Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อารยธรรมปรัมปรา
•
ติดตาม
23 มิ.ย. 2020 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
• เปิดโลกหลังความตายของชาวไอยคุปต์
ประเดิมเรื่องแรก ขอหยิบเรื่องใหญ่ในอารยธรรมอียิปต์มาเล่าเลยก็แล้วกันนะครับ เรื่องใหญ่ที่ว่านั่นคือ 'ความเชื่อว่าด้วยโลกหลังความตาย' นั่นเอง
ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ชาวอียิปต์เชื่อว่าเมื่อพวกเขาลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว จะต้องนำศพไปผ่านกระบวนการทำมัมมี่ เพราะวิญญาณจะสามารถกลับเข้ามายังร่างเดิมได้อีก เพื่อใช้ชีวิตนิรันดร์ในโลกหลังความตาย
แล้วโลกหลังความตายของชาวอียิปต์คือที่ไหนกันล่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่าปากต่อปาก แต่ถูกบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจน
จริงอยู่ที่คนตายบอกไม่ได้ว่าตัวเองตายแล้วไปไหน แต่โชคดีที่นักบวชไอยคุปต์สามารถเล่าได้เป็นฉาก ๆ แถมเสมียนจากเมืองธีปส์นามว่า อะนิ (Ani) ยังบรรยายทั้งภาพและตัวอักษรบนปาปิรัสยาว 80 ฟุตอีกด้วยซ้ำ
คราวนี้เราจะไปท่องโลกหลังความตายของชาวอียิปต์กันแล้วนะครับ หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินจำเริญใจกับการเดินทางครั้งนี้
เรือสุริยะของเทพเจ้ารา [Public Domain]
ปักหมุดเริ่มต้นกันที่ อียิปต์สมัยอาณาจักรเก่า (Old Kingdom of Egypt) การไปสู่สวรรค์เป็นเอกสิทธิ์ของเชื้อพระวงศ์แต่เพียงเท่านั้น
เมื่อฟาโรห์และราชินีสิ้นพระชนม์ชีพลง นักบวชจะท่องบทสวดบริกรรมคาถา ส่งพระองค์โดยสารไปกับเรือสุริยะซึ่งเป็นยานพาหนะของเทพเจ้ารา (Ra) เพื่อจะไปหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเทพเจ้า บนฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่ไม่มีวันดับ
เรื่องราวเหล่านี้ถูกจารึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิก (Hieroglyphs) บริเวณห้องฝังศพภายในพีระมิดแห่งอาณาจักรเก่านั่นเองครับ
คัมภีร์สองทาง - Book of Two Ways [Werner Forman/Universal Images Group, via Getty Images]
เมื่อเวลาล่วงเลยมายัง อียิปต์สมัยอาณาจักรกลาง (Middle Kingdom of Egypt) ขุนนางและสามัญชนคนธรรมดาก็มีสิทธิได้เดินทางไปสู่โลกหลังความตายบ้างแล้ว
แต่ก็ไม่ได้ไปง่าย ๆ หรอกนะครับ เพราะมีเงื่อนไขว่าผู้นั้นต้องมี 'คัมภีร์สองทาง' (Book of Two Ways) เป็นคัมภีร์ท่องยมโลกที่เขียนไว้ภายในโลงศพ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า จารึกโลงศพ (Coffin Texts)
เส้นทางสู่โลกหลังความตายที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ดังกล่าวประกอบด้วยคาถากว่าหนึ่งพันบท ใช้ความดีความชั่วเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เป็นเครื่องตัดสิน
หากผู้ใดประกอบแต่ความดีตลอดทั้งชีวิต ผู้นั้นจะได้ไปใช้ชีวิตหลังความตายยังอาณาจักรของเทพเจ้าโอซิริส (Osiris) แต่หากก่อบาปไม่เว้นว่าง ก็จะถูกนำตัวไปยังทะเลเพลิง ที่มีปีศาจและความมืดมิดคอยควบคุมอยู่ตลอดกาล
การคว้านท้องเพื่อควักอวัยวะภายในศพ ขั้นตอนหนึ่งในการทำมัมมี่ [Public Domain]
กาลเวลาล่วงเลยมาถึง อียิปต์สมัยอาณาจักรใหม่ (New Kingdom of Egypt) ที่สามัญชนคนทั่วไปสามารถเดินทางไปสู่โลกหลังความตายได้เช่นกัน แต่ระหว่างทางนั้นซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่าเดิมหลายเท่าตัว
เมื่อชาวอียิปต์วายชนม์ลงแล้ว ร่างกายจะถูกจัดการให้เป็นมัมมี่ด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิมที่เคยมีมา ส่วนขั้นตอนการทำมัมมี่เอาไว้จะมาเล่าอย่างละเอียดในครั้งต่อไปก็แล้วกันนะครับ
Papyrus of Ani - Book of the Dead คัมภีร์มรณะ [Public Domain]
ยุคนี้คนตายก็ต้องมีคัมภีร์ท่องยมโลกอีกเช่นกัน ซึ่งเรียกขานกันว่า 'คัมภีร์มรณะ' (Book of the Dead) ซึ่งบรรจุคาถา บทสวด รหัสประตูเอาไว้อย่างครบถ้วน
นอกจากนั้นขณะทำพิธีศพ อวัยวะส่วนอื่นจะถูกควักออกไป เหลือเอาไว้เพียงหัวใจ และภายในโลงก็จะบรรจุ เครื่องรางรูปแมลงทับ ทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ระหว่างเดินทางสู่โลกหลังความตาย
เมื่อวิญญาณของผู้ล่วงลับเดินทางมาถึงอุโมงค์แห่งโลกใต้พิภพพร้อมกับคัมภีร์ หัวใจ และเครื่องรางรูปแมลงทับ โดยมี เทพเจ้าอนูบิส (Anubis) ผู้มีเศียรเป็นหมาในสีดำเป็นผู้นำทาง
ระหว่างทางไปสู่โลกหลังความตายเต็มไปด้วยภยันตราย ทั้งทะเลสาบไฟ กำแพงเวทมนตร์ และอสูรร้ายที่คอยเฝ้ายามอยู่ไม่คลาดสายตา
โดยเฉพาะงูที่ดักซุ่มเพื่อจะกลืนกินดวงวิญญาณ ผู้เดินทางจึงต้องใช้เวทมนตร์ในคัมภีร์มรณะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปให้ถึง ห้องโถงแห่งมาอัต (Maat) เทพีแห่งความจริงและความยุติธรรม ซึ่งกำลังรอที่จะนำดวงวิญญาณ ไปสู่การพิพากษาครั้งสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
วิญญาณทำการขานพระนามและปฏิเสธบาปต่อเทพเจ้าทั้ง 42 พระองค์ [Soutekh67 CC BY-SA 3.0]
ดวงวิญญาณจะต้องพบกับเทพเจ้าทั้ง 42 องค์ เพื่อขานนามให้ถูกต้อง รวมทั้งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าด้วยบาปครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่
ถึงแม้ว่าวิญญาณจะเคยก่อบาปมาบ้างก็ตาม แต่ผู้ตายมีสิทธิโกหกอย่างไรก็ได้ เพื่อโน้มน้าวเทพเจ้าว่าตนเคยใช้ชีวิตอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
แต่อย่างหนึ่งที่ต้องไม่ลืมนั่นคือ เครื่องรางรูปแมลงทับ จะคอยทำหน้าที่เป็นพยานให้ทุกคำพูดที่เป็นความจริงเท่านั้น และมันจะเชื่อมโยงไปยังขั้นตอนต่อไป
การพิพากษาโดยการชั่งน้ำหนักหัวใจกับขนนกกระจอกเทศบริสุทธิ์ [Public Domain]
เพราะเมื่อเสร็จสิ้นจากการพิพากษาดังกล่าว ก็จะถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดคือ การนำหัวใจที่ติดตัวมาไปชั่งน้ำหนักกับขนนกกระจอกเทศบริสุทธิ์
หากหัวใจมีน้ำหนักเบากว่าขนนกกระจอกเทศ แปลว่าดวงวิญญาณนั้นกระทำดีอย่างคำพูดในห้องพิพากษาทุกประการ เทพเจ้าโอซิริสจะส่งให้ไปใช้ชีวิตในทุ่งต้นกกแดนสวรรค์
แต่หากชั่งน้ำหนักแล้วหัวใจหนักกว่าขนนกกระจอกเทศ ถือว่าเป็นดวงวิญญาณแห่งบาป จะถูกพิพากษาให้ปีศาจอัมมุต (Ammut) ซึ่งเป็นอสูรรวมร่างของจระเข้ เสือดาว และฮิปโปโปเตมัส กัดกินจนไม่สามารถเดินทางต่อได้นั่นเอง
ทุ่งต้นกก (Field of Reeds) สวรรค์โลกหลังความตายของชาวอียิปต์ [Public Domain]
เมื่อดวงวิญญาณผ่านการพิพากษาชั่งน้ำหนักหัวใจมาได้ ก็จะเข้าสู่สรวงสวรรค์ของชาวอียิปต์นั่นคือ ทุ่งต้นกก (Field of Reeds) ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ดินแดนหลังความตายที่ดวงวิญญาณที่กระทำดีจะได้มาอาศัยอยู่ร่วมกัน ดวงวิญญาณจะได้พบกับพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ที่แห่งนี้ทุกคนไม่มีความเจ็บปวดและความโศกเศร้าใด ๆ จะมีแต่ความสุขที่ทุกคนได้พบอย่างแท้จริง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเรื่องราวโลกหลังความตายของชาวไอยคุปต์ เรียกว่าเป็นการผจญภัยขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ใช่ไหมล่ะครับ
และนี่คือเรื่องราวในอารยธรรมโบราณที่นำมาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าทุกคนจะได้อะไรไปบ้างจากบทความนี้นะครับ
พบกันใหม่โอกาสหน้า ฝากติดตามกันด้วยนะครับ 🙏
ข้อมูลอ้างอิง
- Papyrus of Ani : E. A. Wallis Budge
- Youtube, The Egyptian Book of the Dead : TED-Ed
-
https://ancientegyptonline.co.uk/booktwoways/
-
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Book_of_the_Dead
5 บันทึก
10
6
6
5
10
6
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย