22 มิ.ย. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
“Dutch East India Company” บริษัทค้าเครื่องเทศ ที่รำ่รวยที่สุดในโลกเมื่อ 300 ปีก่อน
ปัจจุบันนี้ธุรกิจที่รำ่รวยที่สุดในโลก คงจะหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งบริษัทที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลก
อย่างเช่น Apple เจ้าของกิจการด้านไอทีมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 47 ล้านล้านบาท
หรือจะเป็น Tesla ของเศรษฐีมัสก์ ที่ได้รับการขนานนามเมื่อไม่นานมานี้ ว่าเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกที่ 5.87 ล้านล้านบาท
แต่รู้ไหมว่าถ้าหากเป็น 200-300 ปีก่อน ยุคที่ไอทียังไม่มีมาให้เห็น สินค้าที่มีค่าในยุโรปและอีกหลาย ๆ ทวีปทั่วโลก นั่นก็คือ “เครื่องเทศก์”
และรู้ไหมว่ามีบริษัทหนึ่งในเวลานั้น ที่ผูกขาดการตลาดเครื่องเทศก์มากที่สุดในโลก ซึ่งถ้าหากเทียบมูลค่าบริษัทในปัจจุบันจะสูงถึง 240 ล้านล้านบาท
มากกว่า Apple ถึง 5 เท่า
ขณะเดียวกันก็มากกว่า Tesla ถึง 40 เท่า
แล้วบริษัทนี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจอย่างไร ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักกัน..
บริษัทดังกล่าว มีชื่อว่า “Dutch East India Company” หรือ “Vereenigde Oostindische Compagnie” ใช้ชื่อย่อว่า “VOC”
บริษัทสัญชาติดัชต์ที่เกิดจากการควบรวมกิจการของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ และเหล่าพ่อค้าแม่ค้ามากมายในประเทศ
คำถามก็คือ เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามามีส่วนร่วมในกิจการขององค์กรได้อย่างไร ?
ช่วงคริสศตวรรษที่ 1500-1600 เป็นช่วงที่เนเธอร์แลนด์ อยู่ภายใต้อาณานิคมของสเปน ซึ่งชาวดัตช์ก็พยายามหาหนทางกู้อิสรภาพให้กับประเทศ
ซ้ำร้ายช่วงปลายยุคดังกล่าว เส้นทางค้าขายทางทะเลกับโลกตะวันตก ถูกปิดลงแทบทั้งหมด หลังจากที่สเปนตกอยู่ภายใต้อำนาจของโปรตุเกส
เหล่าพ่อค้าแม่ค้าผู้ที่เคยประกอบการค้า กับโลกตะวันออกทั้งหลาย ก็ได้ตระหนักว่า ถ้าหากทำการค้าในประเทศอย่างเดียว ก็จะเกิดแต่การกระจุตัวจนเกินไป จึงได้รวมตัวเป็นบริษัทขนาดใหญ่ เพียงบริษัทเดียวในปี 1602
ซึ่งใช้ชื่อที่กล่าวไปข้างต้น แต่โดยส่วนใหญ่ชาวดัตช์มักจะเรียกชื่อย่อว่า “VOC”
VOC เป็นบริษัทที่มีรัฐบาลเนเธอแลนด์อยู่เบื้องหลัง และมีหัวเรือใหญ่เป็นนักการเมืองชื่อ “Johan Van Oldenbarnevelt”
Cr. Business insider
พวกเขาได้เจรจามีข้อตกลงกับรัฐบาล โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นผลกำไรบางส่วน ที่จะช่วยมากอบกู้เอกราชให้กับประเทศ
ฉะนั้น รัฐบาลจึงไม่ได้อยู่เบื้องหลังเสียทีเดียว แต่ VOC ยังได้รับสิทธิ์และอำนาจ เทียบเท่ากับรัฐบาลด้วย อย่างเช่น..
สิทธิ์ผูกขาดการค้าเครื่องเทศนาน 21 ปี
สิทธิ์ในการผลิตเหรียญกษาปณ์ของตนเอง
Cr. Wikipedia
ที่น่าสนใจ คือสิทธิ์ในการมีกองทัพเรือ สามารถสั่งประหารชีวิต เป็นอำนาจต่อรองสนธิสัญญา และมีสิทธิ์เข้าร่วมในสงคราม
หรือแม้แต่จะจัดตั้งอาณานิคมของตนเอง ก็สามารถกระทำได้
รู้ไหมว่ามีช่วงเวลาหนึ่ง ที่สเปนกำลังวุ่นอยู่กับการรบกับอังกฤษ ทำให้ไม่สามารถมาดูแล ประเทศราชแถบเอเชียอย่างทั่วถึง
VOC จึงฉวยโอกาสยึดกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซียในปัจจุบัน แถมยังใช้เป็นสำนักงานหลัก ในการควบคุมสินค้านำเข้าส่งออกในเอเชีย
นอกจากนี้ VOC ยังได้เคยใช้อำนาจทางกองทัพ กับประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างกัมพูชา และยังเคยใช้อำนาจสู้รบกับฟิลิปปินส์อีกด้วย
Cr. Wikipedia
Cr. Wikipedia
VOC มีเรือสินค้ามากกว่า 1,700 ลำ ถ้าหากนับรวมทั้งหมดคาดว่ามีเรือสินค้ามากถึง 4,700 ลำ ในจำนวนนี้คือเรือที่เป็นกองกำลังทางทะเล
ฉะนั้น พวกเขาจึงใช้อำนาจทางทะเล ผูกขาดน่านนำ้แทบทั้งหมด ซึ่งช่วยให้สินค้าเครื่องเทศของพวกเขากลายเป็นบริษัทนำเข้าเครื่องเทศรายใหญ่สุดในโลก
รายได้จากการประกอบการ 46 ปีให้หลัง มีส่วนช่วยให้เนเธอร์แลนด์หลุดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้น และนั่นถือเป็นยุคที่ VOC รุ่งเรืองทางการค้ามากที่สุด
อำนาจของบริษัท ไม่ได้แค่ช่วยให้เนเธอร์แลนด์หลุดพ้นจากอำนาจของมือคนอื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ประเทศการเป็นเจ้าแห่งการล่าอาณานิคม เฉกเช่นประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
1
Cr. Wikipedia
ช่วงแรก ๆ พวกเขาประสบผลสำเร็จในการเดินเรือ ค้นพบทั้งดินแดนออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าอำนาจทางทะเลจะคงอยู่เสมอไป
เพราะการที่บริษัทผูกสิทธิ์ต่าง ๆ ไว้กับรัฐบาล เมื่อรัฐบาลดัตช์อ่อนแอลง บริษัทก็อ่อนแอลงไปตาม
หลังจากนั้นไม่นาน เนเธอร์แลนด์ก็แพ้สงครามทางทะเลให้กับอังกฤษ กระทั่งในปี 1784 ประเทศก็แพ้สงครามใหญ่อีกครั้ง ส่งผลให้ VOC ที่เคยผูกขาดเส้นทางสินค้าเครื่องเทศ ต้องเสียผลประโยชน์เหล่านั้นไปทั้งหมด
ไม่เพียงแค่นั้น ปี 1795 เนเธอร์แลนด์ยังต้องพบซ้ำร้าย ในการแพ้สงครามให้กับฝรั่งเศสอีก แม้ฝรั่งเศสในเวลานั้นจะเพิ่งปฏิวัติประเทศมาไม่นานก็ตาม
ปี 1799 VOC ต้องล้มละลายและยุติกิจการไปในที่สุด
Cr. Wikipedia
แน่นอนว่ายุคนั้น คงไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัทที่ผูกขาดสินค้าเครื่องเทศมากที่สุดในโลกจะล่มสลายได้
ปิดท้ายกันด้วยความน่าสนใจ..
รู้ไหมว่าราคาเครื่องเทศ มีค่าเฉียดทองคำในยุคนั้น ช่วยให้ VOC มีความมั่งคั่งได้ แต่ปัจจุบันหากเราเดินเข้าไปซื้อเครื่องเทศเข้าครัวในเวลานี้ จะพบว่ามันมีราคาถูกกว่าทองคำเป็นร้อยเป็นพันเท่า
ฉะนั้น ต่อให้จะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีอะไรแน่นอน
ประวัติศาสตร์หลายอย่าง ย้ำเตือนให้เรารู้ว่า “เงิน ทอง และอำนาจ” หาใช่ความต้องการที่สูงสุด..ของมนุษย์ไม่..
1
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
โฆษณา