้ต้องเข้าสู่เรือนจำ ยุทธภูมิพยายามขอประกันตัวถึง 7 ครั้ง แต่ไม่เป็นผล จนล้มเลิกไปในที่สุด
ความหวังกลับมาอีกครั้ง เมื่อ สส.วรชัย เหมะ แห่งเพื่อไทย ยื่นพรบ.นิรโทษกรรม เขาสนับสนุนร่างพรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ให้ผ่านสภาโดยเร็ว เพราะเป็นความหวังเดียวที่จะช่วยประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสีได้รับอิสรภาพ และคืนความเป็นธรรมให้กับพวกเรา
เมื่อเดือน ส.ค.2552 ขณะเกิดเหตุยุทธภูมิและธนะวัฒน์ได้คุยและโต้เถียงเรื่องการเมืองที่มีจุดยืนคนละขั้ว ระหว่างนั้นมีการถ่ายทอดข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยุทธภูมิได้ใช้คำพูดแสดงความอาฆาตมาดร้าย
5 วันต่อมา ยุทธภูมิ ใช้ปากกาเคมีเขียนถ้อยคำหยาบคายบนแผ่นซีดี “เนวินขอทักษิณ หยุดก้าวล่วงพระเจ้าอยู่หัว” แล้วนำไปเผยแพร่ทำให้คนทั่วไปที่เห็นเข้าใจผิดและเสื่อมศรัทธาในพระมหากษัตริย์ จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เมื่อ 6 พ.ค. 2553
ขณะที่มารดาและน้องสาว ได้เบิกความว่า ยุทธภูมิมีความจงรักภักดีและไม่เคยก้าวล่วงสถาบัน ยุทธภูมิเคยทะเลาะกับธนะวัฒน์หลายครั้งเรื่องสัตว์เลี้ยงและธุรกิจ จนต้องแยกครอบครัวแล้วออกไปทำธุรกิจที่มีลักษณะเดียวกัน ต่อมาไม่ประสบความสำเร็จ ธนะวัฒน์จึงกลับมาอยู่ด้วยกันก่อนจะมีปัญหาทะเลาะกันอีก
ศาลเห็นว่า ธนวัฒน์มีความโกรธเคืองกับยุทธภูมิมาก่อน จึงต้องระมัดระวังในการรับฟัง ขณะที่คำเบิกความก็มีความคลาดเคลื่อนเรื่องเวลาที่อ้างว่ายุทธภูมิกล่าวอาฆาตมาดร้ายต่อกษัตริย์ ซึ่งเป็นสาระสำคัญ ทั้งที่ธนะวัฒน์ให้การในชั้นสอบสวน และเบิกความในชั้นศาลในระยะเวลาที่ไม่นานมากนัก
คำเบิกความของพยานฝ่ายธนะวัฒน์จึงยังมีข้อพิรุธสงสัย ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ลายมือของยุทธภุมิ แม้มีผู้เชี่ยวชาญมาเบิกความว่าข้อความที่เขียนบนซีดีเป็นลายมือยุทธภูมิ แต่ศาลก็ต้องอาศัยหลักฐานอย่างอื่นประกอบด้วย
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ศาลไม่อาจรับฟังได้อย่างสนิทใจ ยังมีข้อสงสัยในเรื่องของตัวอักษรลายมือผู้เขียนว่าเป็นของยุทธภูมิจริงหรือไม่ พยานฝ่ายยุทธภูมิไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงพิพากษายกฟ้องและให้ริบซีดีของกลาง
Manager
ศาลพิพากษายกฟ้องเมื่อ 3 ก.ย. 2556 รวมระยะเวลาถูกคุมขัง 1 ปี
1 ปี ที่เสียไป ใครต้องรับผิดชอบ?
อรพิณ ยิ่งยงพัฒนา ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaws และศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ
Unlockman
กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินคดีในมาตรา 112 หลังเข้าสังเกตการณ์การพิจารณาหลายคดีว่า คดียุทธภูมิ เป็นตัวแทนที่ทำให้เห็นปัญหามาตรา 112 ได้ทุกข้อ
ปัญหาหลักคือ อุดมการณ์มาตรา 112 ที่สะท้อนว่ามันกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ตั้งแต่ชั้นตำรวจที่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีและยังควรเป็นคดีที่ผ่านคณะกรรมการพิเศษที่กลั่นกรองคดีหมิ่นฯ
แต่ปรากฏว่า คดีนี้หลักฐานอ่อนมาก มีเพียงประจักษ์พยานคนเดียวคือพี่ชาย และตอนตำรวจสั่งฟ้องยังไม่มีรายงานการตรวจพิสูจน์หลักฐานใดๆ ด้วยซ้ำ แต่ก็ยังสั่งฟ้อง ซึ่งน่าจะเพราะเห็นว่าเป็นคดีหมิ่นเบื้องสูงจึ่งไม่กล้าไม่สั่งฟ้อง
และยังลามไปถึงชั้นอัยการที่ก็สั่งฟ้องต่อไป แต่ปัญหาที่หนักที่สุดคือการไม่ให้ประกันตัว และน่าสนใจว่า เมื่อสืบพยานโจทก์จบแล้ว ศาลซึ่งฟังการสืบพยานมา แนะนำให้ทนายยื่นประกัน แต่สุดท้าย ศาลเวรก็ยังทำตามคติเดิมคือไม่ให้ประกัน
“ข้ออ่อนเหล่านี้เลยเป็นช่องโหว่ของกดหมายที่ทำให้คนแกล้งกันด้วยการฟ้องคดีได้”อรพิณกล่าว
“ปัญหาหนึ่งที่เรียนรู้ได้จากคดีที่ผ่านๆ มาคือ คดีที่ชนะ ต้องสู้ว่าไม่ใช่คนทำเท่านั้นแต่คดีที่สู้เรื่องเนื้อหาและสู้เรื่องเจตนา แพ้หมด”
กรณี คดียุทธภูมิ มันจึงเหมือนว่า เราค้นหาความบริสุทธิ์จากสิ่งที่ไม่เป็นประเด็น เพราะความจริงแล้ว แก่นของเรื่องน่าจะอยู่ที่ว่า คำสบถและคำหยาบนั้น มีผลให้กระทบต่อความมั่นคงจริงหรือ หากจริง แสดงว่าความมั่นคงของประเทศนั้นเองที่มีปัญหา
นอกจากนี้ยังไม่เคยมีคำพิพากษาคดีไหนในวิกฤตการเมืองช่วงหลัง กล้าพิพากษาที่ตัวเนื้อหาอันเป็นประเด็นของเรื่อง
🅧🅚🅔🅡 | 🅕🅞🅛🅛🅞🅦 🅤🅢
🅨🅞🅤🅣🅤🅑🅔
https://www.youtube.com/channel/UCvbjPkDRZF1kT5q5gZq5uJg
🅑🅛🅞🅒🅚🅓🅘🅣
https://www.blockdit.com/xker2475
🅣🅦🅘🅣🅣🅔🅡
https://mobile.twitter.com/XKER2475
🅟🅐🅖🅔
https://m.facebook.com/XKER2475/
REF
(1)
https://blogazine.pub/blogs/noomrednon/post/4299
(2)
https://prachatai.com/journal/2013/09/48772
(3)
https://mgronline.com/crime/detail/9560000115577
(4)
https://www.voicetv.co.th/read/81801
1 บันทึก
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
XKERCONTENT
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย