22 มิ.ย. 2020 เวลา 11:09 • ประวัติศาสตร์
ต้นกำเนิด “โรงแรมแชงกรี-ลา”
ภาพจาก www.shangri-la.com
“โรงแรมแชงกรี-ลา” เป็นโรงแรมในเครือของกลุ่มธุรกิจแชงกรี-ลาอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นธุรกิจหน่ึงของพี่น้องตระกลู ก๊วก (Kuok) ตระกลูนักธุรกิจใหญ่ตระกลูหน่ึงของสิงคโปร์ ก๊วกโด่งดังมากในสิงคโปร์ และยังดังข้ามน้ำข้ามทะเลไปอีกหลายประเทศ โดยบรรดานักธุรกิจทั้งหลายย่อมต้องรู้จักก๊วกกันเป็นอย่างดี ในนามของผู้นำกลุ่มที่ช่ือ โรเบิร์ต ก๊วก (Robert Kuok)
ภาพจาก www.forbes.com
ในปี 1978 กลุ่มก๊วกได้ตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยใช้ช่ือว่า “กลุ่มโรงแรมก๊วก” โดยบริหารโรงแรม 5 แห่งในฟิจิ และมาเลเซีย มีการให้บริการห้องพักที่ทันสมัยการบริการท่ียอดเยี่ยม และอบอุ่นแก่ลูกค้า ก๊วกเริ่มดำเนินธุรกิจโรงแรมแชงกรี-ลาโดยการทำวัญญาว่าจ้างบริษัท Westin ของชาวอเมริกันที่ชำนาญในการบริหารโรงแรมมาดำเนินการให้ และก๊วกก็มิได้ดูอยู่เฉย ๆ หากแต่พยายามแทรกตัวเข้ามาเรียนรู้การดาเนินงานทั้งหมด จนในวันหน่ึงเมื่อก๊วกเร่ิมเรียนรู้ท่ีจะบริหารโรงแรมได้ด้วยตนเองแล้ว ก๊วกก็ก้าวเข้ามาแทนที่บริษัท Westin อย่างเต็มตัวและตั้งเป็นโรงแรมเครือข่าย (Chain) ของตัวเองข้ึนมาภายใต้การดำเนินการโดย “Shangri-La International Hotel Company”
1
แชงกรี-ลา เริ่มเกิดที่ฮ่องกงเป็นแห่งแรกโดยการบริหารของ Westin หลังจากนั้นจึงเปิด แชง-กรีลาที่สิงคโปร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมที่เยี่ยมที่สุดโรงแรมหน่ึงในโลก และเคยติด 1 ใน 10 อันดับของการคัดเลือกโรงแรมยอดเยี่ยม นับว่าบริษัท Westin ประสบความสาเร็จในการ บริหารแชงกรี-ลาที่สิงคโปร์น้ีมากที่สุด แต่ในปัจจุบันน้ีได้หมดสัญญาการว่าจ้างกับทางบริษัท Westin เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก๊วกภายใต้ชื่อ “Shangri-La International Hotel Company” ก็เข้ามาบริหารงานแทน รวมถึงแชงกรี-ลาในกรุงเทพฯ และโรงแรมเครือข่าย (Chain) อื่น ๆ ซึ่งเปิดในย่านเอเชีย ซึ่งมีอยู่ที่จีน มาเลเซีย หมู่เกาะฟิจิและปักกิ่ง คงมีแต่แชงกรี-ลาท่ีฮ่องกงเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่บริษัท Westin ยังบริหาร อยู่แต่เริ่มจนถึงทุกปัจจุบัน
ภาพจาก www.businesstraveller.com
คร้ังท่ี “โรเบิร์ต ก๊วก” คิดจะมาตั้งแชงกรี-ลาข้ึนที่กรุงเทพฯ นั้นเขาไดชักชวนผู้ร่วมหุ้นหลายราย ซึ่งคนไทยท่ีเป็นหุ้นส่วนใหญ่ก็คือ กลุ่มไทยรุ่งเรืองของ “สุรีย์ อัษฎาธร” หรือ"เถ้าแก่หลิ่น” ซึ่งเป็นท่ีรู้จักกันดีในวงการน้ำตาล ไทยรุ่งเรืองตัดสินใจตกลงที่จะร่วมทุนท่ามกลางความฉงนใจของหลาย ๆ คนว่าทำไมจึงหันเหฉีกแนวออกมาทาธุรกิจโรงแรม ไทยรุ่งเรืองมีความสัมพันธ์กับก๊วก เป็นส่วนตัวมานานแล้ว เนื่องจากติดต่อซื้อขายน้าตาลกันมา เมื่อก๊วกคิดจะมาตั้งแชงกรี-ลา ในกรุงเทพฯ ก็จึงชักชวนเถ้าแก่หลิ่นมาถือหุ้นด้วย “ทางเถ้าแก่หลิ่นเห็นว่าแต่เดิมมาไทยรุ่งเรืองก็จับแต่ อุตสาหกรรมหนักมาทั้งนั้น เช่น โรงกลึง โรงหล่อ โรงเลื่อย ถ้าจะมาลองทำโรงแรมบ้างคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไรนัก” และกลุ่มไทยรุ่งเรืองมีความมั่นใจในฝีมือของกลุ่มก๊วกเป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจก้าวเข้ามาร่วมทุนในธุรกิจที่กลุ่มไทยรุ่งเรืองไม่เคยจับมาก่อนเช่นน้ี
แชงกรี-ลา ใช้ระบบอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System) ซึ่งเป็นระบบควบคุมการทางานของระบบต่าง ๆ ภายในอาคารด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งนับว่าเป็นระบบท่ีสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกในเมืองไทย โดยสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มาก และช่วยอำนวยความสะดวกในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การเปิด-ปิดไฟได้เองโดยอัตโนมัติ การควบคุมการทำงานของลิฟท์ ฯลฯ อันดับต่อมาก็เป็นระบบแรงดันบันได (Stair pressurize) เป็นระบบอัดอากาศเข้าไปในห้องโดยอัตโนมัติยามเกิด ไฟไหม้ เพื่อป้องกันการสำลักควัน นอกจากน้ียังนำเอาท่อนิวเมติก (Pneumatic tube) คือท่อส่งระบบสูญญากาศไว้ใช้ส่งของจากท่ีหน่ึงไปยังอีกท่ีหน่ึง (เช่นส่งบิลล์) เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และแรงงาน และมีการใช้แสงอัลตร้าไวโอเลต (Ultraviolet light) ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ โดยในห้องพักทุกห้องจะ มีเครื่องกรองน้าจากก๊อกเพื่อทำน้ำประปาให้บริสุทธ์ิ รวมทั้งมีเครื่องต้มน้ำร้อนพร้อมชุดกาแฟเพื่อชงดื่มเองไดทุกเวลา นับเป็นสิ่งพิเศษท่ีแชงกรี-ลา เตรียมการไว้อย่างพรักพร้อม เพื่อสร้างความต่างให้เป็นเอกลักษณ์ท่ีไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโรงแรมโดยเฉพาะ
แชงกรี-ลา เปิดตัวเองมาถึง 3 คร้ัง ในคร้ังแรกเมื่อสร้างตัวตึกภายนอกเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปี 2528 เป็นการเปิดตัวในเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในการดาเนินงาน หลังจากนั้นเมื่อสร้างเสร็จตกแต่งเรียบร้อยเพียง 3 ชั้น ก็เป็นการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการให้แขกเข้าพักได้ เมื่อวันที่ 3 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2529 ถัดมาประมาณวันที่ 18 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2529 จึงทำการเปิดตัวต่อสื่อมวลชน และบุคคลภายนอกแต่ก็ยังไม่นับเป็นการเปิดอย่างเป็นทางการ จนมาถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2529 จึงได้ทำพิธีการ เปิดตัวแบบยิ่งใหญ่ และอลังการ
ภาพจาก www.shangri-la.com
ปัจจุบันโรงแรมแชงกรี-ลา เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการ ทั้งหมด 99 โรงแรม ใน 21 ประเทศ ภายใต้บริษัทแชงกรี-ลา อินเตอร์เนชั่นแนล (Shangri La International Hotel Management) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Headquarter” ท่ีตั้งอยู่ในฮ่องกง
โฆษณา