22 มิ.ย. 2020 เวลา 13:27 • ไลฟ์สไตล์
คิดฮอด วิถีไทบ้าน EP. 7
“ตามองตาพาอุราไหวหวั่น ตามองกันทำให้ฉันละเมอ
จ้องมองกันทำให้ฉันรักเธอ ไม่รู้แล้วเออว่าในตาเธอมีอะไร
ทำให้ใจฉันผวา เมื่อสบตาฉันจนงง
เหมือนดังตานั้นมีความประสงค์
ด้วยเหตุจำนงค์ ว่าตานั้นคงไม่ปิดบัง”
เสียงเพลง สายตาพิฆาต ของคุณ อภิรดี ปิยพร ดังออกมาจากวิทยุทรานชิสเตอร์ขนาดถ่านสามก้อน แม่มักจะเปิดวิทยุฟังทุกเช้า ขณะสาระวนกับการหุงหาอาหาร
วันนี้ ผมตื่นสายกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะเมื่อวาน เหน็ดเหนื่อยกับการปรับปรุงพื้นที่สำหรับทำบ้านหลังน้อยของผม
“ออกไปหาช่างมาช่วยทำบ้าน”
แม่ตอบ เมื่อผมถามว่าพ่อไปใหนแต่เช้า...
“ได้ช่างมาช่วยทำบ้านแล้วนะ เดี๋ยวให้แม่มึงไปดูฤกษ์ จะได้เริ่มลงมือทำกัน”
 
พ่อพูดออกมา ขณะนั่งล้อมวงกินข้าวเช้า
 
“ว่าแต่วันนี้ มีธุระอะไรหรือเปล่า ตอนกลางวัน ไปหาหน่อไม้มาแกงหน่อย สัปดาห์ที่แล้วพ่อเห็นมันกำลังขึ้นหน่อ ริมคลองน้ำหัวนาเรา”
 
พ่อพูดต่อเชิงถามเชิงบอก แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ได้ไปหาหน่อไม้นานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่จำได้ ก็คงจะเป็นสมัยที่ยังเรียนอยู่ชั้น ม.6 และที่สำคัญผมเองก็นึกอยากจะกินแกงหน่อไม้ฝีมือพ่อด้วย
พ่อเป็นคนที่ทำอาหารอีสานได้อร่อยมากๆ อาจจะเป็นเพราะพื้นเพเป็นคนอีสาน ย้ายถิ่นฐานจากอุดรธานี มาอยู่เพชรบูรณ์ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ก็เลยรู้จักอาหารอีสานเป็นอย่างดี แตกต่างจากแม่ ที่ชอบทำอาหารแบบไทยๆ ที่ฝึกมาจากยายซึ่งเป็นคนพิษณุโลกจะติดก็ตรงที่ พ่อไม่ค่อยจะทำอาหารนี่แหละ วันนี้จึงถือเป็นลาภปาก
แดดสายนี้ดูเหมือนจะแรงกว่าทุกวัน ทั้งๆที่ แค่9โมงเช้าเอง ผมพาตัวเองปั่นจักรยานคู่ใจ พร้อมกับพายถุงย่าม สำหรับไปหาหน่อยไม้ มีดปลายแหลมด้ามเล็กๆ กับขวดน้ำขนาด1,000 ml. ที่บรรจุในถุง ไม่ทำให้หนักพอ
ระยะทางไป-กลับ เกือบๆ10 กิโลเมตร เป็นระทางที่พอเหมาะสำหรับปั่นออกกำลังกายไปในตัว ผมปั่นไปเรื่อยๆโดยไม่ได้ใช้ความเร็ว ภายในไม่เกิน30นาทีจึงมาถึงที่นา ด้วยความที่เป็นกอไผ่ปลูกไว้ กอจึงไม่ใหญ่นัก บริเวณรอบๆไม่รกทึบ แต่ผมก็อดระแวงไม่ได้ว่า จะเจองูเหมือนเมื่อวานหรือเปล่า
เสียมที่ผมฉวยติดมือมาด้วย ค่อยๆฟาดลงไปบริเวนที่มีพุ่มสุมกอหญ้า อย่างหวาดๆ นึกๆดูแล้วก็อดที่จะขำตัวเองไม่ได้ กับท่าทางกระโดดเหยงๆเมื่อวาน แต่ก็นั่นแหละ ปลอดภัยไว้ก่อน ผมไม่ค่อยสนิทใจเท่าไหร่นักกับสัตว์จำพวกไม่มีตีน
ชั่วอึดใจก็ได้หน่อไม้ขนาดพอเหมาะมาสามหน่อ มันไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแค่ใช้มีดปลายแหลม เข้าไปตัดที่โคลนหน่อ แล้วก็เก็บมาใส่ถุงย่าม ไม่ได้ตื่นเต้นหรือสนุกเหมือนกับไปหาหน่อไม้บนภูเขา ตอนสมัยที่ผมเป็นเด็ก แต่อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีกับการรื้อฟื้นวิถีเก่าๆให้คืนมา และต่อไปภาคหน้า ก็คงจะได้หากินกับไร่กับนา มากกว่าหาชื้อกินตามท้องตลาด...
ทันทีที่ผมกลับมาถึงบ้าน แม่จัดการปลอกเปลือกและผานหน่อไม้ออกเป็นแผ่นบางๆ ส่วนตัวผมก็แยกตัวออกมาก่อไฟไว้สำหรับต้ม
พ่อบอกว่า สูตรของพ่อ ไม่ต้องต้มหน่อไม้ให้จืดมาก ปล่อยให้มันมีความขมติดไว้หน่อยๆ เวลาแกงจะได้อร่อย และนี่ละมั้ง!!! เป็นสูตรพิเศษของพ่อ ที่แกงที่ไร หมดเกลี้ยง รสชาติลืมไม่ลง
ผมยืนอยู่ใกล้ๆราวกับว่าจะขโมยสูตรเด็ดของพ่อ ดูตั้งแต่ วิธีคั้นน้ำใบย่านาง เท่าที่มองดู ก็เป็นขั้นตอนง่ายๆ ไม่ได้ซับช้อนอะไร แต่ทำไมถึงอร่อยจัง
ใส่น้ำใบย่านางลงไปในหม้อ รอให้น้ำเดือดสักพัก ก็ใส่หน่อไม้ลงไป น้ำปลาร้า ผงชูรส อย่างละนิดอย่างละหน่อย ใส่ผักขา (ชะอม) ปิดท้ายด้วยใบแมงลัก แค่เนี๊ย!! ก็โชยกลิ่นหอมฉุย สูตรของพ่อไม่ใส่ข้าวเบือ
เคล็ดลับจริงๆ พ่อบอกว่าอยู่ที่การต้ม ไม่ต้องต้มให้จืดสนิท และทุกขบวนการ ต้องทำบนเต่าถ่านหรือเตาฟืน
อาหารกลางวันมื้อนี้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดอีกมื้อหนึ่ง ส่วนหนึ่งอาจมาจากผมมีส่วนร่วมในการหาวัตถุดิบก็ได้....
ไว้ติดตามต่อ EP หน้านะครับ
โฆษณา