23 มิ.ย. 2020 เวลา 01:20
วิกฤติการณ์มลายา
คราวนี้บทความของไม่แปลกครับ กระแสหลักสงครามเย็น และก็ไม่ใช่สงครามตัวแทนระหว่างสหรัฐฯกับสหภาพโซเวียต แต่เป็นเหตุการณ์ในช่วงจักรวรรดินิยมอังกฤษล่มสลายเพราะสงครามเย็น ผู้ก่อการร้ายคอมมี่มลายาพยายามที่จะผลักดันอังกฤษให้ออกไปจากอาณานิคมแห่งนี้โดยการจับอาวุธขึ้นต่อสู้ ซึ่งมันก็เหมือนกับจักรวรรดินิยมชาติอื่นเจอ ฝรั่งเศสเจอกับคอมมี่ในอินโดจีน โปรตุเกสเจอกับคอมมี่ในแอฟริกา 3 แห่งจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้พร้อมๆกัน (แองโกลา, โปรตุเกสกินี, โมซัมบิค) บทความนี้แปลมาจาก National Army Museum
เข้าสู่บทความ
วิกฤติการณ์มลายา 1948-60 เป็นหนึ่งในปฏิบัติการต่อต้านการก่อความไม่ที่ประสบความสำเร็จโดยโลกตะวันตกยุคสงครามเย็น ซึ่งมีไม่มากนัก กองกำลังจากอังกฤษและประเทศเครือจักรภพได้ทำการปราบปรามการก่อกบฏโดยคอมมี่ในมลายาจนสำเร็จ
สงครามปลดแอกแห่งชาติ
ในเดือนมิถุนายน 1948 ได้มีการประกาศสภาวะฉุกเฉินขึ้นในอาณานิคมมลายาของอังกฤษ (ปัจจุบันมาเลเซีย) กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติ (ตัวย่อ MNLA ต่อไปนี้ขอเรียกสั้นๆว่าคอมมี่มลายา) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์มลายาได้ทำการโจมตีสวนยาง, เหมืองแร่ และสถานีตำรวจ ทำการถอดรางรถไฟและเผาบ้านพักคนงาน การก่อความไม่สงบนี้ถูกจำกัดความว่าสภาวะฉุกเฉินเพราะว่าบริษัทประกันจะไม่มีการจ่ายชดเชยแก่เจ้าของสวนและเจ้าของเหมืองถ้าเกิดตีตราว่าเป็นสถานะสงคราม
กลุ่มคนที่ตั้งรกรากผิดกฎหมาย
คอมมี่มลายาตั้งฐานอยู่ในป่าโดยอาศัยการสนับสนุนจากชาวจีนที่ยากไร้ แล้ว่าจะมีชาวจีนจำนวนมากอาศัยอยู่ในตัวเมือง แจ่ก็ยังมีอีกกลุ่มที่ถูกเรียกว่ากลุ่มคนที่ตั้งรกรากแบบผิดกฎหมาย โดยจะอยู่อาศัยขอบชายป่าและสามารถให้การสนับสนุนแก่พวกกองโจรคอมมี่ ทั้งคอมมี่มลายาและผู้สนับสนุนต่างเรียกขานปฏิบัติการนี้ว่าสงครามปลดแอกแห่งชาติเพื่อต่อต้านอังกฤษ
กำลังเสริม
ขั้นต้นอังกฤษได้ตอบสนองต่อความขัดแย้งนี้ด้วยการประกาศใช้กฎหมายสภาวะฉุกเฉิน โดยอนุญาตให้กุมขังผู้ต้องสงสัยโดยไม่ต้องมีการไต่สวนดำเนินคดี การเคอร์ฟิวและการจำกัดการเดินทางได้ถูกบังคับใช้ แต่ดั้งแต่เดิมกำลังทหารที่ประจำการในมลายาประกอบไปด้วย 6 กองพันทหารกุรข่า 3 กองพันทหารอังกฤษ และ 2 กองพันทหารมาเลย์ ส่วนของกำลังเสริมได้ถูกส่งมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1948 เป็นต้นมา ทหารอังกฤษจำนวนมากที่ส่งมานี้เป็นทหารเกณฑ์
เข้าสู่สภาวะคุมเชิง
กองทหารที่มาใหม่ได้ถูกส่งไปประจำที่มั่นใกล้ๆหมู่บ้านและใช้ออกลาดตระเวน พวกกองโจรอาศัยความได้เปรียบจากการรู้จักพื้นที่ขณะที่ทหารอังกฤษประสบปัญหาเพราะขาดแคลนข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลสามารถที่จะป้องกันไม่ให้กองโจรคอมมี่ทำเสรษฐกิจหยุดชะงัก, ป้องกันจากการเข้าบุกยึดและช่วงชิงพื้นที่ แต่รัฐไม่สามารถที่จะหยุดความเคลื่อนไหวคอมมี่ลงได้เลย
ยุทธวิธีใหม่
ในปี 1950 พล.ท. เซอร์ ฮาโรล บริกส์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนายการ การปฏิบัติการในมลายา เขารู้เลยถึงควาสำคัญของการแบ่งแยกพวกกองโจรคอมมี่ออกจากแหล่งเสบียง และการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ประชากรอยู่อาศัยซึ่งจะทำให้ผู้คนยินดีในการให้ข้อมูลข่าวกรอง เขาได้ททำการโน้มน้าวให้ข้าหลวงใหญ่ เซอร์ เฮนรี เกอร์นี ให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมประกอบไปด้วยตัวแทนของเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารที่เกี่ยวข้องให้ทำการประสานงานร่วมกันเพื่อรับมือกองโจรคอมมี่ ตำรวจมลายากับสินติบาลรับหน้าที่ในส่วนงานข่าวกรอง
หมู่บ้านใหม่
จากการพยายามแยกพวกกองโจรคอมมี่กับผู้หใ่การสนับสนุน, ชาวจีนที่ตั้งรกรากอย่างผิดกฎหมายถูกจัดสรรที่อยู่ให้ในหมู่บ้านที่ตั้งขึ้นมาใหม่ มีน้ำสะอาด, มีบ้านพักที่เหมาะสม, มีการศึกษาให้ และมีการให้บริการทางการแพทย์ ในช่วงสิ้นปี 1951 มีผู้คนกว่า 4 แสนคน ถูกจัดสรรให้อยู่อาศัยในหมู่บ้านที่สร้างขึ้นใหม่กว่า 500 แห่ง กองโจรคอมมี่มักจะถูกจับกุมหรือถูกวิสามัญเมื่อต้องการเข้ามาหาเสบียง ไดีมีกองโจรคอมมี่ตำนวนมากยอมจำนน แต่ว่าเทคนี้ที่ทำมาใช้นี้มันต้องใช้เวลาเพื่อให้มันสมบูรณ์แบบ และกองโจรยังคงสามารถปฏิบัติการได้ต่อไป แม้ว่าอังกฤษจะตัดความเชื่อมโยงต่อกันระหว่างกองโจรคอมมี่และกลุ่มชนชาวจีน แต่การสู้รบยังคงมีอยู่ต่อไป
เซอร์ เจอร์ราล เทมเปลอ เข้ารับหน้าที่
วันที่ 6 ตุลาคม 1951 คอมมี่ได้ทำการซุ่มโจมตีและสังหารข้าหลวงใหญ่ เซอร์ เฮนรี เกอร์นี, หลังจากนั้นไม่นาน พล.อ. เซอร์ เจอร์ราล เทมเปลอ ได้รับการแต่งตั้งให้ควบตำแหน่งทั้งผู้อำนวยการ การปฏิบัติการในมลายา และตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ เขาเองก็น้อมรับแนวคิดของ พล.ท. เซอร์ ฮาโรล บริกส์ ด้วยความกระตือรือร้น และมั่นใจในความร่วมมือระหว่างสายการบัญชาการร่วม ที่ก่อตั้งขึ้นมา เซอร์ เทมเปลอ ได้เน้นยำถึงการเอาชนะจิตและใจของประชาชน เขาเองยังคงทำข้อตกลงและให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการให้เอกราชเมื่อกองโจรคอมมี่ได้พ่ายแพ้ลงไป นี่จึงทำให้เขาได้รับการสนับสนุนมากมายจากกลุ่มชาตินิยม เซอร์ เทมเปลอ ยังได้ให้ผู้คนท้องถิ่นช่วยสู้รบกับพวกกองโจรคอมมี่ ด้วยการเพิ่มจำนวนกองพันทหารมาเลย์ และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชุดคุ้มครองหมู่บ้านที่ฝึกมาคุ้มครองหมู่ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ นี่เลยเป็นการช่วยรวบรวมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกันที่ถูกแบ่งแยกจากเชื้อชาติที่ต่างกันในมลายา ไม่ให้เกิดการลุกฮือ เมื่อ เซอร์ เทมเปลอ ได้พ้นจากวาระในเดือนตุลาคม 1954 มีพื้นที่ในมลายาจำนวนมากได้กลายเป็นเขตปลอดภัย เขาเลยได้รับการเลื่อนยศเป็นจอมพลในปี 1956
การฝึกยุทธวิธีในป่า
ตามที่นโยบายใหม่ของเซอร์ เทมเปลอ มีผลบังคับใช้ ข้อมูลข่าวกรองได้หลั่งไหลเข้าสู่หน่วยงานความมั่นคงเพิ่มขึ้น ทำให้อังกฤษสามารถเปิดปฏิบัติการเชิงรุกต่อคอมมี่ในป่า นั่นทำให้ต้องการความสารถในการล่องหนและต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง ทหารที่ถูกส่งมาใหม่ต้องได้รับการสอนให้ใช้ดำรงชีวอตและสู้รบในป่าดิบชื้น การฝึกที่ขึ้นที่โรงสอนฝึกสอนยุทธวิธีการรบในป่า ซึ่งมาจากการเก็บสะสมรวบรวมประสบการณ์ของทหารจากการออกสนามจริง สำหรับกองพันทหารอังกฤษโดยทั่วๆไปจะต้องประจำการ 3 ปีในมลายา
เครือจักรภพกับสงคราม
ตั้งแต่ปี 1954 โดยปกติจะมีทหาราบ 24 กองพันประจำการที่มลายา ซึ่งมาจากประเทศเครือจักรภพรวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งพวกเขาจะมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษอย่าง SAS ให้การสนับสนุนอีกต่อ ด้วยกำลังตำรวจกว่า 4 หมื่นคนทำให้ขณะนี้สามารถกวาดล้างกองโจรคอมมี่ตามพื้นที่ได้ เพื่อพื้นที่โดยกวาดล้างแล้วจะถูกเรียกว่าพื้นที่สีขาว และข้อห้ามต่างๆที่มีต่อประชาชนจะถูกยกเลิก เป็นการช่วยกระตุ้นไม่ให้ประชาชนกลับไปสู่การก่อความไม่สงบใดๆอีก
“หลักๆแล้วเราเลือกที่จะจับคอมมี่ เพราะว่าอาหารกับอาวุธมันถูกซ่อนเอาไว้ คุณจะต้องมีข่าวกรองชั้นดีเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งมันก็มาจากพวกโจรที่ยอมแพ้นั่นล่ะ เขาก็ไม่คอ่ยชอบนะที่จะเรียกพวกนั้นว่าโจร คุณควรจะเรียกมันว่าผู้ก่อการร้ายคอมมี่มากกว่า แต่โดยทั่วๆไปแล้วคำว่าโจรหมายถึงพวกนั้นล่ะ”
-พลฯ เบิร์ต ก๊อดซิฟ ประจำการที่มลายา 1953-54
การให้เอกราช
ในเดือนสิงหาคม 1957 สหพันธรัฐมลายาได้รับอนุมัติให้เป็นเอกราชและพวกก่อความไม่สงบได้สูญเสียมูลเหตุในการทำสงครามปลดแอกอาณานิคม มีคอมมี่จำนวนมากยอมละทิ้งการสู้รบ ต่อมาในปี 1960 สถานการณ์ฉุกเฉินได้จบสิ้นลง มีทหารมากกว่า 500 คนและตำนรวจ 1300 คนเสียชีวิตในระหว่างความขัดแย้ง ส่วนคอมมี่ได้สูญเสียโดยประมาณดังนี้ มีมากกว่า 6 พันคนเสียชีวิต และอีก 1200 คนถูกจับกุม ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นหนึ่งในการต่อต้านการก่อความไม่สงบที่ประสบความสำเร็จโดยโลกตะวันตกที่มีไม่มากนัก ยังคงเป็นกรณีศึกษาในปัจจุบัน มันได้ให้บทเรียนที่สำคัญมากมายว่าการปฏิบัติการควรทำอย่างไร
โฆษณา